ลุยซ์ เชิญยิ้ม!มาต้าดับผี 10 ตัว 1-0 ขึ้นที่ 3

ลุยซ์ เชิญยิ้ม!มาต้าดับผี 10 ตัว 1-0 ขึ้นที่ 3 

เชลซีของราฟาเอล เบนิเตซคว้าชัยเกมสำคัญหลังฆวน มาต้ายิงประตูโทนนาที 87 ซิวแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถึงถิ่นพร้อมใบแดงท้ายเกมของราฟาเอล ดาซิลวาก่อนขยับขึ้นที่ 3 โอกาสไปแชมเปี้ยนส์ลีกรำไรเนื่องจากเตะน้อยกว่าอาร์เซนอลหนึ่งเกม 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด 

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2556
 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0:1 เชลซี 

ประตู
 : 0-1 โจนส์(ทำเข้าประตูตัวเอง) น.87 

 
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก แมนยู 0-1 เชลซี
 

เกมนี้แมนฯ ยูไนเต็ดจัดตัวตามสบายเหมือนเดิมมีเปลี่ยนแปลงก็เช่นลินเดการ์ดเฝ้าเสาแทนเด เกอาหรืออันแดร์สันกับเคลฟเวอร์ลี่ย์ที่มายืนตรงกลาง ส่วนเชลซีก็ให้ลุยส์กับอิวาโนวิชยืนแผงหลังเทอร์รี่เป็นสำรอง ส่วนเกมรุกก็มีโมเซสลงแทนที่อาซาร์ที่ลงสนามเกมนี้ไม่ได้และกองหน้ากลับมาใช้บาอีกครั้ง 

ด้านสถิติซีซั่นนี้พวกเขาเจอกันมา 5 เกมแล้วโดย"สิงห์บลูส์"ปราบพวกเขามาได้ในเกมลีก คัพและเอฟเอ คัพนัดรีเพลย์ ส่วนเกมลีก"ปิศาจแดง"บุกไปเอาชนะได้ 3-2 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ นอกจากนี้ 6 นัดหลังสุดทุกรายการทำประตูรวมกันถึง 29 เกมเฉลี่ยแล้วตกเกมละ 4.8 ลูกต่อเกมเลยทีเดียว 

ครึ่งแรก 

สิงห์มาทักทายแต่หัววันก่อนเลย 
เปิดฉากมาเชลซีบุกเข้าใส่ทำเจ้าบ้านหวาดเสียวไม่น้อยเลยจากการทำชิ่งของมาต้ากับโมเซสสุดท้ายมาต้าได้เปิดจากฝั่งขวาในเขตโทษมาให้กับบาที่อีกฝั่งโหม่งแต่บอลยังลอยหลุดออกหลังไปนิดเดียว ตามมาด้วยอีกจังหวะจากการเปิดเข้าในแล้วโดนโหม่งสกัดเข้าทางบาสุดท้ายยิงวืดไป 

ผีเสียว!ออสการ์ยิงโดนลินเดการ์ดปัดชนเสา 
นาที 13 "สิงห์บลูส์"น่าได้รปะตูออกนำแต่หัววันเลยหลังพวกเขามีโอกาสลุ้นสุดจากการพาบอลขึ้นมาเองของออสการ์ก่อนเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษแล้วตัดสินใจสับไกยัดเสาแรกทันที ลินเดการ์ดพุ่งปัดได้ก่อนจะไปชนเสาแต่บอลไม่ได้กระดอนไปไหนลินเดการ์ดหันไปรับเข้ามือทัน 

โมเซสเติมมายิงขึ้นอัฒจันทร์กันไป 
เกมแทบเป็นของเชลซีฝั่งเดียวเริ่มต้นจากโจนส์ไปลื่นเอาตรงกลางสนามแล้วเจอบาวิ่งรามิเรสวิ่งเข้ามาฉกบอลพาลุยขึ้นมาเองเลยก่อนจะออกไปทางขวาให้กับมาต้าสุดท้ายเลือกปาดคืนกลับมาหน้าเขตโทษให้โมเซสสอดมายิงแต่ซัดไปโน่นเลยขึ้นอัฒจันทร์ไม่ได้เสียว

เพอร์ซี่ได้ยิงบ้างหลุดเป้าหมายไปโข 
โอกาสของแมนฯ ยูไนเต็ดมากันบ้างจากบอลกลางสนามฝากขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษให้กับฟาน เพอร์ซี่มีลุยซ์บังอยู่ข้างหน้าเลยลองแตะบอลให้เข้าเท้าซ้ายแล้วลองสับไกดูแต่ก็ยังยิงหลุดออกหลังไปไกลลิบ 

