ผีแชมป์คาร์ลิ่ง!แม่นโทษคว่ำไก่กระจาย4-1
ถ้วยใบเล็กสุดแต่อาจจะลุ้นเหนื่อยที่สุดหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเจอทีเด็ดท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ยื้อ 120 นาทีก่อนมาวัดดวงเอาชนะคว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพด้วยการดวลจุดโทษตัดสินที่ลูกทีมเร้ดแนปป์ตีนบอดพลาดสองคนก่อนแพ้ขาด 4-1 ส่วนปิศาจแดงรวยความสำเร็จได้แชมป์ไปแล้ว 2 รายการ
คาร์ลิ่ง คัพนัดชิงชนะเลิศ
แมนฯยูฯ 0-0 สเปอร์ส
(แมนฯยูฯคว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพด้วยการยิงจุดโทษ 4-1 หลังต่อเวลา 120 นาที)
ประตู : -
สนาม : เวมบลีย์
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจัดทัพผสมตามที่ได้ป่าวประกาศไว้โดยให้โอกาสดาวรุ่งอย่างเบน ฟอสเตอร์,ดาร์รอน กิ๊บสันและแดนนี่ เวลเบ็คที่เหลือก็เป็นซีเนียร์มีจอนนี่ อีแวนส์กองหลังดาวรุ่งที่จับคู่กับริโอในขณะที่เซอร์ไพรซ์คือไร้เงาเวย์น รูนีย์และดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่ม้านั่งสำรองด้วย
ด้านแฮร์รี่ เร้ดแนปป์ไม่มีตัวหลักอย่างร็อบบี้ คีน,วิลสัน ปาลาซิออสและคาร์โล่ คูดิชินี่ส่วนโจนาธาน วู้ดเกทก็ยังไม่หายดีจากหัวแตกในเกมชนะฮัลล์ ซิตี้แต่เกมนี้ท่าจะมันเพราะใช้หน้าคู่ลุยแหลกทั้งสองทีมโดยไก่เดือยทองเลือกเบนท์กับพาฟลูเชนโก้ที่ไฟท์บังคับแบบไร้ตัวเลือก
ครึ่งแรก
บอลรอบชิงเกมแดนกลางเป็นขุมทองในการแย่งกันเอาชนะและช่วงแรกทั้งคู่ยังแรงดี+จังหวะเกมยังไม่เข้าที่ทำให้ขี่กันอยู่แต่นาทีที่ 5 ยูไนเต็ดได้ทักทายก่อนหลังเตเบซถูกทำฟาว์ลหน้าเขตโทษระยะ 22 หลาเป็นโรนัลโด้รับหน้าที่สังหารยืนกางขายิงเต็มข้อบอลแรงข้ามคานออกไปซะงั้น
จากนั้นนาทีต่อมาเอ็นก็อตโต้จ่ายขวาสนามห่วยแตกไปเข้าเท้านานี่ที่กระชากตัดตรงหน้าเขตโทษแล้วแทงให้เตเบซซึ่งหันหลังพังกองหลังแล้วป้ายออกให้โด้จิ๋ววิ่งมาซัดในกรอบแต่บอลเข้าซองโกเมสนิ่ม
เล่นไปเรื่อยๆแดนกลางของยูไนเต็ดเก็บบอลถ่ายบอลได้ดีกว่าโดยเฉพาะนานี่แม้จะติดขี้เลี้ยงแต่ป่วนแนวรับสเปอร์สได้ดีพอสมควร
นาที 13 เตเบซลองยิงไกล 20 หลาติดบล็อกบอลกระเด้งมาเข้าทางกิ๊บสันดาวรุ่งที่วิ่งอัดเต็มข้อ 30 หลาบอลพุ่งตรงเป็นท่อผ่านมือโกเมสเฉี่ยวเสามเหลี่ยมแบบต้องเข้าอย่างน่าเสียดาย
