บิ๊กแมตช์ ดาบอัศวินเปิดรังรอฟันผีคึก

"บิ๊กแมตช์" ดาบอัศวินเปิดรังรอฟันผีคึก

ผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤศจิกายน 2548 16:22 น.

หลังจากหยุดพักเวลามา 1 สัปดาห์เต็ม เพื่อหลีกทางให้ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบเพลย์ออฟหลายคู่ ซึ่งตอนนี้ได้ 32 ทีมเข้าไปเตะรอบสุดท้ายที่เมืองเบียร์เรียบร้อยแล้ว แต่ละชาติก็ฉลองความสำเร็จกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะออสเตรเลียที่ฝ่าฟันอุปสรรคมาได้สำเร็จในรอบ 32 ปี รวมถึง ตรินิแดดและโตเบโก ที่เข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยทางฟีฟ่าจะประกาศตำแหน่งทีมวาง ในวันที่ 6 ธันวาคม 2548 ส่วนเรื่องการแบ่งสายกลุ่มนั้นจะมีขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคม 2548 ที่เมืองไลบ์ซิก ประเทศเยอรมัน

วกกลับมาในสุดสัปดาห์นี้ฟุตบอลลีกก็กลับมาคึกคักกันเหมือนเดิม โดยเฉพาะพรีเมียร์ลีกของอังกฤษที่กำลังเข้มข้นเพราะจ่าฝูงอย่างเชลซีนั้น ดันทำฟอร์มเก่งหล่นหาย และหลายเกมเริ่มเล่นสะดุด โดยเฉพาะในเกมลีกนัดล่าสุดหลังจากบุกไปพ่าย ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแบบโชคไม่เข้าข้าง 0-1 และหยุดสถิติไม่แพ้ใครได้แค่ 40 นัดเท่านั้น ส่วนทีมใหญ่ๆอย่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล และ ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ก็เริ่มกลับสู่ฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง ด้วยการเก็บชัยมาได้ทั้งคู่

สำหรับคู่ใหญ่ประจำวันเสาร์นี้เป็นการพบของ ทีมอันดับ 8 ที่เคยฟอร์มรุ่งรั้งรองจ่าฝูง ดาบอัศวิน ชาร์ลตัน แอธเลติก จะเปิดรังเดอะวัลลี่ย์ ต้อนรับทีมจอมหยุดสถิติ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 4 ของตารางพรีเมียร์ชิพ คู่นี้จะเตะกัน เวลา 22.00 น.ของวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2548

ในส่วนผลงานของเจ้าบ้านนั้น ตอนนี้ อลัน เคอร์บิชลี่ย์ กำลังปวดหัวกับฟอร์มการเล่นของลูกทีมที่เริ่มตกลงมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะ 2 นัดล่าสุดที่เพิ่งแพ้รวด ทั้งๆ ที่เริ่มออกสตาร์ทในช่วงต้นฤดูกาล ทีมดาบอัศวินทำผลงานได้ดีรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง ขณะที่สภาพทีมโดยรวมเจ้าบ้านไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเลย มีเพียงแค่รายเดิมๆ เท่านั้นที่ยังเจ็บอยู่ นั่นคือ ฌอน บาร์ตเล็ตต์, เจสัน ยูเอลล์ และ กอนซาโล่ โซรอนโด้ ที่เจ็บยาว ส่วนผู้เล่นรายอื่นอยู่ในสภาพฟิตเต็มที่

โดยคาดว่าชาร์ลตันจะลงสนามในระบบ 4-1-4-1 นำโดยผู้รักษาประตู สเตฟาน อันเดอร์เซ่น ส่วนเกมรับนั้นมี ลุค ยัง, คริส เพอร์รี่, เฮอร์มัน ไฮรดาร์สสัน และ โจนาธาน สเป็คเตอร์ พร้อมลงคุมแดนหลัง โดยมี ราโดสติน คิชิเชฟ ยืนเดี่ยวทำหน้าที่ตัดเกมอยู่ในตำแหน่งหน้าแผงหลัง ขณะที่แผงมิดฟิลด์เน้นเกมรับเต็มที่โดยมี เดนนิส รอมเมดาห์ล, อเล็กเซ สเมอร์ติน, แดนนี่ เมอร์ฟี่ และ ดาร์เรน อัมโบรส ทำหน้าที่ในการประสานงาน ส่วนหอกเดี่ยวล่าตาข่ายนั้นเป็น ดาเรน เบนท์ ที่รั้งอันดับ 3 ดาวซัลโวของพรีเมียร์ชิพ

