เรือใบอัดผี 10 คน 3-1 เกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์

เรือใบอัดผี 10 คน 3-1 เกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์

ซินแคลร์ กางมือเริงร่าหลังส่องให้เรือใบแล่นนำ 1-0

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 มกราคม 2549 21:55 น.

เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเชือด ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ 3-1 ในศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ เกมดาร์บี้แมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์ โดยเกมนี้ทีมเยือนเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เนื่องจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โดนไล่ออกในครึ่งเวลาหลัง

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ เกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สจ๊วร์ต เพียร์ซ กุนซือคนหนุ่มไฟแรงมีปัญหาในการจัดทัพให้แมนฯ ซิตี้ พอสมควรเมื่อ 2 ผู้เล่นในแผงรับติดโทษแบนและเจ็บไม่ว่าจะเป็น ดาวิด ซอมเมย รวมถึง เบน แธตเชอร์ อย่างไรก็ตาม แดนกลางประเดิมนักเตะใหม่ส่ง อัลเบิร์ต ริเอร่า ปีกชาวสเปน ลงกระชากทางกราบเพื่อปั้นเกมให้คู่หน้า แอนดี้ โคล และดาริอุส วาสเซลล์ ลุ้นทำประตู

ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีการประเดิมนักเตะใหม่ให้แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นกันส่ง ปาทริซ เอวร่า ลงยืนเป็นแบ็กซ้าย ส่วนแดนกลางดัน จอห์น โอเชีย ขึ้นไปตัดเกม ในเกมรุกทางกราบเป็นหน้าที่ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และไรอัน กิ๊กส์ แดนหน้ามี เวย์น รูนี่ย์ ประสานงานกับ รุด ฟาน นิสเตลรอย

เริ่มเกมทั้งสองฝ่ายพยายามตั้งเกมของตัวเองให้ได้และจังหวะสับไกครั้งแรกเป็นของเจ้าบ้านเมื่อโคล ได้สับด้วยขวาจากนอกกรอบแต่บอลพุ่งไปตรงตัวฟาน เดอร์ ซาร์ แต่มาถึงนาทีที่ 20 ทีมเยือนมีโอกาสลุ้นเช่นกัน กิ๊กส์ เปิดบอลจากกราบซ้ายให้รูนี่ย์ ขวิดต่อไปหน้าประตูแต่ ฟาน นิสเตล รอย แหย่เท้าไม่ถึงบอล

แต่เมื่อเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 32 แฟนๆ เรือใบสีฟ้าได้เฮกันลั่นสนามเมื่อกองหลังแมนฯ ยูไนเต็ด เคลียร์บอลไม่ขาดไอร์แลนด์ ทิ่มต่อให้ซินแคลร์ ตวัดยิงด้วยขวาส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายสกอร์เป็น 1-0 สำหรับแมนฯ ซิตี้ สามนาทีถัดมาทีมเยือนได้ลุ้นตีเสมอเช่นกัน โรนัลโด้ จิ้มทะลุให้รูนี่ย์ หลุดเข้าไปยิงแต่เจมส์ ออกมาบล็อกได้ทัน

เกมรับของแมนฯ ยูไนเต็ด ปั่นป่วนอีกครั้งและก็ผิดพลาดเสียประตู 2-0 เมื่อเจมส์ เตะโด่งมาจากหน้าประตูซินแคลร์ โหม่งเช็ดไปหน้าประตูวาสเซลล์ เกี่ยวได้จากซิลแวสตร์ ก่อนจิ้มบอลตุงตาข่ายในนาทีที่ 39 ช่วงท้ายเกม โรนัลโด้ ได้โอกาสโขกสองครั้งสองคราแต่ไม่ตรงกรอบเลย โคล ได้ลุ้นบวกเพิ่มให้เจ้าถิ่นเช่นกันจากการยิงไกลแต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดพ้นคานไปได้ทำให้ครึ่งแรกทีมยังตามหลังแค่สองประตู

เข้าสู่ครึ่งเวลาหลัง เฟอร์กี้ ปรับเปลี่ยนทัพให้ทีมเยือนส่ง อลัน สมิธ ลงมาเล่นแดนกลางพร้อมกับถอด เอวร่า ซึ่งดูท่าจะยังตื่นๆ ออกจากสนามไปพร้อมกับถอย โอเชีย ลงไปเล่นเป็นแบ็กซ้ายดังเดิม ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถขึงเกมบุกเอาไว้ได้ รูนี่ย์ ได้ตัดเข้ากลางยิงด้วยขวาเต็มๆ บอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น รวมถึงจังหวะสับของโรนัลโด้ แต่บอลก็ไม่ตรงกรอบเช่นกัน

มาถึงนาทีที่ 66 สถานการณ์ของแมนฯ ยูไนเต็ด ย่ำแย่ลงไปอีกเมื่อ โรนัลโด้ ฉุนที่กรรมการไม่เป่าฟาล์วให้ในจังหวะโดนเสียบจากด้านหลัง จึงพุ่งเข้าไปมีเจตนาเล่นงานโคล ทำให้เชิ้ตดำ สตีฟ เบนเน็ตต์ ควักใบแดงไล่นักเตะจอมกระชากออกจากสนามไป เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้าย เพียร์ซ ต้องเปลี่ยนเอาดันน์ ออกเนื่องจากมีปัญหาเจ็บพร้อมกับส่ง เนดุม โอนูโอฮา ลงมาเล่นแทน ทีมเยือนแก้เกมอีกครั้งส่ง หลุยส์ ซาฮา มาเล่นแทนเฟล็ทเชอร์

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แฟนๆ ผีแดงที่ตามมาเชียร์ทีมรักได้เฮกันบ้างเมื่อ กิ๊กส์ เปิดบอลให้ฟาน นิสเตลรอย พักอกยิงด้วยขวาเข้าเสาแรกอย่างสวยงามสกอร์กลายเป็นทีมเยือนไล่มา 1-2 และเพียร์ซ ก็แก้เกมส่งทั้ง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และกิกี้ มูซัมป้า ลงมาเล่นแทนโคล และริเอร่า ท้ายเกมเฟอร์กี้ เสี่ยงทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง คีแรน ริชาร์ดสัน ลงมาเล่นแทนโอเชีย

แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บก็มาโดน ฟาวเลอร์ ยิงฝังชัยให้แมนฯ ซิตี้ เอาชนะไปได้ 3-1 ทำให้เก็บเพิ่มเป็น 31 คะแนน จากการลงสนาม 22 นัด ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด มีอยู่ 45 คะแนน จากการลงสนามเท่ากัน ตามหลังจ่าฝูงเชลซี เท่าเดิมที่ 13 แต้ม แต่แข่งมากกว่าแล้วหนึ่งนัด

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : เดวิด เจมส์ , ซุน จี ไห่ , ริชาร์ด ดันน์ , ซิลแว็ง ดิสแต็ง , สตีเฟ่น จอร์แดน , เทอร์เวอร์ ซินแคลร์ , โจอี้ บาร์ตัน , สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ , อัลเบิร์ต ริเอร่า , แอนดี้ โคล , ดาริอุส วาสเซลล์

แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , แกรี่ เนวิลล์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , มิคาเอล ซิลแวสตร์ , ปาทริซ เอวร่า , คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , จอห์น โอเชีย , ไรอัน กิ๊กส์ , เวย์น รูนี่ย์ , รุด ฟาน นิสเตลรอย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์