อีก 2 นาทีต่อมานี่นีได้บอลกหน้ากรอบโทษเยื้องมุมซ้ายก่อนลากตัดเข้าใน 2-3 ก้าวแล้วยิงด้วยอีขวาบอลพุ่งเลียดไปที่เสาแรกแต่โกเมสล้มตัวปัดเอาชัวร์ไว้ก่อน
นาที 17 ยูไนเต็ดเผลชอร์ลูก้าจ่ายตัดหลังเอวร่าให้เลนนอนวิ่งตัดทะลุถึงเส้นหลังในกรอบโทษและเป็นจังหวะที่ฟอสเตอร์ปรี่ออกมาแต่ปีกทีมชาติอังกฤษเร็วกว่าเลยตบบอลเข้ากลางยังดีที่ถูกเคลียร์ก่อนไม่งั้นงานเข้าแน่
จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกยังเปิดเกมรุกเข้าทำทางปีกทั้งข้างและนาที 24 เฟอร์ดินานด์เก็บตกลูกที่เคลียร์แย่งกันไปมาหน้าเขตโทษก่อนยิงเต็มข้อ 25 หลาบอลพุ่งใบไม้ร่วงไปหล่นบนเพดานตาข่ายอย่างุสดเสียว
เกมแลกกันมันหยด..ก่อนถึงครึ่งชั่วโมง 2 นาทีเบนท์ได้บอลแทงทะลุเข้ากรอบโทษก่อนลากเข้าไปแล้วยิงเต็มข้อบอลพุ่งแรงชนิดที่ฟอสเตอร์รับแล้วยังกระฉอกสุดระทึก
ช่วง 4-5 นาทีหลังนี่เหมือนไก่เดือยทองจะคะนองเป็นฝ่ายครองบอลเข้าใส่โดยเลนนอนมีบทบาทลากเลื้อยป่วนหนีเอวร่าเข้ากรอบโทษถึงเส้นหลังยังดีลูกเปิดเข้าในติดผู้เล่นยูไนเต็ดไม่งั้นได้ล่อเป้าเผาขนแน่
ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาทีเลนนอนเก็บตกลูกฟรีคิกก่อนครอสบอลตรงปีกซ้ายเข้าเขตโทษที่เสาแรกแต่พาฟลูเชนโก้วิ่งมาขวิดแบบหันหลังบอลโด่งข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 42 ปิศาจแดงได้โอกาสบ้างเมื่อโด้จิ๋วลากจี้อยู่ตรงหน้ากรอบโทษก่อนแยงให้โอเชวิ่งทะลุช่องเข้าไปตบบอลกลับให้เตเบซหมุนยิงด้วยอีขวาแต่ติดบล็อกดอว์สันที่บล็อกทันควัน
ชวงทดเจ็บสเปอร์สซึ่งกลับมาครองเกมได้ลุ้นอีกหลังโมดริชจ่ายบอลตัดหลังเอวร่าที่ดันไปยืนห้อยจนเลนอนไม่ล้ำวิ่งควบไปตบบอลจากเส้นหลังแต่ริโอดักทางสกัดออกหลังแถมมีโวยวายด่าเอวร่าที่ยืนไม่เช็กไลน์ ก่อนหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0 ที่สูสีกันสุดๆ
ครึ่งหลัง
เล่นมาแค่ 3 นาทีโรนัลโด้ทำชิ่งกับโอเชจนหลุดขึ้นมาทางกรอบโทษฝั่งขวาก่อนตบบอลเข้าในบอลเวลเบ็คแถมไม่ถึงเตเบซจนถูกเคลียร์ทิ้งออกไปได้
เกมรุกของยูไนเต็ดในแดนหน้าไม่อันตรายมากนักทำให้นาที 56 ป๋าเปลี่ยนเอาอันแดร์สันลงมาแทนและมีการปรับเปลี่ยนเป็นระบบ 4-3-3 ที่นานี่โยกไปเล่นซ้ายเพื่อดึงฝูงคนหนีออกจากปีกขวาที่แมนฯยูฯเน้นขึ้นแทบจะตลอด
