"เฟอร์กี" เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งประกาศวางมือจากงานกุนซือ เตรียมร่วมฉลองกับแฟนบอลและนักเตะในการทำทีมลงสนามในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นนัดสุดท้ายกับ "หงส์ขาว" สวอนซี ในเวลา 22.00 น.วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม ซึ่งจะเป็นเกมนัดสุดท้ายที่ได้คุมทีมลงสนามที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด นอกจากนี้ยังจะเป็นเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะฉลองรับถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 13 และแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 อย่างเป็นทางการ

                         เฟอร์กีวัย 71 ปี รับหน้าที่ผู้จัดการทีมในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด มาแล้ว 26 ปีครึ่ง และนำถ้วยแชมป์มายังสโมสรถึง 38 ถ้วย กำลังจะถูกแทนที่โดย เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีม "ทอฟฟีสีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน หลังจากที่ล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ออกมายืนยันแล้วว่า เดวิด มอยส์ จะเป็นผู้จัดการทีมคนต่อไป หลังจากที่ได้ตกลงสัญญากันยาวถึง 6 ปี และจะเริ่มงานในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้

                         มอยส์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ผมรู้ว่ามันลำบากอย่างไรในการทำงานต่อจากผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่โอกาสในการเป็นผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เข้ามาบ่อยๆ ผมกำลังรอคอยกาารับตำแหน่งในฤดูกาลหน้า"

                         นอกจากนี้ มอยส์ ยังตั้งใจว่าจะดึงตัว เลย์ตัน เบนส์ แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ และมารูยาน เฟลไลนี กองกลางทีมชาติเบลเยียม 2 ลูกน้องที่เอฟเวอร์ตัน มาร่วมงานกันต่อที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ฤดูกาลหน้า ซึ่งคาดว่า ปีศาจแดง ต้องทุ่มเงินถึง 39 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 1,800 ล้านบาท ในการเอาทั้งคู่มาร่วมทีม โดยค่าตัวของ เบนส์ วัย 28 ปี น่าจะมีค่าตัวอยู่ที่ 15 ล้านปอนด์ และ มอยส์ คิดว่าจะได้ฟูลแบ็กมาช่วยสนับสนุนการทำประตูของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี

                         ขณะที่ เฟลไลนี สามารถย้ายทีมได้ทันทีหากว่ามีข้อเสนอ 24 ล้านปอนด์ เนื่องจากมีการระบุเอาไว้ในสัญญาฉบับปัจจุบันว่าเงินจำนวนดังกล่าวสามารถยกเลิกสัญญาได้ ซึ่ง เฟลไลนี สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งกองกลางตัวรุก และตัวคุมเกมในแดนกลางที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกมองว่ากำลังขาดแคลนนักเตะแบบนี้

                         สำหรับเรื่องตัวผู้เล่นในเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เฟอร์กีจะจัดทีมชุดใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอนเนื่องจากเกมนี้เป็นเกมพิเศษจึงต้องการชัยชนะเป็นส่วนหนึ่งของการฉลองทั้งการคุมทีมนัดสุดท้าย และฉลองถ้วยแชมป์ ปัญหาของทีมในขณะนี้อยู่ที่แบ็กขวา ราฟาเอล ดาซิลวา ติดโทษแบน แต่ก็มี ฟิล โจนส์ พร้อมลงสนามแทน ส่วนแดนกลางยังคงไม่มี แดนนี เวลเบค และ แอชลีย์ ยัง ที่บาดเจ็บ จึงมีความเป็นไปได้ว่า ชินจิ คางาวะ กับ เวย์น รูนีย์ อาจจะได้กลับมาเป็นตัวจริง แม้จะมีข่าวว่า รูนีย์ กำลังขอย้ายทีมก็ตาม

                         ฝั่ง สวอนซี มีปัญหากับ 2 ผู้เล่นตัวหลักคือ มิชู กองหน้าที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า และ มิเชล ฟอร์ม นายทวารของทีมที่จะลงสนามไม่ได้ทั้งคู่

                         ขณะที่เกมเวลา 21.00 น. "ทอฟฟีสีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน จะมี เดวิด มอยส์ นำทัพลงสนามที่กูดิสัน ปาร์ค เป็นเกมนัดสุดท้ายเช่นกันโดยจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ซึ่งเกมนี้หากว่า เอฟเวอร์ตัน เก็บชัยชนะได้จะมีอันดับเหนือกว่า "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล คู่แข่งร่วมเมืองอีก 1 ฤดูกาลทันทีเนื่องจากมีแต้มนำอยู่ถึง 5 แต้มในขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 2 นัด เรื่องตัวผู้เล่นในทีมมีเพียงแค่ ฟิล เนวิลล์ ที่เจ็บอยู่เพียงคนเดียว

                         ด้านการลุ้นหนีตกชั้น "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช ที่มี 38 แต้มต้องการชัยชนะที่แคร์โรว์ โรด เหนือ เวสต์บรอมวิช ในเวลา 21.00 น. ก็น่าจะรอดการตกชั้นเช่นเดียวกับ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ที่จะไปเยือน "คิวพีอาร์" ควีนส์ปาร์ค ทีมบ๊วย ขณะที่ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ที่มี 38 แต้มเช่นกันจะต้องแย่งแต้มกับ "นักบุญ" เซาแธมป์ตัน ที่มีอยู่ 39 แต้ม ขณะที่โปรแกรมคู่อื่นๆ ในเวลาเดียวกัน ฟูแลม พบ ลิเวอร์พูล และเวลา 19.30 น. สโตค พบ สเปอร์ส

--------------------

(หมายเหตุ : ที่มาภาพ : EPA)