เรือใบสีฟ้าผ่านเข้าไปรอในรอบรองชนะเลิศเอฟเอคัพเป็นทีมแรก หลังบุกไปเก็บชัยเหนือสิงห์แดงได้สำเร็จ
ไอตอร์ การันก้า กุนซือเจ้าบ้าน ที่แม้สถานการณ์ในพรีเมียร์ลีกจะไม่สู้ดีนัก หล่นไปอยู่โซนตกชั้นอันดับ 18 แต่ในเอฟเอคัพผลงานเยี่ยมหลุดเข้าาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยเลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้ศูนย์หน้าร่างใหญ่ซึ่งมีทีเด็ดที่ลูกกลางอากาศอย่าง รูดี้ เกสเตด ประสานงานในแนวรุกร่วมกับ คริสเตียนร สตูอานี และ อดามา ตราโอเร
ด้านทีมเยือนของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กลับมาใช้ 4 ผู้เล่นที่ไม่ได้ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อกลางสัปดาห์ซึ่งเสมอสโต๊ค ซิตี้ 0-0 อย่าง เคลาดิโอ บราโว, พาโบล ซาบาเลต้า, จอห์น สโตนส์ และ ราฮีม สเตอร์ลิง กลับมาเป็น 11 คนแรกอีกครั้ง โดยมี เซร์คิโอ อเกวโร รับบทบาทเป็นกองหน้าตัวเป้าความหวังในแนวรุกเช่นเคย
ออกสตาร์ทเกมมาเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น เป็นซิตี้ที่สามารถพังประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ยาย่า ตูเร วางบอลยาวเข้าไปทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ ซาบาเลต้า ตบเข้ากลางหมายจะให้ สเตอร์ลิง ที่เตะวืดแต่กลายเป็นดีเมื่อลูกกระดอนลอดขามาเข้าทาง ดาบิด ซิลบา หวดด้วยซ้ายจ่อๆตุงตาข่าย ส่งให้เรือใบสีฟ้าบุกนำ 1-0
นอกจากจะตกเป็นฝ่ายตามหลังอยู่แล้ว มิดเดิ้ลสโบรช์ยังต้องมาเสีย เกสเตด ซึ่งโชคร้ายบาดเจ็บจนฝืนเล่นต่อไม่ไหวไปด้วย ทำให้ต้องส่งดาวยิงตัวเก่งที่เกมนี้เป็นแค่สำรองอย่าง อัลบาโร เนเกรโด้ ลงมาแทน ในนาทีที่ 26 ก่อนจะจบ 45 นาทีแรกยังเป็นทีมเยือนที่บุกมานำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังก็ยังเป็นซิตี้ที่เหนือกว่ามาก ก่อนจะมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก ในนาทีที่ 67 จากจังหวะที่ เลรอย ซาเน เปิดบอลเรีดยจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ อเกวโร โฉบมาแปด้วยขวาระยะเผาขนเข้าไป ช่วยให้เรือใบสีฟ้าหนีห่างเป็น 2-0
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุด้ายจบเกมเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่บุกเอาชนะไป 2-0 ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเอฟเอคัพได้สำเร็จเป็นทีมแรก
Cr::goal.com/th