โด้เต็ง1พังประตูแรกชปล.

โด้เต็ง1พังประตูแรกชปล.

ความเคลื่อนไหวของศึกลูกหนัง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง 2 ทีมดังของเมืองผู้ดี ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ซึ่งจะมีขึ้นที่สนามลุซนิกี กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ในคืนวันพุธที่ 21 พฤษภาคมนี้ เวลา 01.45 น. ล่าสุดบริษัทรับพนันในอังกฤษ ออกมาเปิดอัตราต่อรองของเกมนี้ ยกให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสเหนือกว่าเล็กน้อย โดยแลดโบรกส์ ตั้งราคาให้ทีม ปีศาจแดง เป็นผู้ชนะที่ 11-8 (แทง 8 ได้คืน 11 ไม่รวมทุน) เสมอกันที่ 7-4 และ เชลซี ชนะที่ 2-1


คริสเตียโน่
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


ส่วนสกอร์ที่จะออกมาต่ำสุดตั้งไว้ที่ เสมอ 0-0, 1-1 ที่ 5-1 ตามด้วย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 1-0 และ เชลซี ชนะ 1-0 ที่ 6-1 ขณะที่ผู้พังประตูแรกของเกมเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของทีม ปีศาจแดง 7-2 ตามด้วย เวย์น รูนี่ย์ และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา 8-1 ต่อด้วย คาร์ลอส เตเบซ และ อังเดร เชฟเชนโก้, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล บัลลัค ที่ 9-1

ขณะที่ วิลเลี่ยม ฮิลล์ ตั้งราคาเกมนี้ในเวลา 90 นาที ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 13-10 เสมอกัน 9-5 เชลซี ชนะ 2-1 แต่จะถ้าเอาแบบใครเป็นผู้ชนะเด็ดขาดให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะที่ 8-11 และ เชลซี ชนะที่ 11-10 ส่วนสกอร์ที่ถูกต้องของเกม คล้ายกับแลดโบรกส์ คือ 0-0 และ 1-1 ที่ 11-2, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 1-0 ที่ 6-1, เชลซี ชนะ 1-0 ที่ 13-2 ขณะที่ผู้ยิงประตูแรกของเกม เต็ง 1 ยังเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ 9-2 ตามด้วย เวย์น รูนี่ย์ กับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา 13-2, คาร์ลอส เตเบซ กับ อเนลก้า8-1 และ หลุยส์ ซาฮา, อังเดร เชฟเชนโก้ กับ แฟรงค์ แลมพาร์ด 9-1

ด้านความพร้อมของทั้ง 2 ทีม ล่าสุดรายงานยังยืนยันว่าทั้งคู่ไม่มีปัญหาเรื่องการบาดเจ็บเพิ่มเติม สามารถส่งชุดใหญ่ลงโม่แข้งกันได้เต็มอัตราศึก โดย เฟอร์กี้ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือวัย 66 ปี ที่มีลุ้นเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 16 ที่นำทีมได้แชมป์รายการนี้มากกว่า 1 ครั้ง และยังจะกลายเป็นกุนซือที่มีอายุมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ ที่พาทีมคว้าถ้วยใบนี้ ต่อจาก เรย์มอนด์ โกธาลส์ กุนซือชาวเบลเยียม ที่นำ โอลิมปิก มาร์กเซย ของฝรั่งเศส ได้แชมป์ด้วยวัย 71 ปี เมื่อปี 1993 กล่าวว่า เกมนี้ถือเป็นนัดสำคัญอย่างยิ่งยวดของทั้ง 2 ทีม เพราะชัยชนะที่จะเกิดขึ้น จะเป็นการยกระดับในทุกๆ ด้าน ทั้งตัวสโมสร ตัวผู้เล่น และตัวผู้จัดการทีม ซึ่งในเกมนี้ทีมของเขาก็มีความพร้อมสุดๆ โดยเฉพาะในเรื่องของความมั่นใจที่พกมาเต็มกระเป๋า หลังจากเพิ่งทำแต้มเบียดเอาชนะ เชลซี ในเกมลงเตะนัดสุดท้าย คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เมืองผู้ดีมาครองได้สำเร็จ

