2 ประตูจากจุดโทษของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และฟรีคิกสุดงามของโอเว่น ฮาร์กรีฟส์ กลายเป็น 2 ประตูทองให้ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาชนะ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอลที่ออกนำไปก่อนได้จากเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ทั้งที่เป็นฝ่ายบุกหนักตลอดทั้งเกมจนเวลานี้หมดลุ้นแชมป์อย่างเป็นทางการเรียบร้อย ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (13 เม.ย.2551) แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 อาร์เซนอล รายชื่อผู้เล่น อาร์เซนอล : เยนส์ เลห์มันน์, โคโล่ ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส, อเล็กซานเดอร์ ซง, กาแอล กลิชี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ (ธีโอ วัลค็อตต์ น.61), เซสก์ ฟาเบรกาส, จิลแบร์โต้ ซิลวา, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (นิคลาส เบนด์เนอร์ น.76), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ผู้ตัดสิน : โฮเวิร์ด เว็บบ์
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ประตู : 0-1 เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ น.48, 1-1 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น.54, 2-1 โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ น.72
เกมชี้เป็นชี้ตายอนาคตของทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอลว่าจะยังเหลือลุ้นอะไรหรือไม่ในฤดูกาลนี้ เมื่อตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกและต้องมาเยือนจ่าฝูง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ผลของเกมนี้บวกลบได้เท่ากับ 6 คะแนนเลยทีเดียวโดยเฉพาะถ้าอาร์เซนอลแพ้ก็จะหมดลุ้นแชมป์ทันทีเพราะตอนนี้ตามหลัง 6 แต้มถ้าแพ้ก็จะตามเป็น 9 แต้มแต่ถ้าชนะก็จะไล่เหลือ 3 แต้มยังมีความหวังในการลุ้นแชมป์ต่อไป
ทางแมนฯ ยูไนเต็ดที่ดร็อปตัวหลักอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และเวย์น รูนี่ย์เป็นตัวสำรองในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ก็ยังชนะโรม่าอยู่ดี ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง พร้อมมีริโอ เฟอร์ดินานด์คุมแนวรับร่วมกับดาวรุ่ง เกราร์ด ปิเก้
ส่วนอาร์เซนอล ไร้มาติเยอ ฟลามินี่ กองกลางตัวหลักที่บาดเจ็บต้องพักอีก 3 สัปดาห์ทำให้ต้องใช้บริการเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ รวมถึงมีเซอร์ไพรซ์ใส่ชื่อของเยนส์ เลห์มันน์ แทนมานูเอล อัลมูเนียที่ไม่มีชื่อแม้แต่ตัวสำรอง และมีอเล็กซานเดอร์ ซง กองหลังดาวรุ่งลงมาจับคู่กับวิลเลี่ยม กัลลาสด้วย
ด้วยสถานการณ์ที่เหลือความหวังแค่เพียงอย่างเดียวทำให้ดูเกมนี้อาร์เซนอล เริ่มต้นด้วยความตั้งใจเกินร้อยและสามารถเล่นกันได้ดีมากในช่วงต้น มีจังหวะเซ็ตบอลสวยๆให้เห็นเยอะพอสมควรในช่วงต้น
อเดบายอร์ พาบอลขึ้นมาเองก่อนโดนบราวน์เคลีย์ทิ้ง แต่เคลียร์ไม่ดีมาถึงเซสก์ ได้ตั้งป้อมยิงในเขตโทษเน้นๆแต่บอลข้ามคานออกไปแค่นเดียวเท่านั้น
การขึ้นเกมทางฝั่งขวาของปืนใหญ่ทำได้น่ากลัวทีเดียวในเกมนี้และนาทีที่ 12 ก็เกือบทำได้สำเร็จ เมื่ออเดบายอร์ พลิกตัวจ่ายบอลจ่ายจังหวะแรกให้เอบูเอ้ หลุดไปก่อนจะตบเข้ากลางคืนมาให้อเดบายอร์ได้ยิงแต่ติดบล็อกของเฟอร์ดินานด์
กันเนอร์สยังเซ็ตเกมได้ดีและกดดันได้ต่อเนื่อง มีจังหวะยิงของคเล็ยที่ติดตัวของซง พวกเดียวกันเอง ก่อนที่อดบายอร์ จะทำชิ่งกับคเล็บหลุดไปในเขตโทษได้สวยแต่ก็ยิงด้วยซ้ายเบาเกินไปเข้าซองของฟาน เดอร์ ซาร์
แมนฯ ยูไนเต็ด นานๆจะขึ้นมาทีแต่ก็เกือบมีทีเด็ดจากเกมจากความอ่อนหัดของซง ที่อ่านเกมพลาดปล่อยให้โดนเอวร่าจ่ายตัดหลังมาถึงโรนัลโด้ ยกบอลหลบอย่างเหนือชั้นก่อนจะไหลให้รูนี่ย์ ยิงแต่ติดขาของเลห์มันน์ออกหลังไป
