ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟมาแม่นถูกที่ถูกเวลาหลังยิงประตูชัยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ตเขี่ยท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สตกรอบ 5 เอฟเอ คัพโดยเกมพลิกผันหลังลูกทีมเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันมายิงรวดเดียวสองประตูใน 2 นาทีอย่างสุดทึ่ง
แมนฯยูไนเต็ด 2-1 สเปอร์ส
ประตู : 0-1 พาฟลูเชนโก้ น.5,1-1 สโคลส์ น.35,2-1 เบอร์บาตอฟ น.36
ผู้ชม : 75,041 คน
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจัดทัพใหญ่ตามอัตภาพเพราะนักเตะเจ็บเยอะมากโดยโรนัลโด้กับเบอร์บาตอฟลงเล่นอย่างครบครันด้านแฮร์รี่ เร้ดแนปป์ที่ร้องจะส่งสำรองก็ยัดตัวจริงครบองค์ประชุมเช่นกัน
เริ่มเกมมานกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำแค่ 5 นาทีไก่เดือยทองยิงขึ้นนำอย่างรวดเร็วหลังพาฟลูเชนโก้หนีประกบของวิดิชเข้าไปโขกลูกเปิดของฮัดเดิลสตันผ่านฟอสเตอร์เข้าไปไม่เหลือซาก
แมนฯยูฯยังเล่นหลับๆตื่นๆโดยวันนี้โอเชเล่นแบ็คขวาส่วนเนวิลล์ยืนเซนเตอร์ทำให้เกมรับดูแล้วออกแนวหลวมๆไม่น้อย
ส่วนฟาบิโอโยกมาเล่นแบ็คซ้ายและเล่นประทับใจและลูกจ่ายให้สโคลสืสร้างกดดันให้แข้งทีมเยือนแต่การประสานงานของเบอร์บาตอฟ,เตเบซและคาร์ริคยังทำอะไรอัล์นวิคไม่ได้เลย
แต่นาที 18 คาร์ริคจ่ายบอลสุดเนียนให้เตเบซยิงโดยจังหวะแรกติดบล็อกก่อนที่จะตามมาอัดซ้ำบอลชนคานดังสนั่นเมือง
อีก 2 นาทีต่อมาเวลเบ็คโชว์เหนือหนีแนวรับสเปอร์ก่อนหลุดไปทำท่าจะได้ส่องตีเสมอเน้นๆแต่กุนเทอร์พุ่งมาสไลด์ถอนรากถอนโคนตรงระยะ 6 หลาทันควัน
ตอนนี้ปิศาจแดงพับสนามบุกจะเอาประตูตีเสมอให้ได้ทำให้แนวรับสเปอร์สที่ปวกเปียกเป็นทุนเดิมอยู่แล้วต้องช่วยกันยันอย่างหนัก
นาที 23 สเปอร์สรอดตัวสุดๆหลังฟาบิโอกระชากมาสวยก่อนจ่ายให้เบอร์บาตอฟที่วางต่อให้เตเบซซัดเต็มตีนแม่ประนอมแต่อัล์นวิคโชว์ซูเปอร์เซฟปัดสุดเหลือเชื่อ
แต่แล้วเจ้าถิ่นมาตามตีเสมอจนได้จากลูกเตะมุมของคาร์ริคมาที่นอกเขตโทษเป็นสโคลส์ยืนซุ่มซัดลูกถนัดบอลไปแฉลบฮัดเดิลส์ตันผ่านมืออัล์นวิคเข้าไปอย่างโชคร้าย สกอร์เสมอกัน 1-1 แล้ว