สิงห์เอะอะได้ยิงตลอดยังเฉียดไปมา 
หลังจากนั้นผลัดกันครองบอลคนละทีสองที แต่ก็ยังเป็นเชลซีที่ได้โอกาสลองส่องอย่างต่อเนื่องเริ่มต้นจากการยิงไกลของแลมพาร์ดแต่ก็ยังไม่คมนักเข้ามือของลินเดการ์ดไป อีกจังหวะเป็นบาที่เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษทางซ้ายแล้วบรรจงปั่นกะให้เสียบเสาไกลแต่ก็ยังหลุดออกหลัง 

หนูทอมได้ยิงไกลยังห่างไกลเป้าหมาย 
โอกาสทางแมนฯ ยูไนเต็ดมาอีกแล้วในนาที 33 จากการพาขึ้นมาเองของอันแดร์สันก่อนจ่ายออกไปทางซ้ายโล่งๆให้กับกิ๊กส์ได้โอกาสตั้งป้อมเปิดเข้าไป เช็คยังทุบออกมาแต่เข้าทางเคลฟเวอร์ลี่ย์หน้าเขตโทษยิงเข้าใส่สุดท้ายก็ยังหลุดกรอบออกหลังไปไกลโข 

กิ๊กส์เปิดสวย!RVP วิ่งมายิงตามน้ำหลุดเสา 
"ปิศาจแดง"เกือบมาได้ประตูนำเอาในช่วงท้ายจากจังหวะการจ่ายที่น่าปรบมือให้ของกิ๊กส์จากกลางสนามที่เปิดบอลต่ำๆเข้าไปในเขตโทษแล้วฟาน เพอร์ซี่วิ่งมายิงตามน้ำด้วยซ้ายแต่บอลยังหลุดเสาออกหลังนิดเดียว 

ก่อนหมดเวลาได้ส่องไปคนละทีแต่ยังไร้ประตู 
หลังจากนั้นยังผลัดกันได้ลุ้นคนละทีจากการยิงของออสการ์ตรงเขตโทษแต่หลุดเสาออกหลัง ของแมนฯ ยูไนเต็ดก็เป็นจังหวะกิ๊กส์ได้เปิดเข้ามาให้ฟาน เพอร์ซี่โขกบ้างแต่ยังตรงตัวเช็คก่อนหมดเวลาไปด้วยการเสมอกันอยู่ 0-0 

ครึ่งหลัง 

ยังได้บุกกันคนละทีสองที 
กลับมาครึ่งหลังก็กลับมาหวาดเสียวไปคนละทีเริ่มต้นจากเชลซีก่อนที่ได้ลุยขึ้นมาถึงเขตโทษบอลออกไปฝากโมเซสทางขวาก่อนตั้งป้อมเปิดไปเสาแรกถึงบาสุดท้ายจังหวะยิงยังเจอบล็อกหลุดออกหลัง แล้วแมนฯ ยูไนเต็ดมีโอกาสโต้ขึ้นมาอันแดร์สันจ่ายไปทางขวาให้โจนส์เข้าเขตโทษหวังตักมาเสาไกลที่ฟาน เพอร์ซี่แต่เปิดไม่ดีออกหลัง 

แลมพ์วิ่งมาจิ้มแต่ยังหลุดข้ามคานไปอีก 
นาที 55 โอกาสของ"สิงห์บลูส์"มาอีกหนเริ่มต้นที่อัซปิลิกวยต้าครองบอลอยู่ริมเส้นก่อนตักเข้าเขตโทษไปให้กับมาต้าตามไปส่งบอลมาตรงกลาง สุดท้ายเป็นแลมพาร์ดวิ่งเข้ามายิงแบบดีดๆ สุดท้ายก็ยังหลุดข้ามคานออกไป 

สิงห์บุกเยอะยังจบจังๆไม่ได้-ผีแก้เกมแล้ว 
หลังผ่านชั่วโมงนึงในเกมมา บอลเป็นของเชลซีเยอะกว่าแต่โอกาสจบหาได้ยากยิ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นจังหวะโดนดักสกัดได้มากกว่า หรือมาเป็นฟรีคิกก็ยังไม่ผ่านอีกมาต้าปั่นไปติดกำแพง แมนฯ ยูไนเต็ดที่โดนบุกใหญ่ก็ต้องเปลี่ยนส่งรูนี่ย์กับบุตตเนอร์มาแทนอันแดร์สันกับเคลฟเวอร์ลี่ย์ 

รูนี่ได้โหม่งแต่ก็ยังไม่ได้ลุ้น 
"ปิศาจแดง"นานๆจะได้บุกมาจบทีช่วงนี้โดยเป็นจังหวะเตะมุมโดนโหม่งออกมาแต่ก็ยังตามมาเก็บแล้สออกบอลไปทางขวาสุดท้ายเปิดกลับเข้าไปลุ้นใหม่ถึงหัวของรูนี่ย์โหม่งก็ยังลอยออกหลัง 