จากนั้นในนาทีที่ 26 ปืนใหญ่เกือบทำได้ดีอีกครั้งเมื่อจิลแบร์โต้ กับเอบูเอ้ ทำกันมาได้สวยก่อนจ่ายให้อเดบายอร์ ซัดไกลเหินข้ามคานออกไป ก่อนที่กองหน้าโตโก จะเผาโอกาสทิ้งอีกแล้วเมื่อคเล็บ ซึ่งทำเกมได้ดีมากในเกมนี้ จ่ายให้หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษและมีพื้นที่มีเวลาเหลือเฟือ แต่กลับแปเบาโหวงเข้าซองฟาน เดอร์ ซาร์ ซะงั้นอีก ก่อนที่จะจบครึ่งแรกด้วยการเสมอกันอยู่ 0-0 ในรูปเกมที่ทีมเยือนทำได้ดีกว่าแต่ขาดความเฉียบคมกันเอง
แต่ครึ่งหลัง อาร์เซนอล กลับมาเล่นได้อย่างดุดันกว่าเดิมและแค่ 2 นาทีหลังการเขี่ยบอลใหม่เท่านั้น ปืนใหญ่ก็นำจนได้ในจังหวะการประสานงานทางซ้ายของอาร์เซนอล ฟาน เพอร์ซี่ หลุดไปทางซ้ายก่อนโยนมาวัดดวงกลางประตู ฟาน เดอร์ ซาร์ อ่านเกมพลาด ลูกมาเข้าหัวอเดบายอร์ โขกหลาเดียวเข้าไปให้อาร์เซนอลนำ 1-0
จากนั้นทีมเยือนก็โหมหนักและเกือบได้ประตูจากการโยนวัดดวงอีกแล้วในอีก 2 นาทีต่อมา แถมเกือบได้จากการทำเข้าประตูตัวเองของเฟอร์ดินานด์ ที่เตะสกัดไม่ดีแต่ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังเซฟได้หวุดหวิด
แต่อาร์เซนอลบุกอยู่ดีๆก็มาเสียจุดโทษแบบไม่น่าเสียในนาทีที่ 54 เมื่อวิลเลี่ยม กัลลาสไปทำแฮนด์บอลแบบไม่จำเป็นในเขตโทษ ซึ่งโรนัลโด้ ก็รับอาสาสังหารแม้ในจังหวะแรกจะเป็นการฟาวล์ต้องยิงใหม่ แต่ก็ยิงซ้ำผ่านมือเลห์มันน์เข้าไปได้
หลังได้ประตูนี้เฟอร์กี้ ก็ส่งอันแดร์สัน กับคาร์ลอส เตเวซลงมาทันที ก่อนที่เกมจะเดือดขึ้นทันตาเห็น อาร์เซนอล เทหมดหน้าตักส่งธีโอ วัลค็อตต์ ลงมาช่วยเติมเกมรุกทางขวาอีกคน
แต่เล่นไปเล่นมาก็เกือบโดนทีเด็ดจากเกมสวนกลับเร็วของเจ้าบ้านที่ทำให้รูนี่ย์ หลุดเดี่ยวไปแต่เลห์มันน์ ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ ก่อนที่อาร์เซนอลเกือบเฮเหมือนกันเมื่อลูกเปิดเรียดของฟาน เพอร์ซี่ ไปโดนบราวน์สกัดไปชนเสาเกือบเข้าประตูตัวเอง
ทว่าหลังจากนั้นในนาทีที่ 72 อาร์เซนอลก็มาโดนทีเด็ดอีกแล้ว เมื่อแมนฯยูฯได้ลูกฟาวล์หน้ากรอบเขตโทษ โรนัลโด้ทำท่าจะยิงเองแต่เป็นโอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ที่วิ่งมาปั่นโค้งข้ามกำแพงเข้าเสาแรกเข้าไปอย่างสุดยอด ทำให้ปีศาจแดงพลิกนำ 2-1
ปืนใหญ่เจอแบบนี้เข้าไปก็เหมือนคนหน้ามืดที่ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว พยายามโถมเกมบดขยี้หวังจะเอาประตูตีเสมอให้ได้ทำเอาจ่าฝูงต้องร่นลงไปตั้งรับอย่างหมดสภาพ แต่ก็ยังพอหายใจหายคอได้ในเวลาที่บอลอยู่ในเท้าของตัวทักษะดีอย่างอันแดร์สัน, รูนี่ย์ และโดยเฉพาะโรนัลโด้ ที่เหนือชั้นสุดๆ
ตรงข้ามกับอาร์เซนอลที่มีโอกาสเน้นๆ อีกถึง 2 ครั้งจากเบนด์เนอร์ ที่ได้ทะยานขึ้นโขกบอลหน้าประตูแต่จังหวะแรกโขกเบาเกินไป ส่วนจังหวะที่สองที่โขกกดพื้นได้ดีแล้วแต่ฟาน เดอร์ ซาร์ก็ยังเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่แมนฯ ยูไนเต็ด จะประคองเกมไปเรื่อยๆ คว้า 3 คะแนนเต็มหนีเชลซีที่จะลงสนามในวันพรุ่งนี้เป็น 6 แต้ม และทิ้งอาร์เซนอลขาดเป็น 9 แต้ม ดับฝันของกันเนอร์สที่จะลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้อย่างเป็นทางการ
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เกราร์ด ปิเก้, ปาทริซ เอวร่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ไมเคิล คาร์ริค, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ (ไรอัน กิ๊กส์ น.90), พอล สโคลส์ (อันแดร์สัน น.55), พาร์ค ชี ซอง (คาร์ลอส เตเวซ น.55), เวย์น รูนี่ย์
ฮาร์โก้ปั่นปลิดชีพ! ผีแซง 2-1 ปืนหมดหวังแชมป์
หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ ปีศาจแดง แมนยู ฮาร์โก้ปั่นปลิดชีพ! ผีแซง 2-1 ปืนหมดหวังแชมป์
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!