ช็อคตาตั้ง!! ′ผีแดง′ นำ 3-1 ไม่ชนะ ′เลสเตอร์′ พลิกแซงชนะสุดมันส์ 5-3

ช็อคตาตั้ง!! ′ผีแดง′ นำ 3-1 ไม่ชนะ ′เลสเตอร์′  พลิกแซงชนะสุดมันส์ 5-3

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2014/15 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.57 "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 14 มี 5 คะแนน เปิดสนามคิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ "ปีศาจแดง" แมนเชเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 6 มี 8 คะแนน จากการลงสนาม 4 นัดเท่ากัน

เกมนี้ เลสเตอร์ ของ ไนเจล เพียร์สัน วาง เลโอนาร์โด้ อูยัว เป็นศูนย์หน้าตัวเป้า โดยมี เจมี่ วาร์ดี้ และ เดวิด นูเจ้นท์ คอยสนับสนุน ขณะที่ทีมเยือนภายใต้การคุมทัพของ หลุยส์ ฟาน กัล ส่ง ราดาเมล ฟัลเกา กองหน้าทีมชาติโคลอมเบีย ลงสนามเป็นตัวจริงแมตช์แรก ผนึกกำลังกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, อังเคล ดิ มาเรีย และ เวย์น รูนี่ย์

เริ่มเกมมานาที 10 แมนฯยูฯ ได้ลุ้นก่อน ดิ มาเรีย ไหลให้ เพอร์ซี่ ซัดตามน้ำด้วยซ้าย แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูเจ้าบ้าน ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้ 

อีก 3 นาทีต่อมา เลสเตอร์ ก็มาเสียประตูจนได้ จากจังหวะที่ ฟัลเกา โยนให้ เพอร์ซี่ ลอยตัวโขกเข้าไป แมนฯยูฯ ขึ้นนำ 1-0 และนับเป็นประตูแรกของ เพอร์ซี่ ในฤดูกาลนี้

หลังจากได้ประตูนำแล้ว แมนฯยูฯ บุกต่อทันที ก่อนจะมาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 นาที 16 รูนี่ย์ แทงให้ ดิ มาเรีย หลุดเดี่ยว ก่อนแข้งอาร์เจนไตน์ชิพบอลข้ามหัว ชไมเคิ่ล เข้าไปอย่างเหนือชั้น

แต่อีกหนึ่งนาทีถัดมา เลสเตอร์ ตีไข่แตกได้ทันควัน วาร์ดี้ กระชากจนสุดเส้นหลัง ก่อนเปิดให้ อูยัว โหม่งเข้าไป ท่ามกลางการประท้วงจากนักเตะแมนฯยูฯ ที่มองว่าบอลออกหลังไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร จบ 45 นาที เลสเตอร์ ตามหลัง แมนฯยูฯ 1-2 

ครึ่งหลังเปิดฉากมาได้แค่ 3 นาที แมนฯยูฯ เกือบได้ประตูที่ 3 รูนี่ย์ เปิดจากขวาให้ ฟัลเกา ในเขตโทษ อดีตดาวยิงแอตฯ มาดริด จับบอลหนึ่งจังหวะ แล้วสับไกยิงทันที แต่บอลพุ่งไปชนเสาเต็มๆ  

เกมรุกของ แมนฯยูฯ ยังคงทำได้ดีกว่าเจ้าบ้าน ก่อนจะมาได้ประตูที่ 3 นาที 57 จากจังหวะที่ ราฟาเอล โยนบอลไปหน้าประตู แนวรับเลสเตอร์ เคลียร์บอลไม่ดี บอลไปเข้าทางของ เพอร์ซี่ แตะกลับมาให้ ดิ มาเรีย อัดเรียดด้วยซ้าย ก่อนจังหวะสุดท้ายเป็น อังเดร เอร์ราร่า ที่ไขว้ยิงเข้าไป แมนฯยูฯ นำห่าง 3-1 

แม้ว่าจะตามหลังถึง 2 ประตู แต่ เลสเตอร์ ไม่ยอมแพ้ ก่อนไล่มาเป็น 2-3 นาที 61 จากจังหวะที่ ราฟาเอล ทำฟาล์ว วาร์ดี้ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษ และ นูเจ้นท์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด 

ถัดมานาที 63 เลสเตอร์ ทำช็อคทีมเยือน เมื่อมาได้ประตูตีเสมอ 3-3 จากการยิงไกลของ เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ และนับเป็นประตูแรกของอดีตมิดฟิลด์อินเตอร์ มิลาน 

หลังจาก เลสเตอร์ ตีเสมอได้ เจ้าบ้านบุกต่อทันที และมาได้ประตูพลิกแซง แมนฯยูฯ แบบหน้าตาเฉย

 นาที 79 จากความผิดพลาดของ ฆวน มาต้า ที่ลงสนามมาเป็นตัวสำรอง เสียบอลจากกลางสนาม ริทชี่ เดอ เลต ฉกบอลได้ก่อนเปิดให้ วาร์ดี้ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ ดาบิด เด เกอา ก่อนแปเข้าไปไม่เหลือ เลสเตอร์ นำ แมนฯยูฯ 4-3 

ช่วงท้ายเกม นาที 83 สถานการณ์ของ แมนฯยูฯ ย่ำแย่ขึ้นไปอีก เมื่อต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน

จากจังหวะที่ ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ ไปทำฟาล์ว วาร์ดี้ ในเขตโทษ ผู้ตัดสิน มาร์ค แคลตเท่นเบิร์ก ชี้ให้เป็นจุดโทษ และแจกใบแดงไล่ แบล็คเก็ตต์ ออกจากสนาม โดย อูยัว รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดและนับเป็นประตูที่ 5 ของ อูยัว ในฤดูกาลนี้ เลสเตอร์ นำ แมนฯยูฯ 5-3 

เวลาที่เหลือ เลสเตอร์ ที่ได้เปรียบตัวผู้เล่น บุกหนักหวังยิงประตูเพิ่ม แต่จังหวะสุดท้ายไม่คมพอ จบเกม เลสเตอร์ พลิกแซงเอาชนะ แมนฯยูฯ แบบสุดเหลือเชื่อ 5-3 โดย เลสเตอร์ เก็บเพิ่มเป็น 8 คะแนน ขณะนี้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 6 ของตาราง ส่วน แมนฯยูฯ ตกมาอยู่ที่ 12 ของตาราง

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์