โด้จิ๋วซัดฟรีคิก2-1 ทิ้งห่าง 8 แต้ม

ชนเสา+รอดโทษ!ผีโล่งโด้จิ๋วซัดฟรีคิก2-1

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดออกแรงเหนื่อยลิ้นห้อยหลังนำอยู่ดีๆถูกตีเสมอก่อนเกือบเสียท่าให้แบล็คเบิร์นที่ยิงชนเสาแถมรอดจุดโทษและท้ายที่สุดมาได้ประตูชัยจากฟรีคิกสุดงามของคริสติอาโน่ โรนัลโด้คว้าชัยหวุดหวิด 2-1 แซงหนีลิเวอร์พูลเป็น 8 แต้มจ่อแชมป์เข้าทุกทีแล้ว

แมนฯยูฯ 2-1 แบล็คเบิร์น

ประตู : 1-0 รูนีย์ น.23,1-1 ซานตา ครูซ น.32,2-1 โรนัลโด้ น.60

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจัดทัพแบบมีห่วงศึกแชมเปี้ยนส์ลีกกับอินเตอร์ มิลานเลยพักเนมันย่า วิดิชและไรอัน กิกส์ไว้ที่ม้านั่งสำรองโดยคู่หน้าเวย์น รูนีย์ที่ยิงประตูเมื่อกลางสัปดาห์เป็นตัวจริงคู่ดิมิทาร์ เบอร์ตอฟ

ส่วนแซม อลาไดซ์ที่ห่างหายจากชัยชนะมา 3 นัดติดต่อกันใช้ซานตา ครูซยืนเป็นกองหน้าตัวเดียว

ครึ่งแรก

เขี่ยบอลแค่ 30 วินาทีโรนัลโด้ทำชิ่ง 1-2 กับโรนัลโด้หลุดเข้าหน้าเขตโทษแต่เจอกองหลังแบล็คเบิร์นล้มตัวสกัดออกมาได้ซะก่อน

จากนั้นไม่นานพอล สโคลส์ได้ยิงไกลคราวนี้ไม่แม่นเหมือนกลางสัปดาห์นัดเจอฟูแล่มบอลกลิ้งออกหลังไปเอง

บอลช่วง 10 นาทีแรกเป็นวันเวย์ขึงกุหลาบไฟตรงหน้าเขตโทษเกือบๆจะข้างเดียว

อย่างไรก็ตามหลังทีมเยือนจับจังหวะเล่นช้าความคะนองนาของแข้งปิศาจแดงเริ่มถดถอยลงและกลายเป็นเด็กบิ๊กแซมเริ่มสบโอกาสพาบอลสู้ได้ขึ้นมาเล็กน้อย

นาทีที่ 17 เจ้าถิ่นไม่ได้ประตูได้ยังไงหลังโรนัลโด้ยึกยักจะเปิดบอลตรงกรอบโทษฝั่งขวาบอลโค้งระดับเอวผ่านหน้ากรอบ 6 หลาเป็นคาร์ริคแอบมาเสาสองกำลังก้มโหม่งจ่อๆ 3 หลาแต่กองหลังแบล็คเบิร์นหวดทิ้งตัดหน้าอย่างไม่น่าเชื่อแถมจังหวะต่อมาบอลยังไม่ตายเป็นนานนี่เก็บตกตรงเส้นหลังแล้วแปะคืนให้เอวร่าวิ่งมายิงด้วยอีซ้ายบอลแถออกเสาไกลไปอีก

แต่แล้วนาที 23 ทำนบเกมรับของทีมเยือนน้ำแตกจนได้โดยเริ่มจากราฟาเอลจ่ายบอลจากแบ็คขวาให้นานี่(แล้วตัวเองวิ่งทำทาง) แต่ไอ้บังรับแล้วพลิกบอลหันหน้ามองรูนีย์ก่อนปาดบอลเข้าเขตโทษแบบตัดหลังเป็นไรอัน นีลเซ่นกัปตันทีมพยายามเหยียดขาสไลด์ตัดทางลำเลียงแต่ถูกแค่ปลายหัวเกือกจนบอลไม่ได้เปลี่ยนทางไปไหนก่อนที่รูนีย์จะมาเก็บตกยิงเผาขนแสกหน้าโรบินสันที่วิ่งหลับตาผวาแบบหมดสิทธิ์ 2 ประตูใน 2 นัดของหมูพลิ้วหลังหายเจ็บกลับมา

