มาเม่ บิรัม ดิยุฟ เป็นดุจฮีโร่ของเหล่าสาวกช่างปั้นหม้อ หลังโชว์ลากจากกลางสนามเข้าไปผลิตสกอร์ชัยให้ต้นสังกัดบุกเก็บสามแต้มสำคัญถึงรังเอติฮัด สเตเดี้ยม ได้สำเร็จ
มานูเอล เปเยกรินี สมอเรือใหญ่ทัพเรือใบสีฟ้า ได้รับข่าวดีสุดๆเมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร ดาวยิงระดับพระกาฬชาวอาร์เจนไตน์ฟิตเต็มถัง หวนคืนสนามเป็น 11 ตัวจริงในเกมนี้ โดยจะลงมายืนจับคู่ในแดนหน้าร่วมกับสเตฟาน โยเวติช ส่วนแผงมิดฟิลด์ 4 รายประกอบด้วย เฟอร์นันโด, ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา และซามิร์ นาสรี
ด้านมาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือจอมเฮี๊ยบของช่างปั้นหม้อ จัดทัพมาในระบบ 4-4-2 โดยไรอัน ชอว์ครอส ยังเป็นปราการหลังตัวกลางคู่กับ มาร์ค วิลสัน เช่นเดิม ส่วนแผงมิดฟิลด์ 4 รายประกอบด้วย เกล็นน์ วีแลน, สตีเวน เอ็นซองซี, โจนาธาน วอลเตอร์ส และวิคเตอร์ โมเสส ขณะที่คู่หน้าใช้มาเม่ บิรัม ดิยุฟ กับปีเตอร์ เคร้าช์ ไล่ล่าตาข่าย
เพียงแค่นาทีเดียวต่อจากนั้นแฟนบอลเจ้าบ้านถึงกับช็อค เมื่อสโค๊คได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะสวนกลับเร็ว และเป็นมาเม่ บิรัม ดิยุฟ โชว์โซโล่เดี่ยวจากกลางสนามเข้าไปในเขตโทษก่อนบรรจงแปด้วยขวาส่งบอลพุ่งลอดขา โจ ฮาร์ท เข้าไปตุงตาข่าย
หลังจากนั้นเจ้าบ้านเป็นฝ่ายโหมบุกแทบจะข้างเดียว และมีโอกาสหลายครั้งหลายครา ทว่าจังหวะสุดท้ายยังไม่เฉีบคมพอ ทำให้จบเกมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านพ่ายสโต๊ค ซิตี้ 0-1