จริงๆ แล้วเราน่าจะชนะถ้วยใบนี้มากกว่า 1 ครั้ง น่าเสียดายที่เราไปแพ้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ของเยอรมนี ในรอบตัดเชือกในปีที่เรามีความแข็งแกร่งสมควรที่จะได้แชมป์ ส่วนในปีนี้เราก็มีโอกาสเป็นผู้ชนะ เพราะเดินทางมาสู่รอบชิงชนะเลิศลงเล่นในเกมที่ถูกที่ถูกเวลาพอดี

ส่วน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะตัวเก่งของทีม ปีศาจแดง ซึ่งในปีนี้ซัดรวมกันไปแล้วถึง 41 ลูก ออกมาสยบข่าวเรื่องการที่อาจตัดสินใจย้ายทีมหลังจบเกมนี้ว่า จะคงอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไปตราบเท่าที่ทีมทีมยังมี อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นกุนซือ

เจ้านายคือเหตุผลที่ทำให้ผมอยู่ต่อ เขาสนับสนุนและช่วยเหลือผมมากมายมาตลอดเวลา 5 ปีที่อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนผมรู้สึกว่าสโมสรแห่งนี้เป็นเหมือนบ้านอีกแห่งหนึ่งของตัวเอง

ด้าน เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกตัวเก่งของทีม ก็ได้ออกมาสนับสนุนให้ โรนัลโด้ ตัดสินใจที่จะอยู่กับทีมต่อไป โรนัลโด้ เป็นนักเตะที่มหัศจรรย์ ซึ่งผมจะไม่แปลกใจเลยว่า ตัวเขาเองสามารถยิงได้ถึง 60 ลูกต่อฤดูกาล ดังนั้นหากเราเก็บเขาไว้กับทีมได้นานเท่าไร ก็ยิ่งเป็นสิ่งยอดเยี่ยมเท่านั้น

ส่วนฝั่ง เชลซี ของ อัฟราม แกรนท์ ที่เข้ามารับงานแทน ชูเซ่ มูรินโญ่ เมื่อเดือนกันยายน และมีลุ้นทำสถิติเป็นชาวอิสราเอลคนแรกที่ชนะเลิศถ้วยใบนี้ รวมถึงลุ้นให้ เชลซี เป็นทีมจากลอนดอนทีมแรกที่ชนะรายการนี้ กล่าวว่า มีความมั่นใจศักยภาพของลูกทีม ส่วนเรื่องของอนาคต ที่มีข่าวว่าหากไม่สามารถทำทีมได้แชมป์ก็อาจถูก โรมัน อับราโมวิช ประธานสโมสรปลดจากตำแหน่งนั้น เป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไป แต่ก็ยืนยันได้ว่า หากทีมไม่พอใจผลงานของเขา ก็พร้อมที่จะเดินออกจากทีมเช่นกัน

การพบกันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี ถือเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ทีมจากชาติเดียวกันโคจรมาพบกันในรอบชิงชนะเลิศ หลังจากที่ ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด เอาชนะ ค้างคาวไฟ บาเลนเซีย เพื่อนร่วมลาลีกา สเปน 3-0 เมื่อปี 2000 และ ปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน จากอิตาลี ดวลจุดโทษพิชิต ม้าลาย ยูเวนตุส 3-2 หลังเสมอกันในเกม 120 นาที 0-0 เมื่อปี 2003

ส่วนสถิติการพบกันระหว่างทีม ปีศาจแดง กับ สิงโตน้ำเงินคราม ในรอบชิงชนะเลิศรายการสำคัญ ที่ผ่านมามี 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศปี 1994 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 4-0 ก่อนที่ เชลซี จะมาล้างตาเอาชนะ 1-0 ในรอบชิงเอฟเอ คัพ ฤดูกาลก่อน

จาก  sanook.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์