โดนเม็ดนี้เข้าไปกุหลาบชักเหี่ยวเพราะเกมรับลนลานช่วยกันสกัดเกมรุกของยูไนเต็ดที่มาเป็นชุดอย่างพัลวันโดยเฉพาตัวเทพอย่างเบอร์บี้,โด้จิ๋ว,ไอ้บังและหมูพลิ้ว

ถึงนาที 32 กองแช่งทั่วโลกดีใจกันเป็นแถวเมื่อแบล็คเบิร์นมาตีเสมอง่ายๆจากจังหวะที่เหมือนไม่มีอะไรเมื่อบอลลอยโด่งเป็นแข้งยูไนเต็ดโหม่งลงบอลไปกั๊กๆระหว่างนานี่กับสโคลส์ตรงกลางที่เหมือนจะเกี่ยงกันโดยไอ้บังก็บังสมชื่อเลยเจอออยเยอร์กองหลังที่ตามรดต้นคอมาจากแดนตัวเองฉกไปกินก่อนกระชากหลบเอวร่าแล้วแทงทะลุช่องให้ซานตา ครูซเบียดเอาชนะริโอแล้วแตะหนีคูสแซ็คแล้วแปยิงหักมุมโล่งๆบอลค่อยๆกลิ้งผ่านเส้นเข้าไปอย่างเหนือชั้น เสมอแล้ว 1-1 และเป็นการเสียประตูครั้งแรกในรอบ 15 นัดของปิศาจแดงนับตั้งแต่ถูกซาเมียร์ นาสรี่ยิงเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนปีที่แล้ว

เกมมาหยุดๆหายๆอยู่พักนึงจนถึงนาทีสุดท้ายนานี่เตะมุมโค้งโด่งมาเป็นจอนนี่ อีแวนส์กระโดดโขกเต็มๆบอลตุงตาข่ายไม่มีเหลือ เจ้าถิ่นนำ 2-1 แต่อยู่ดีๆฮาวเวิร์ด เวบบ์ผู้ตัดสินเป่าฟาว์ลท่ามกลางความมึนงงของนักเตะยูไนเต็ดและจากภาพช้าอย่างเดียวที่อธิบายได้คือการขึ้นค้ำคอพีเดอร์เซ่นของกองหลังดาวรุ่งซึ่งดูแล้วก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร ทำให้อีแวนส์ต้องร้องเพลงรอประตูแรกของตัวเองกับทีมรักต่อไป

ครึ่งหลัง

เริ่มมาได้แค่ 7 นาทียูไนเต็ดแอบเสียววาบหลังเมื่อลูกเตะมุมเป็นคีธ แอนดรูวส์โหม่งเต็มๆ 6 หลาแต่คูสแซ็คยืนดียืนคว้าติดมือพอดี

เจ้าถิ่นกลับมาเป็นฝ่ายขึงเกมอีกครั้งแต่นาที 56 โด้จิ่วรับใบเหลืองหลังเจตนาพุ่งล้มจะเอาฟรีคิกหน้าเขตโทษแต่ฮาวเวิร์ด เวบบ์ไม่โง่เหมือนร็อบ สไตลส์ ทีมเยือนเลยรอดตัวไป

จากนั้นนาทีเดียวพีเดอร์เซ่นล็อกหลอกคาร์ริคตรงหน้าเขตโทษระยะ 25 หลาก่อนซัดด้วยอีซ้ายบอลแฉลบริโอแต่ก็ยังย้อยพุ่งเข้ากรอบร้อน

นาทีถัดมาปิศาจแดงรอดตายเหลือเชื่อจากลูกสาดบอลเข้าเขตโทษย้อยซึ่งสวนทางกับการดันขึ้นมาของกองหลังเพื่อเช็กล้ำหน้าแต่นีลเซ่นไม่ล้ำแล่บยิงเหน่งๆตรงระยะ 9 หลาบอลผ่านคูสแซ็คชนเสากระเด้งมาเข้าทางดิยุฟที่ซ้ำไกลออกมานิดตรง 10 หลาแต่คูสแซควิ่งกลับมาล้มตัวตระครุบเอาไว้ได้ทัน

