เปิดแฟ้มปี 2006!มูเจาะลึกแผนรับมือต่างดาวสั่งจับตายเมสซี่
เผยรายงานที่ถูกวิเคราะห์เจาะลึกชนิดถึงแก่นจากทีมงานของโจเซ่ มูรินโญ่ ที่แจกแจงละเอียดยิบถึงวิธีการรับมือกับ "ต่างดาว" บาร์เซโลน่า ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2006 ขณะที่เขายังทำงานเป็นผู้จัดการทีม"สิงห์ไฮโซ" เชลซี
โดยในข้อมูลที่ถูกวิเคราะห์ออกมามุ่งเน้นไปที่การรับมือกับเจ้าหนู ลิโอเนล เมสซี่ อัจฉริยะดวงใหม่ในวัย 18 ปี ที่มีการระบุไว้ชัดเจนว่า ทางเดียวที่จะหยุดได้คือต้องเตะเท่านั้น
อย่างเป็นทราบกันดีถึงความเก่งกาจของเมสซี่ ผู้จัดการทีมทุกคนต่างคิดค้นหาวิธีรับมือกับซูเปอร์สตาร์พรสวรรค์ผู้นี้ แต่ทุกคนต่างก็ล้มเหลวที่จะหาคำตอบ ไม่เว้นแม้แต่มูรินโญ่ ที่คุมเชลซีในปี 2006
มีการเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกอย่างไม่น่าเชื่อที่ทีมงานของมูรินโญ่ วิเคราะห์จัดเตรียมเอาไว้เพื่อรับมือกับบาร์เวโลน่า คู่ปรับในรอบ 16 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ลีก ของซีซั่น 2005-2006
มูรินโญ่ เริ่มแจกแจงแผนการด้วยการยกเครดิตให้ทีมงานกับทาง เดอะ ซัน ว่า ข้อมูลดังกล่าวเขาไม่ได้เป็นคนเขียนขึ้นมาเอง"ผมแบ่งความรับผิดชอบกับลูกทีมในเรื่องของการวิเคราะห์และจัดเตรียมเอกสารเกี่ยวกับคู่แข่งสำหรับผู้จัดการทีม รายงานอย่างเป็นทางการมักจะถูกทำขึ้นโดยทีมวิเคราะห์, ผู้ช่วย และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคคอมพิวเตอร์ แต่ไม่ได้มีผม" มูกล่าว
"รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนที่อาจเกิดขึ้นกับเป้าหมาย รวมไปถึงการแสดงความก้าวร้าว การแสดงออกทางอารมณ์ของคาร์เลส ปูโยล ความรู้สึกที่ไม่ดีและชอบใส่อารมณ์กับผู้ตัดสินเวลาที่มีการฟาวล์เกิดขึ้น และมักจะสติแตกเมื่อถูกยั่วยุ เรื่อยไปจนถึง โอเลเกร์ กองหลังอีกคนที่เล่นเกมรับแย่ ขาดความเร็ว นั่นคือเป้าหมายที่จะต้องกดดัน"
"แต่สำหรับเมสซี่ ในโน้ตระบุไว้เลยว่า ต้องทำฟาวล์ใส่เขา สำคัญต้องทำนอกกรอบเขตโทษ ต้องทำให้เร็วที่สุด เพราะเขาเป็นนักเตะที่น่าอัศจรรย์มากยามที่ต้องดวลตัวต่อตัว"
จากรายงานดังกล่าวจึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็น อาเซียร์ เดล ออร์โน่ ฟูลแบ็กเชลซีถูกไล่ออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 36 หลังไปยกเท้าสูงทำฟาวล์ใส่ต้นขาของเมสซี่
เดล ออร์โน่ ถูกไล่ออก แต่เมสซี่ยังสามารถเล่นต่อไปได้ และสุดท้ายเป็นบาร์เซโลน่าที่บุกมาเก็บชัยชนะไปได้ก่อนในเลกแรก 2-1
ในโน้ตระบุถึงเมสซี่ว่า เป็นนักเตะที่มีทั้งคุณภาพและความเร็ว แต่ยังใช้เท้าซ้ายมากเกินไป โดยรวมเขาได้รับอิสระในการเล่น และบ่อยครั้งมักจะจบลงที่ฝั่งตรงข้ามกับการเผชิญหน้า 2 ต่อ 1 กับทางโรนัลดินโญ่
สำหรับ โรนัลดินโญ่ ในโน้ตไม่ได้มีการวิเคราะห์อะไรพิเศษก่อนเกมมากมายนัก
"โรนัลดินโญ่เป็นนักเตะที่อันตรายมากระหว่างริมเส้น แต่ทำได้แย่มากในการเปลี่ยนเล่นเกมรับ ชอบใช้ประโยชน์จากการเล่นโกง ล้มง่าย"
ซาบี้ ไม่ได้เล่นในเกมนั้น ซึ่งมูรินโญ่ คาดการณ์ว่า บาร์ซ่าจะต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการครองบอล
"เมื่อไม่มีซาบี้ ช่วงเวลาที่พวกเขาจะครองบอล และครองเกมจะน้อยลงกว่าเดิมมาก"
นอกจากนี้ มูรินโญ่ ยังได้รับการบรรยายสรุปที่ถูกต้องว่า อันเดรส อิเนียสต้า จะลุกจากม้านั่งสำรองลงสนาม ซึ่งก็เป็นจริงเมื่อเขาถูกเปลี่ยนตัวลงมาช่วยท้ายเกมขณะที่บาร์ซ่านำแล้ว 2-1
"เขาเป็นนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยพลังงาน มีรัศมีการเคลื่อนที่ครอบคลุมไปทั่ว มีความเร็วในการเคลื่อนที่ และความเร็วในจังหวะชี้เป็นชี้ตาย นักเตะแบบนี้มักจะถูกส่งลงสนาม นักเตะที่มีลูกล่อลูกชน"
เกมนี้ เอโต้ เป็นคนยิงประตูชัยให้บาร์เซโลน่านาทีที่ 80 ซึ่งก็มีโน้ตที่พูดถึงอันตรายของหัวหอกทีมชาติแคเมรูน
"เหมือนระเบิด มีความก้าวร้าว ไม่ว่าจะมีบอลหรือไม่มีบอล มีความเชื่อและรักษาความกระหายให้อยู่ในระดับที่สูงตลอดเวลา ยิงได้ทุกที่ และไม่ต้องเตรียมพร้อม แถมยังเล่นเกมรับได้แข็งแกร่ง"
นัดแรกเชลซีแพ้ไป 1-2 ส่วนนัดที่สองพวกเขาบุกไปเสมอ 1-1 ที่คัมป์นู จากประตูของโรนัลดินโญ่ ต้องตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนบาร์เซโลน่า ได้แชมป์ด้วยผลงานชนะอาร์เซนอล 2-1 ในนัดชิงฯเครดิตแหล่งข้อมูล :soccersuck.com