5 สุดยอดกุนซือเจ้าพ่อ เอฟเอ คัพ

ล่วงเลยผ่านเข้ามาถึงโค้งสุดท้ายของศึกลูกหนังในทวีปยุโรปฤดูกาล 2008-2009 เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เส้นทางการลุ้นแชมป์ของลีกต่างๆ คงเห็นได้ชัดเจนกว่า 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว ว่าหน้าตาของแชมป์ลีกแต่ละประเทศจะเป็นยอดสโมสรนามใดกันบ้าง

นอกจากฟุตบอลลีกแล้ว การแข่งขันฟุตบอลถ้วยของแต่ละประเทศ ก็งวดกันเข้ามาทุกขณะ อย่าง เอฟเอ คัพ ก็ดำเนินมาจนถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ และได้ตัวแทนเข้าไปถึงรอบตัดเชือกแล้ว 2 ทีม คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี 2 ยอดทีมในยุคปัจจุบัน

หากจะกล่าวถึงฟุตบอลถ้วยซึ่งเก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง เอฟเอ คัพ ขึ้นมาแล้ว ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาได้จารึกเหตุการณ์ และสถิติสำคัญๆ ต่างๆ ไว้อย่างมากมาย ตั้งแต่เริ่มหวดกันแบบเตะแล้วตกรอบทันทีเมื่อปี 1871-1872 หรือกว่า 138 ปีที่แล้ว วันนี้ลองมาดูสถิติของ ยอดกุนซือ ซึ่งพาทีมภายใต้การคุมบังเหียนของพวกเขาเหล่านั้น เก็บชัยชนะบันทึกลงในประวัติศาสตร์ได้มากที่สุดกันดีกว่า


อันดับ 5 : เกรแฮม เทย์เลอร์ (ลินคอลน์ ซิตี้, วัตฟอร์ด 2 สมัย, แอสตัน วิลล่า 2 สมัย, วูล์ฟแฮมป์ตัน)

ชนะ 45 ครั้ง เข้ารอบชิงชนะเลิศ 1 ครั้ง คว้าแชมป์ 0 ครั้ง

อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ สะสมชัยชนะได้ถึง 45 ครั้ง ในเอฟเอ คัพ ตลอดชีวิตการเป็นกุนซือ ซึ่งยาวนานกว่า 31 ปี จุดสูงสุดของสถิติพาลูกทีมลงดวลแข้งในฟุตบอลรายการนี้คือการเข็น แตนอาละวาด วัตฟอร์ด สโมสรที่เขาผูกพันมากที่สุด ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศในปี 1984 แต่น่าเสียดายที่พวกเขาต้องแพ้ให้ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ยอดทีมแห่งยุคนั้นไปอย่างง่ายดาย 0-2 แม้ว่า อยู่จัดการทีมอย่าง บิลล์ นิโคลสัน และ คีธ เบอร์กินชอว์ ของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะพาทีมคว้าแชมป์มากกว่า 1 ครั้ง แต่จากสถิติแสดงให้เห็นถึงความเหนียวแน่นหนึบในแต่ละรอบของผู้จัดการทีมรายนี้ ในการคุมทีม วัตฟอร์ด ครั้งแรกของเขา หัวผักกาด พาทีมผ่านเข้าถึงรอบ 5 เป็นอย่างน้อยได้ถึง 7 สมัย จาก 8 ฤดูกาลที่คุมทีม ระหว่างปี 1980-1987


อันดับ 4 : อาร์แซน เวนเกอร์ (อาร์เซน่อล)

ชนะ 46 ครั้ง เข้าชิงชนะเลิศ 5 ครั้ง คว้าแชมป์ 4 ครั้ง

ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสยังตั้งเป้าที่จะคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ให้ได้ในปีนี้ นี่เป็นฤดูกาลที่ 10 จาก 13 ที่พลพรรค ไอ้ปืนใหญ่ ผ่านเข้ามาถึงรอบ 5 ได้เป็นอย่างน้อย เขาไม่ใช่กุนซือที่ไม่ใช่ชาวอังกฤษคนแรกที่ได้ชูถ้วย เอฟเอ คัพ แต่เป็น รุด กุลลิต ที่พา เชลซี เถลิงแชมป์ เมื่อปี 1997 ต่างหากที่ได้ถูกบันทึกเอาไว้ อย่างไรก็แล้วแต่ เขาเป็นกุนซือต่างชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ด้วยการครองแชมป์ในปี 1998, 2002, 2003 และ 2005 นอกจากนี้ เวนเกอร์ ยังได้ถูกบันทึกว่า ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำศึกนัดชิงดำ ระหว่างกุนซือต่างชาติที่ไม่ได้มาจากเกาะอังกฤษ เป็นครั้งแรกอีกด้วย เมื่อครั้งที่เขานำทีมแก้ในรอบชิงชนะเลิศครั้งแรก และครั้งเดียวต่อทีมของ เชราร์ด ฮุลลิเย่ร์ โค้ชตาโปนของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2001 นอกจากนี้ อดีตเทรนเนอร์ อาแอส โมนาโก ยังเป็นโค้ชต่างชาติคนแรกที่ครองแชมป์ ฟุตบอลลีก และฟุตบอลถ้วย ได้ในปีเดียวกัน คือปี 1998 ก่อนที่จะทำแบบเดียวกันนี้ได้อีกในปี 2002