สเปอร์สหันมาเล่นงานปิศาจแดงด้วยลูกเปิดบอมบ์เข้าเขตโทษทำให้ฟอสเตอร์และริโอต้องเหนื่อยหนักมากขึ้นเรื่อยๆโดยที่เกมรุกของลูกทีมป๋าแทบไร้พิศสงโดยเฉพาะกองหน้าที่ไม่สามารถสานต่อผลงานของพวกปีกได้เลย
นาที 61 ลูกเตะมุมย้อยโด่งเกินไปของกิ๊บสันเหมือนจะไม่อันตรายแต่บอลที่โหม่งแย่งกันทะลักมาถึงอีแวนส์ที่ยิงสวนจากหน้ากรอบโทษบอลแป๊กโดนไม่เต็มแต่ก็ยังไม่เข้าทางเตเบซที่ไขว้เผาขนบอลถากเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
ตอนนี้สเปอร์สกลายเป็นบอลเขี้ยวไปแล้วยิ่งปิศาจแดงไม่มีพวกรูนีย์หรือเบอร์บาตอฟแล้วเกมยิ่งไม่ได้เหนือกว่าเท่าไหร่เลย
นาที 71 สเปอร์สน่าจะขึ้นนำสุดๆหลังเอก็อตโต้เปิดบอลเลียดจากซ้ายเป็นโมดริชยืนปล่อยบอลเลยไปถึงเลนนอนที่มีเวลาเหลือเฟือจับแล้วแต่งยิงเต็มๆในกรอบระยะ 12 หลาแต่ฟอสเตอร์ปัดสองมือสุดเหนียว
อีก 4 นาทีต่อมายูไนเต็ดสบโอกาสบ้างเมื่ออันแดร์สันได้สับยิงด้วยอีซ้ายหน้ากรอบบอลพุ่งเลียดแรงแต่โกเมสดักทางล้มตัวคว้าสองมือเอาไว้ได้
ทั้งคู่ยังเปิดเกมรุกแลกใส่กันอย่างสนุกแต่แนวรับทั้งคู่ยังไม่พลาดแต่ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 แฟนสเปอร์สเกือบช็อกตาตั้งหลังโรนัลโด้กระชากฝ่าด่าตรงกรอบโทษฝั่งขวาแหวกสองแข้งสเปอร์สตัดเข้าในก่อนตะบันยิงด้วยอีซ้ายเต็มข้อบอลชนเสาดังสนั่น ก่อนหมด 90 นาทีต้องไปต่อเวลากันใหม่
ต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก
เริ่มมา 6 นาทีไอ้บังโชว์ลูกห้าวเลี้ยงเลาะตัดเข้าขวาเขตโทษก่อนยิงด้วยอีขวาแต่บอลบดเลียดเข้ามือโกเมสสบายๆ
ช่วงต่อเวลาต้องทำใจเพราะไม่มีใครอยากเสี่ยงแลกแล้วตายในช่วง 30 นาทีที่เหลือและนาที 102 เลนนอนลงไปนอนเจ็บเล่นต่อไม่ไหวไม่รู้ตะคริวหรือเปล่าแต่เบนท์ลีย์ลงมาแทนแล้ว
ช่วงทดเจ็บของช่วงต่อเวลาเอวร่าเปิดบอลจากปีกซ้ายให้เตเบซเทคคนเดียวบอกตกพื้นหลุดเสาออกไปชนิดหัวใจแฟนไก่ด้านหลังประตูเกือบร่วงพร้อมหงอนบนหัว หมดเวลาก็ยังเสมอ 0-0
ต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง
เล่นไป 4 นาทีสเปอร์สได้ฟรีคิกเยื้องทางซ้ายเป็นเบนท์ลีย์รับหน้าที่ปั่นแล้วซัดโค้งย้อยหลอกยิงบอลไปหล่นบนเพดานตาข่ายให้แฟนๆขวัญอ่อนแอบเสียวเล่น