ราฟาเปลี่ยนตอร์เรสแทนโมเซส 
มาถึงตรงนี้ยังหาประตูกันยากอยู่เลยแม้จะผลัดกันบุกอยู่เรื่อยๆก็ตามแต่จังหวะจบยังไม่คมกันเทาไหร่ สุดท้ายนาที 76 ถึงเวลาทางเชลซีแก้เกมบ้างเลือกส่งตอร์เรสลงสนามมาเพิ่มเติมเกมรุกอีกคนให้แทนที่โมเซสไปเลย 

ราฟาเอลจ่ายแฉลบเกือบเข้าประตู 
เกือบที่จะมีประตูของเจ้าบ้านแล้วจากการลุยมาทางริมเส้นขวาของกิ๊กส์ก่อนจะจิ้มต่อมาให้กับราฟาเอลเป็นคนพาบอลตะลุยต่อเข้าเขตโทษไปแล้วสุดท้ายพยายามจะปาดมาหน้าประตู อิวาโนวิชเข้ามาขวางไว้บอลแฉลบเปลี่ยนทางเข้าข้างตาข่ายนิดเดียว 

ลุยซ์ส่องฟรีคิกไม่เข้าเป้า 
เข้าท้ายเกมแล้วนาที 83 เชลซีมาได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลกหน้าเขตโทษ ก่อนเป็นลุยซ์มารับหน้าที่เองยิงผ่านกำแพงมาได้แล้วแต่สุดท้ายบอลก็โค้งหลุดออกไปอีก 

สิงห์เอาจนได้!มาต้ายิงชนเสานำชัย 
สุดท้ายนาที 87 มันก็เกิดประตูขึ้นจนได้จริงๆจากจังหวะที่รามิเรสได้บอลมาแล้วพาบอลมาถึงหน้าเขตโทษก่อนตอกคืนให้หลังออสการ์ส่งบอลต่อไปทางซ้ายอีกที มาต้าอยู่โล่งๆเลยจับบอลก่อนจะได้ยิงด้วยซ้ายแฉลบโจนส์นิดเดียวก่อนผ่านมือลินเดการ์ดไปก่อนชนเสาเข้าประตู เชลซีออกนำไปแล้ว 1-0 ส่วนเครดิตคนทำพรีเมียร์ก็เลือกให้โจนส์ทำเข้าประตูไปแทน 

แถมท้าย!ราฟาเอลเจอแดงออกก่อนเพื่อน 
ส่งท้ายเกมยังมามีมาม่าเล็กน้อยจากจังหวะที่ราฟาเอลเบียดกับลุยซ์แล้วมีพัวพันกันสุดท้ายก็ไปหวดแบบดื้อๆใส่ลุยซ์ลงไปโดนจับภาพได้ว่ามียิ้ม สุดท้ายแข้งเชลซีไม่พอใจมีวุ่นๆเล็กน้อยก่อนมาแยกๆกันออก แล้วเว็บบ์ก็แจกแดงให้กับราฟาเอลออกไปเลย 

จบเกมเชลซีบุกมาเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดได้ 1-0 กลายเป็นผลการแข่งขันที่สำคัญของพวกเขาเพราะจะกลับขึ้นไปยึดอันดับ 3 กลับมาได้อีกครั้งนำหน้าอาร์เซน่อลอยู่แต้มนึงและยังแข่งน้อยกว่า 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
 : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด 5.5, ราฟาเอล ดา ซิลวา 5.5, ปาทริช เอฟร่า 5.5, จอนนี่ อีแวนส์ 5.5, เนมันย่า วิดิช 5.5, ฟิล โจนส์ 6.0, อันโตนิโอ วาเลนเซีย 5.0 (เอร์นานเดซ น.90 -), อันแดร์สัน 5.5 (บุตต์เนอร์ น.69 5.5), ไรอัน กิ๊กส์ 6.0, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ 5.0 (รูนี่ย์ น.69 5.5), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 5.5 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : ดาบิด เด เกอา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, พอล สโคลส์, ชินจิ คากาวะ 

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ค 6.0, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 6.0, แอชลี่ย์ โคล 5.5, ดาวิด ลุยซ์ 5.5, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า 6.0, รามิเรส 6.0, แฟรงค์ แลมพาร์ด 5.5, ฆวน มาต้า 7.0* (เอเก้ น.90 -), ออสการ์ 7.0, วิคเตอร์ โมเซส 5.0 (ตอร์เรส น.76 5.5), เด็มบ้า บา 5.5 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : รอส เทิร์นบูลล์, เปาโล แฟร์เรร่า, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, ยอสซี่ เบนายูน
 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์