จ่าฝูงของข้า! เรือยิงสิงห์สิ้นสภาพ 6-0

จ่าฝูงของข้า! เรือยิงสิงห์สิ้นสภาพ 6-0


เรือใบสีฟ้าเปิดบ้านซัดสิงโตน้ำเงินครามด้วยสกอร์ครึ่งโหล ทวงจ่าฝูงคืนจากหงส์แดง พร้อมส่งสิงห์หล่นที่ 6 ของตาราง

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018-19 เกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ เป็นการเจอกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ก่อนแข่งหล่นไปอยู่ที่ 2 รับการมาเยือนของ เชลซี อันดับ 5

ถ้าวันนี้เจ้าถิ่นไม่แพ้ ก็จะกลับไปทวงอันดับ 1 ของตารางลีกอีกครั้ง เป๊ป กวาดิโอลาร์ ขยับเอา โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ กลางดาวรุ่งถอยไปยืนแบ็คซ้าย โดยมี 3 ประสานเกมรุกอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร, ราฮีม สเตอร์ลิง และ แบร์นาโด ซิลวา นำทัพ

ทางฝั่งผู้มาเยือนจากลอนดอน โดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำแต้มขึ้นไปอยู่ที่ 4 แทน มาวันนี้เมาริซิโอ ซาร์รี ส่งรอส บาร์คลีย์ ปั้นเกมตรงกลางร่วมกับ เอ็นโกโล ก็องเต้ และจอร์จินโญ ส่วน 3 ขุมกำลังแดนหน้าวาง กอนซาโล อิกวาอิน หน้าเป้า โดยมีเอเด็น อาซาร์ และ เปโดร โรดริเกวซ ขนาบข้าง

เริ่มเกมแค่ 4 นาที จากจังหวะเล่นฟรีคิกเร็วของเควิน เดอ บรอยน์ หลังจากที่โดนจอร์จินโญตัดฟาวล์ จ่ายให้แบร์นาโด ซิลวายืนโล่งๆทางฝั่งขวา ก่อนจะผ่านเข้ามาในเขตโทษ และเป็นราฮีม สเตอร์ลิง วิ่งมากดเน้นๆเข้าไปไม่เหลือ แมนฯซิตี้นำ 1-0

อีก 3 นาทีต่อมา เจ้าถิ่นหวิดได้ประตูที่สอง เมื่อแบร์นาโด ซิลวาพาบอลวนในเขตโทษเชลซี และพลิกหาจังหวะเปิดตัดหน้าปากประตู บอลไหลมาเข้าเท้ากุน อเกวโร ทว่ากลับแปโล่งๆหลุดเสาหน้าตาเฉย

สกอร์ไหลเป็น 2-0 ในนาทีที่ 13 เมื่อโอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ผ่านบอลสั้นให้กุน อเกวโร ได้มีพื้นที่จากนอกเขต ก่อนตัดสินใจซัดด้วยความมั่นใจ แม้เกป้าจะพุ่งสุดตัวปัดโดนบอล ทว่าทิศทางลูกพุ่งตุงตาข่าย

นาทีที่ 19 จากความผิดพลาดของรอส บาร์คลีย์ โหม่งคืนหลังพลาด จากจังหวะบุกป้วนเปี้ยนหน้าโกลของซิตี้ บอลตกข้ามกองหลังเชลซีมาเข้าทางกุน อเกวโร ยิงโล่งๆเข้าไป แมนฯซิตี้นำ 3-0

นาทีที่ 25 เกมรุกเจ้าถิ่นยังดุดันต่อเนื่อง คราวนี้เป็นจังหวะสกัดบอลของอันโตนิโอ รูดิเกอร์ ไปเข้าทางปืน อิลคาย กุนโดกัน ยิงจากนอกกรอบโทษชนิดที่เกป้าหมดสิทธิ์ป้องกัน เรือใบสีฟ้าหนีห่าง 4-0

แม้ช่วงที่เหลือใน 45 นาทีแรก เชลซีจะได้ลองทำเกมรุกใส่บ้าง แต่ยังไม่เฉียบคมเหมือนเจ้าบ้าน โดยเฉพาะนาทีที่ 38 ที่กอนซาโล อิกวาอิน ได้ฮาล์ฟวอลเลย์นอกกรอบ ทว่าเอแดร์สัน บินปัดได้สวย

เปิดครึ่งหลังนาทีที่ 50 กุน อเกวโร หวิดทำประตูที่ 5 ของเจ้าบ้าน เมื่อเขาได้โอกาสโขกเต็มศีรษะ จากการเปิดของเควิน เดอ บรอยน์ แต่บอลดันไปชนคาน

นาทีที่ 56 เซซาร์ อัธปิลิกวยต้า ตัดฟาวล์ราฮีม สเตอร์ลิง ในเขตโทษ ผู้ตัดสินไมค์ ดีน เป่าให้เป็นลูกจุดโทษ ซึ่งคนที่รับหน้าที่สังหารเป็นกุน อเกวโร ทำให้หอกอาร์เจนไตน์ทำแฮตทริคได้ในเกมนี้ และเป็นแฮตทริคที่สองจากสถิติลงสนามรอบสามนัดของเจ้าตัว

นาทีที่ 74 กาเบรียล เชซุส สำรองที่ลงมาแทน กุน อเกวโร มีโอกาสพาบอลเข้ากรอบโทษด้านซ้าย ก่อนหาโอกาสซัดหวังให้ลูกเข้าเสาไกล แต่เกป้าดักทางล้มตัวปัดได้สวย

3 นาทีต่อมา เชลซีมีลุ้นจากลูกฟรีคิกแถวหัวกระโหลก แต่เอเมอร์สัน ที่ลงมายืนแบ็คซ้ายแทนมาร์กอส อลอนโซ่ ปั่นบอลข้ามกำแพงไปเข้าซองเอแดร์สัน

สกอร์ที่ 6 ในเกมนี้เกิดขึ้นจากฝั่งเจ้าถิ่น ในนาทีที่ 80 เมื่อราฮีม สเตอร์ลิง ซัดโล่งๆในกรอบโทษระยะ 6 หลา จากการเปิดเข้าในของโอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้

เวลาที่เหลือเชลซีก็ยังไม่สามารถเจาะตาข่ายแมนฯ ซิตี้ได้เกมนี้ หมด 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดเอติฮัด สเตเดี้ยม รัวเชลซีไม่ยั้ง 6-0 กลับไปยึดอันดับ 1 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกเหมือนเดิม
แม้แต้มจะเท่าลิเวอร์พูลที่ 65 แต่ทีมของเป๊ปมีผลประตูได้เสียมากกว่าที่ 54 (หงส์แดง 44) ขณะที่เชลซีหล่นไปอยู่ที่ 6 ของตาราง เนื่องจากเฮดทูเฮดแพ้อาร์เซนอลที่ 3-4

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี Goal.com


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!


Love Attack  เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน

Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้

Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์