สเปอร์สมาดูแย่ในช่วงท้ายหลังดอว์สันเหยียดขาสกัดบอลหน้ากรอบจนเป็นตระคริวก่อนปฐมพยาบาลอยู่พักนึงและก่อนหมดเวลา 5 นาทีเบนท์เกือบเป็นฮีโร่หลังเก็บตกลูกที่โมดริชลากกระชากหนีมาจากปีกซ้ายแล้วตัดเข้าในยิงติดบล็อกจนอดีตหอกชาร์ลตันมาเก็บตกในเขตโทษฝั่งขวาแล้วแต่งยิงทะลุวิดิชที่ล้มตัวบล็อกแต่ฟอสเตอร์ล้มตัวเซฟด้วยขาหวุดหวิด
นาที 129 เอวร่าสบโอกาสยิงบนกรอบด้วยลูกวอลเลย์จากการโหม่งแย่งกันของอีแวนส์กับผู้เล่นสเปอร์สแต่บอลกลับพุ่งเฉี่ยวคานออกแบบน่าเข้าสุดๆ
ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้เสมอกัน 0-0 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษที่แมนฯยูฯชนะไป 4-1 คว้าแชมป์คาร์ลิ่งสมัยที่ 3 แล้วซิวแชมป์ในฤดูกาลนี้ไปแล้ว 2 ถ้วยเหลือพรีเมียร์ลีกที่น่าจะแบเบอร์รวมไปถึงเอฟเอ คัพและแชมเปี้ยนส์ลีกอีกด้วย
แมนฯยูฯ 1-0 สเปอร์ส : กืกส์(เข้า)
แมนฯยูฯ 1-0 สเปอร์ส : โอฮาร่า(ไม่เข้า)
แมนฯยูฯ 2-0 สเปอร์ส : เตเบซ(เข้า)
แมนฯยูฯ 2-1 สเปอร์ส : ชอร์ลูก้า(เข้า)
แมนฯยูฯ 3-1 สเปอร์ส : โรนัลโด้(เข้า)
แมนฯยูฯ 3-1 สเปอร์ส : เบนท์ลีย์(ไม่เข้า)
แมนฯยูฯ 4-1 สเปอร์ส : อันแดร์สัน(เข้า)
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนฯยูฯ : เบน ฟอสเตอร์ 8 *,จอห์น โอเช 6 (วิดิช น.76,7),จอนนี่ อีแวนส์ 8,ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7,ปาทริซ เอวร่า 6,คริสติอาโน่ โรนัลโด้ 7 ,พอล สโคลส์ 7 ,ดาร์รอน กิ๊บสัน 5(กิกส์ น.91,6),นานี่ 7,คาร์ลอส เตเบซ 6,แดนนี่ เวลเบ็ค 4(อันแดร์สัน น.56,7)
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : คูสแซ็ค,กิกส์,ปาร์ค,พอสเซบอน,เอเคอร์สลีย์
สเปอร์ส : เฮเรลโญ่ โกเมส 7,เวดราน ชอร์ลูก้า 7,ไมเคิ่ล ดอว์สัน 7,เลดลีย์ คิง 7,อัสซู เอก็อตโต้ 7,อารอน เลนนอน 8(เบนท์ลีย์ น.102,4),เจอร์เมน จีนาส 8(เบล น.98,7),ดิดิเยร์ โซโกร่า 8,ลูก้า โมดริช 7,ดาร์เรน เบนท์ 5,โรมัน พาฟลูเชนโก้ 4(โอฮาร่า น.65,7)
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : อัลน์วิค,ฮัดเดิลสตัน,กุนเทอร์,ทารับท์
ขอขอบคุณเนื้อหาและภาพดีๆจาก www.lentee.com
ผีแชมป์คาร์ลิ่ง!แม่นโทษคว่ำไก่กระจาย4-1
หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ ปีศาจแดง แมนยู ผีแชมป์คาร์ลิ่ง!แม่นโทษคว่ำไก่กระจาย4-1
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!