ช็อก!!แค่นาทีเดียวสเปอร์สแทบไม่อยากเชื่อเมื่อต้องพบว่าตัวเองเป็นฝ่ายตามหลังหน้าตาเฉยเมื่อคาร์ริควางยาวจากแดนตัวเอง 30 หลาเป็นเบอร์บาเก็บบอลสุดเทพก่อนหลุดไปดวลยิงผ่านมืออัล์นวิคเข้าไปอีก ยูไนเต็ดนำสายฟ้าแลบ
ช่วงเวลาที่เหลือยูไนเต็ดเป็นฝ่ายครองเกมและสเปอร์สมีโอกาสช่วงท้าย 2 ครั้งแต่ไม่เป็นผลหมดครึ่งแรกยูไนเต็ดพลิกนำ 2-1
ครึ่งหลังเร้ดแนปป์เอาจิโอวานนี่ ดอส ซานโต๊ซที่ร้อยวันพันปีไม่เคยมาแทนโมดริชสงสัยตั้งใจให้เอามาฝ่าดงตีนผู้เล่นเจ้าถิ่นแน่นอน
รูปเกมส่วนใหญ่ยังเป็นของปิศาจแดงที่ครองบอลอยู่ฝ่ายเดียวและพาฟลูเชนโก้ถูกทิ้งไว้แดนหน้าอย่างโดดเดี่ยวจนเกมรุกไร้ความน่ากลัวไปเลยแต่เจ้าถิ่นก็เหมือนไม่อยากเสี่ยงเลือกผ่อนเกมเน้นปลอดภัยไว้ก่อนเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามป๋าต้องกุมหัวหลังฟาบิโอเจ็บจนต้องส่งดาวรุ่งชื่อแปลกริชาร์ด เอเคอร์ส์ลีย์มาแทนในนาที 53
โอกาสทำประตูของทั้งสองทีมหายไปดื้อๆนานกว่า 10 นาทีแต่นาที 66 โด้จิ๋วที่เหมือนไม่ค่อยเด่นนักก็ได้ยิงเน้นๆจนเกือบเอาชนะอัล์นวิคได้แต่นายทวารสำรองสเปอร์สเซฟไว้ไม่มีพลาด
นาที 72 เด็กผีร้องว้ายเมื่อโรน โทซิชแข้งใหม่ลงมาแทนโรนัลโด้และเกมรุกของยูไนเต็ดดูท่าวูบวาบขึ้นจากบรรดาตัวเก๋าอย่าสโคลส์,เบอร์บา,เวลเบ็คและเตเบซที่ทำให้ตอนนี้กลายเป็นบอลพร้อมยิงทุกเมื่อ
ช่วงเวลาที่เหลือยูไนเต็ดปิดเกมช่วยกันเล่นได้ดีจนเอาชนะสเปอร์สหวุดหวิด 2-1 เข้ารอบ 5 เอฟเอ คัพปิดท้ายวันเสาร์อย่างสบายอุราแต่ก็มีข่าวร้ายเพราะรายชื่อนักเตะเจ็บเกมนี้เป็นฟาบิโอกับเวลเบ็ค
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนฯยูไนเต็ด : เบน ฟอสเตอร์,จอห์น โอเชีย,แกรี่ เนวิลล์,เนมันยา วิดิช,ฟาบิโอ ดา ซิลวา(เอเคอร์ส์ลีย์ น.53),แดนนี่ เวลเบ็ค(เฟลทเชอร์ น.86),พอล สโคลส์,คริสติอาโน่ โรนัลโด้(โทซิช น.72),ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ,คาร์ลอส เตเบซ
สเปอร์ส : เบน อัล์นวิค,คริส กุนเทอร์,เวดราน ชอร์ลูก้า,ไมเคิ่ล ดอว์สัน,อัสซู เอก็อตโต้,เดวิด เบนท์ลีย์(เดโฟ น.72),ทอม ฮัดเดิลสตัน,ดิดิเยร์ โซโกร่า,แกเรธ เบล(ทารับ น.67),ลูก้า โมดริช(ดอส ซานโต๊ซ น.46),โรมัน พาฟลูเชนโก้
ขอขอคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee