ฟานกัลขอเวลา! ผีพ่ายยับ 0-4
'แอลวีจี' วอนแฟน 'ปีศาจแดง' ใจเย็น ขอเวลาสร้างทีมสักพัก หลังพลาดท่าบุกแพ้ยับเยิน 0-4 ตกรอบ 2 ศึกแคปปิตอล วันคัพ
ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงต้องตามหาชัยชนะนัดแรกของฤดูกาลนี้กันต่อไป หลังเป็นฝ่ายแพ้ทีมคู่แข่งจากลีกที่ต่ำกว่าด้วยผลต่างประตูแบบขาดลอยที่สุดในรอบ 58 ปี ซึ่งเป็นสกอร์เดียวกับที่เคยบุกไปแพ้ บริสตอล โรเวอร์ส ทีมจากดิวิชั่น 2 เมื่อยุคสมัยนั้น 0-4 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อปี 1956 แถมยังเป็นการกระเด็นตกรอบ 2 ของเกมฟาดแข้งรายการนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปีอีกด้วย เพราะเคยพลาดท่าโดนทีมรองบ่อนอย่าง ยอร์ก ซิตี จากดิวิชั่น 2 เขี่ยตกรอบนี้มาก่อนเมื่อช่วงปี 1995
หลังจบเกม หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ "ปีศาจแดง" ยอมรับว่าลูกทีมของเขาเล่นผิดพลาดกันเอง ซึ่งเป็นเหตุทำให้ต้องเป็นฝ่ายแพ้เจ้าบ้านด้วยสกอร์ขาดลอยแบบนี้ ก่อนที่จะอ้อนวอนให้เหล่าสาวก "เรดเดวิล" ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินผลงานของเขาในช่วงนี้ และอยากให้แฟนบอลมีความศรัทธาในปรัชญาของสโมสรต่อไป เพราะตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงสร้างทีม จึงจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่คงไม่ใช่ในเวลาอันสั้นในเดือนเดียว
"เมื่อคุณลองพิจารณาดูแล้วจะเห็นว่าเราเสียประตูแบบไม่น่าจะเสีย มันเป็นเรื่องของความผิดพลาดในจังหวะที่ไม่ควรจะพลาดเลย แม้เราจะมีโอกาสกลับคืนสู่เกมในช่วงครึ่งหลังได้บ้าง แต่ก็กลายเป็นเรื่องที่ลำบากยากไปเสียแล้ว หลังจากที่เราพลาดเสียประตูอย่างต่อเนื่อง ผมรู้ดีว่าแฟนบอลรู้สึกย่ำแย่กับผลการแข่งขัน แต่ทุกคนต้องเชื่อมั่นในปรัชญาของเรา เพราะเรากำลังอยู่ในช่วงสร้างทีม จึงจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่ง แต่เราคงจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน หรือ 1 ปี ผมหวังว่าแฟนบอลทุกคนจะยังคงศรัทธาในสโมสรเหมือนเดิม อีกทั้งช่วงนี้เรามีนักเตะตัวหลักบาดเจ็บมากถึง 9 คน" ฟาน กัล กล่าว
ส่วนผลคู่อื่น มิลล์วอลล์ แพ้ เซาแธมป์ตัน 0-2, สคันธอร์ป แพ้ เรดดิง 0-1, วอลซอลล์ แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-3, นอริช ชนะ ครอว์ลีย์ 3-1, ปอร์ทเวล แพ้ คาร์ดิฟฟ์ 2-3, สวอนซี ชนะ ร็อตเตอร์แฮม 1-0, สวินดอน แพ้ ไบรท์ตัน 2-4, วัตฟอร์ด แพ้ ดอนคาสเตอร์ 1-2, บอร์นมัธ ชนะ นอร์ทแธมป์ตัน 3-0, เบรนท์ฟอร์ด แพ้ ฟูแลม 0-1, เบิร์นลีย์ แพ้ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ 0-1, ครูว์ แพ้ โบลตัน 2-3, ดาร์บี ชนะ ชาร์ลตัน 1-0, จิลลิงแฮม แพ้ นิวคาสเซิล 0-1, ฮัดเดอร์สฟิลด์ แพ้ ฟอเรสต์ 0-2, เลสเตอร์ แพ้ ชรูว์สบิวรี 0-1, มิดเดิลสโบรช์ ชนะ เปรสตัน 3-1, เวสต์แฮม ชนะจุดโทษ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 5-4 หลังเสมอในช่วง 120 นาที 1-1, เวสต์บรอมวิช ชนะจุดโทษ ออกซ์ฟอร์ด 7-6 หลังเสมอในช่วง 120 นาที 1-1
ขณะเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เปิดตัวแข้งใหม่อีกหนึ่งราย เพราะคว้าตัว อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 เข้ามาเสริมทัพได้เรียบร้อยแล้ว หลังย้ายมาจาก "ราชันชุดขาว" รีล มาดริด มหาอำนาจลูกหนังแห่งสเปน ด้วยค่าตัวเป็นสถิติแพงที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษ สูงถึง 59.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,280 ล้านบาท) ทุบสถิติเก่าของ เฟอร์นันโด ตอร์เรส กองหน้าทีมชาติสเปน ตอนที่ย้ายจาก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ไปร่วมทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ในปี 2011 ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,750 ล้านบาท)
โดยปีกวัย 26 ปีรายนี้เปิดเผยว่า รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ย้ายมาค้าแข้งให้ "ปีศาจแดง" ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมโปรดที่ได้ติดตามผลงานมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเด็กอยู่ในบ้านเกิด หลังเซ็นสัญญาย้ายมาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นเวลานานถึง 5 ปี แถมยังตั้งเป้าหวังประสบความสำเร็จกับทีมต้นสังกัดใหม่ให้ได้มากที่สุด และพร้อมอาสาพาทีมกลับไปโชว์ฝีเท้าในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าให้ได้อีกด้วย
"สมัยที่ผมยังเป็นเด็กอยู่ในอาร์เจนตินา ผมเคยเฝ้าติดตามดูผลงานของแมนฯ ยูไนเต็ด และเคยคิดเสมอว่า มันคงจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก หากมีโอกาสย้ายไปค้าแข้งกับสโมสรแห่งนี้ ผมย้ายมาเพื่อประสบความสำเร็จ ผมอยากจะคว้าแชมป์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหนึ่งในเป้าหมายแรกคือ การพาทีมกลับไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้อีกครั้ง" ดิ มาเรีย กล่าว
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!