หันมาดูความพร้อมของทีมเยือนกันบ้าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เริ่มขยับริมฝีปากยิ้มออกมาบ้าง หลังมีนักเตะที่หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาลงซ้อมได้บ้างแล้ว อาทิ ในรายของ รอย คีน กัปตันทีมจอมเก๋า และแบ็กขวาทีมชาติอังกฤษ แกรี่ เนวิลล์ ที่กลับมาลงสนามซ้อมเบาๆ กับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ท่านเซอร์ยังไม่แน่ใจในเรื่องสภาพร่างกายที่ยังไม่เต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงต้องเก็บทั้งสองคนให้นั่งพักข้างสนามไปก่อน ด้าน รุด ฟาน นิสเตอรอย ที่เพิ่งได้รับบาดเจ็บหลังจากการกลับไปซ้อมกับทีมชาติ ฮอลแลนด์ ต้องรอเช็กความฟิตเช่นกัน แต่ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะอาการบาดเจ็บไม่ร้ายแรงนัก

เกมนี้คาดว่าท่านเซอร์จะยังคงใช้ระบบเดิม 4-3-3 ที่มี เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ทำหน้าที่ยืนเฝ้าเสา ด้านแนวรับมี จอห์น โอเชีย, ริโอ เฟอร์ดินานด์, มิกกาแอล ซิลแวสต์, คีแรน ริชาร์ดสัน ส่วนแผงมิดฟิลด์น่าจะใช้ชุดเดิมที่เอาชนะ เชลซี 1-0 สำหรับแดนกลางนั้นมี ดาเรน เฟล็ชเชอร์ เป็นตัวเดินเกมร่วมกับ อลัน สมิธ และ พอล สโคลส์ ขณะที่ ปาร์ค จี ซอง กับ เวย์น รูนี่ย์ จะเป็นตัวบุกริมเส้นหาจังหวะเปิดบอลให้กับ ศูนย์หน้าอย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย

สำหรับผลงานการเจอกันของทั้งสองทีมเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่สนาม เดอะ วัลลี่ย์ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2548 ชาร์ลตัน แอธเลติก เจ้าถิ่นโชว์ฟอร์มไม่ดีนัก เมื่อโดนทีมเยือนจากเมืองเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถล่มไปเละเทะ 0-4

ผลงานการเจอกันของทั้งสองทีม
ฟุตบอลลีก: ชาร์ลตัน ชนะ 10 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 31 ครั้ง และ เสมอกัน 11 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ชิพ: ชาร์ลตัน ชนะ 0 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 10 ครั้ง และ เสมอกัน 2 ครั้ง

ผลงานการเจอกันในถิ่น เดอะ วัลลี่ย์
ฟุตบอลลีก : ชาร์ลตัน ชนะ 7 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ13 ครั้ง และ เสมอกัน 6 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ชิพ: ชาร์ลตัน ชนะ 0 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 5 ครั้ง และ เสมอกัน 1 ครั้ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม
ชาร์ลตัน แอธเลติก (4-1-4-1) : สเตฟาน อันเดอร์เซ่น, ลุค ยัง, คริส เพอร์รี่, เฮอร์มัน ไฮรดาร์สสัน, โจนาธาน สเป็คเตอร์, ราโดสติน คิชิเชฟ, เดนนิส รอมเมดาห์ล, อเล็กเซ สเมอร์ติน, แดนนี่ เมอร์ฟี่, ดาร์เรน อัมโบรส และ ดาร์เรน เบนท์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-3-3) : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเชีย, ริโอ เฟอร์ดินานด์, มิกกาแอล ซิลแวสต์, คีแรน ริชาร์ดสัน, อลัน สมิธ, ดาเรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, ปาร์ค จี ซอง, รุด ฟาน นิสเตลรอย และ เวย์น รูนี่ย์

สำหรับรูปเกมของคู่นี้คาดว่าทีมเจ้าบ้านที่ฟอร์มการเล่นระยะหลังตกฮวบลงมาคงเตรียมการมาตั้งรับเต็มที่ ด้วยการอัดมิดฟิลด์ลงไปถึง 5 ราย แล้วทิ้งหัวหอกดาวรุ่งอย่าง ดาร์เรน เบนท์ เอาไว้เป็นทีเด็ดในแดนหน้า อย่างไรก็ตาม ทีมผีนรกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด จะประมาทไม่ได้เลย เพราะ อลัน เคอร์บิชลี่ย์ กุนซือดาบคู่ยังมีทีเด็ดที่ลูกฟรีคิกอันเฉียบขาดของ แดนนี่ เมอร์ฟี่ เป็นอาวุธลับที่ร้ายกาจรออยู่ หากเผลอเรอไปทำฟาล์วในระยะอันตรายเข้า

ด้านทีมเยือนอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เคยบุกมาชนะถึงถิ่นเดอะ วัลลี่ย์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แถมนัดล่าสุดเพิ่งเอาชนะ พร้อมหยุดสถิติจ่าฝูง เชลซี มาคราวนี้ปีศาจแดงมีกำลังใจเต็มเปี่ยมเพียบพร้อมที่จะไล่เก็บคะแนนตามสิงห์บลูส์ให้ทัน ซึ่งคาดว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน น่าจะวางแผนเปิดเกมบุกใส่เจ้าบ้านแบบไม่กลัว เพราะกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่จะคว้า 3 แต้มได้หรือไม่นั้น คงต้องติดตามกันวันเสาร์นี้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์