อันดับ 3 - บิล แชงค์ลี่ย์ (คาร์ไลส์ล ยูไนเต็ด, กริมสบี้ ทาวน์, เวิร์คคิงตัน, ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์, ลิเวอร์พูล)

ชนะ 49 ครั้ง เข้ารองชิงชนะเลิศ 3 ครั้ง คว้าแชมป์ 2 ครั้ง[/b]

ไม่น้อยกว่า 40 ปีมาแล้วที่ตำนานแห่งชัยชนะของ บรมกุนซือรายนี้ได้เป็นสถิติยืนหยัดมาของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล และสถิติของเขาน่าจะคงอยู่ต่อไปตลอดกาล เขาเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่สร้าง ลิเวอร์พูล ให้เป็นที่รู้จักอย่างแท้จริง การสร้างตำนานห้องเก็บรองเท้าอันเลื่องชื่อในสนามแอนฟิลด์, ท่ามกลางความสำเร็จของเขานำ เดอะ เร้ดส์ เป็นแชมป์ เอฟเอ คัพ ครั้งแรกของสโมสรเมื่อปี 1965 เมื่อนำทีมทุบ ลีดส์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งยุค 2-1 เขาแพ้ในรอบชิงดำอีกครั้งต่อ อาร์เซน่อล ในปี 1971 แต่ท้ายสุดของชีวิตการคุมทีมของเขา ก็พา ยักษ์ใหญ่แห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ ทุบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เละเทะ 3-0 ในรอบชิงชนะเลิศปี 1974 และนี่เป็นเกมปิดตำนานบนเส้นทางลูกหนังของชายที่ชื่อ แชงค์ลี่ย์ ไปตลอดกาล


อันดับ 2 - แมตต์ บัสบี้ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ชนะ 61 ครั้ง เข้ารอบชิงชนะเลิศ 4 ครั้ง คว้าแชมป์ 2 ครั้ง

อีกหนึ่งตำนานผู้จัดการทีมชาวสกอตติช บัสบี้ ทั้งเอาชนะ และพ่ายแพ้ ในเกมนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ในยุค 1930 เมื่อครั้งค้าแข้งให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่เขากลับก้าวข้ามมาสร้างตำนานการคุมทีมให้คู่อริร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซะอย่างนั้น ตั้งแต่ปี 1945 ที่ตำนานเริ่มก่อตัวขึ้น เขาพา ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีก 5 สมัย ยูโรเปี้ยน คัพ 1 สมัย และยังมีผลงานที่โดดเด่นบนเวทีฟุตบอล เอฟเอ คัพ อีกด้วย ทีมยุคสถาปนาความเกรียงไกรของเขาเอาชนะ แบล็คพูล 4-2 ในปี 1948

คล้อยหลังมา 15 ปีต่อจากนั้น เขาคว้าแชมป์อีกครั้งด้วยการเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 แต่บางที ความทรงจำที่ดีที่สุดของ บัสบี้ อาจเป็นเกมที่พวกเขาพ่ายแพ้ ในปี 1957 บัสบี้ เบ็บส์ มาในฐานะแชมป์ลีก แต่กลับโดน แอสตัน วิลล่า เชือดไปอย่างน่าเสียดายในการแข่งขันที่สนาม เวมบลีย์ ในปีถัดมา กองทัพ ปีศาจแดง ของเขาก็ต้องถึงคราวเศร้ากับโศกนาฏกรรมที่เมือง มิวนิค ซึ่งมีนักเตะเหลือรอดออกมาจากซากเครื่องบินเพียง 8 รายเท่านั้น บัสบี้ ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส กลับมายังสนาม เวมบลีย์ได้อีกครั้ง และเป็นฝ่ายเอาชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 2-0 คว้าแชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่


อันดับ 1 - อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ชนะ 72 ครั้ง เข้ารอบชิงชนะเลิศ 8 ครั้ง คว้าแชมป์ 5 ครั้ง

เจ้าพ่อฟุตบอล เอฟเอ คัพ แบบที่ไม่มีใครโต้เถียงได้ คือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งสามารถเก็บชัยชนะได้สูงสุดถึง 72 ครั้ง เฟอร์กี้ มีความสุขในการไล่ล่าแชมป์ เอฟเอ คัพ เช่นเดียวกับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เป็นว่าเล่น เขาได้ชูถ้วยในปี 1990, 1994, 1996, 1999 และ 2004 รวมถึงเข้าถึงรอบชิงดำในปี 1995, 2005 และ 2007 เขามีเป้าหมายในการไล่ล่าแชมป์อีกครั้งในปีนี้ เพื่อสานฝันการล่าแชมป์ 5 แชมป์ในฤดูกาลนี้ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของโคตรกุนซือแดนวิสกี้ ต้องย้อนกลับไปขอบคุณลูกยิงของ มาร์ค โรบินส์ ที่ช่วยทำประตูโทนเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-0 ในรอบ 3 ซึ่งหากไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เขาก็คงโดนตะเพิดออกจาก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังจากคว้าน้ำเหลวมาตลอด 4 ปีเป็นแน่แท้ พวกเขาก้าวเข้าไปคว้าแชมป์ในปีนั้น และที่เหลือก็เป็นตำนาน 

             ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย  lentee