อย่างไรก็ตามนาที 60 เกมพลิกกลับมาเป็นฝั่งยูไนเต็ดได้ประตูเมื่อเอวร่าเจอแอนดรูวส์เสียบจากด้านหลังตรงริมกรอบโทษฝั่งซ้ายรับใบเหลืองไปและโด้จิ๋วรับหน้าสังหารกางขาวิ่งยิงบอลแหกข้ามกำแพงบอลพุ่งเสียบยัดหน้าต่างไกลเข้าไปอย่างสุดสวยชนิดที่พอล โรบินสันบินซึ่งมีจุดอ่อนในการเซฟฟรีคิกลูกนี้ก็ยืนตำแหน่งไม่ดีอีกด้วย

นาที 67 แฟนเร้ดอาร์มี่หนาวสะท้านหลังพีเดอร์เซ่นวิ่งทำทางทะลุหลุดเข้าเขตโทษแต่ราฟาเอลซึ่งออกตัวช้ากว่าใช้สองมือเหนี่ยวไหล่แล้วปล่อยจนแข้งนอร์เวย์ล้มลงแต่เวบบ์โบกมือให้เล่นต่อ เล่นเอาบิ๊กแซมออกงิ้วจนมีปากเสียงกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันที่ข้างสนามจนผู้ตัดสินที่สี่ต้องมาคั่นกลาง

ยูไนเต็ดกลายเป็นฝ่ายครองเกมเอาไว้ได้หมดแต่แล้วก่อนหมดเวลา 10 นาทีทีมเยือนได้ลุ้นจากจังหวะที่แม็คคาธีย์ตัวสำรองเก็บบอลแล้วปล่อยให้วอร์น็อคเปิดจากปีกซ้ายเลียดมาที่จุดนัดพบ 6 หลาให้ซานตาที่เสาไกลแต่เอวร่ารู้ทันเคลียร์หวดออกหลังไป

ก่อนหมดเวลา 3 นาทีรูนีย์โชว์ทักษะสุดเหนือหลังหันหลังรับบอลที่เอวร่าฝากมาและทำท่าจะเล่นชิ่ง 1-2 ให้แต่ม้วนพลิกกระชากออกอีกทางจนหลุดตัวประกบหายก่อนเปิดครอสไซด์เข้าเขตโทษให้เบอร์บาสอดมาโขกเน้นๆคนเดียวแต่บอลโด่งข้ามคานซะงั้น ถ้าเป็นโรนัลโด้ไม่น่าเหลือ

ช่วงทดเจ็บรูนีย์ลากเลื้อยไร้ตัวประกบจนหน้าประตูทางสะดวกแล้วส่องยิงเต็มข้อระยะ 20 หลาบอลเฉี่ยวสามเหลี่ยมชนิดที่โรบินสันไม่ได้พุ่งเซฟอะไรเลย หมดเวลา ยูไนเต็ดเอาชนะไป 2-1 คว้า 3 แต้มเป็นนัดที่ 19 ชิงหนีลิเวอร์พูลไปก่อน 8 แต้มแล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนฯยูฯ : โทมัส คูสแซ็ค,ราฟาเอล ดา ซิลวา,ริโอ เฟอร์ดินานด์,จอนนี่ อีแวนส์(วิดิช น.64),ปาทริซ เอวร่า,คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ,ไมเคิ่ล คาร์ริค,พอล สโคลส์(กิกส์ น.82),นานี่(เตเบซ น.64),เวย์น รูนีย์,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน,อังเดร ออยเยอร์,ไรอัน เนลสัน,กาเอล กิเวต์ ,สตีเฟ่น วอร์น็อค,วินเชนโซ่ เกรลล่า(แม็คคาธีย์ น.79),เอล ฮัดจิ ดิยุฟ(ทรีซีย์ น.83),คีธ แอนดรูวส์ ,เดวิด ดันน์(ตุนกาย น.74),มอร์เท่น แกมสต์ พีเดอร์เซ่น,โรเก้ ซานต้า ครูซ


























 

ขอขอบคุณ www.lentee.com