แมนฯซิตี้ชนะเวสต์แฮมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
หน้าแรกTeeNee ที่นี่กีฬา พูดคุยเรื่องฟุตบอลและกีฬาต่าง ๆ แมนซิตี้ แมนฯซิตี้ชนะเวสต์แฮมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
แมนฯซิตี้ชนะเวสต์แฮมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก-หงส์แดงแซงเฉือนนิวคาสเซิล"เชลซี-อาร์เซนอล"เก็บชัยนัดปิดฤดูกาล
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2013-2014 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค. ทุกคู่เตะพร้อมกัน
ทีม“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ทีม“สาลิกาดง” นิวคาสเซิล เกมนี้ลิเวอร์พูลจำเป็นต้องเก็บ 3 คะแนนเต็มให้ได้ เพื่อรักษาโอกาสในการลุ้นแชมป์ ขณะเดียวกันต้องลุ้นให้ แมนฯ ซิตี้ แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
เริ่มเกมได้ 4 นาที ทีมเยือนได้โอกาสลุ้นประตูก่อน มุสซ่า ซิสโซโก้ โยนลูกเตะมุมเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ โชล่า อเมโอบี้ ได้ขึ้นโขกแต่บอลไม่ตรงกรอบ
จากนั้น นาที 18 สาวกเดอะค็อปต้องเฮเก้อ จากจังหวะที่ หลุยส์ ซัวเรซ ถูกทำฟาวล์บริเวณริมเส้นด้านขวา ก่อนที่หัวหอกชาวอุรุกวัยจะฉวยโอกาสยิงเร็ว บอลพุ่งเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเนื่องจากเล่นบอลในจังหวะที่บอลยังไม่นิ่ง
เกมดำเนินมาถึงนาที 20 เป็นฝ่ายทีมเยือนที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ โยอัน กุฟฟร็อง เปิดบอลจากฝั่งซ้าย ก่อนที่ มาร์ติน สเคอร์เทล จะสกัดบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง
อีก 4 นาทีต่อมา เจ้าบ้านพลาดโอกาสได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่สตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดลูกเตะมุมไปที่กรอบ 6 หลา ดาเนียล แอ็กเกอร์ ได้โหม่ง แต่บอลไปตรงตัว ทิม ครูล
นาที 27 นิวคาสเซิล เกือบได้บวกประตูเพิ่มอีกลูก โยอัน กุฟฟร็อง ได้โอกาสหลุดเข้าไปดวลกับซิมง มินโญเลต์ ในกรอบเขตโทษ แต่นายทวารชาวเบลเยี่ยมยังเซฟไว้ได้อย่างสวยงาม
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ทีม“หงส์แดง” พลาดโอกาสได้ประตูตีเสมออย่างเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดบอลให้ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ได้ขึ้นโหม่งแบบโล่งๆ แต่หัวหอกชาวอังกฤษโขกออกนอกกรอบอย่างไม่น่าเชื่อ
หลังจากนั้นทั้งสองทีมยังยิงประตูกันเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรก นิวคาสเซิล นำ 1-0
เริ่มครึ่งหลัง นาที 48 ลิเวอร์พูลได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้โอกาสสับไกยิง แต่บอลไปแฉลบกองหลังของทีม“สาลิกาดง” หลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
กระทั่ง นาที 61 เจ้าถิ่นมาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 สตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดลูกฟรีคิกไปที่เสาไกล ก่อนจะเป็น ดาเนียล แอ็กเกอร์ ที่ได้โอกาสส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย
อีก 4 นาที ต่อมา แฟนบอลทีม“หงส์แดง” ได้เฮกันลั่นสนาม สตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดลูกฟรีคิกจากมุมเดิม ไปที่เสาสอง คราวนี้เป็นดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่วิ่งเข้าชาร์จจ่อๆเป็นประตูให้ลิเวอร์พูล พลิกแซง 2-1
สถานการณ์ของทีมเยือนต้องเรียกว่าฝันร้าย หลังต้องเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ โชล่า อเมโอบี้ มาโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไปในนาที 66
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม นิวคาสเซิล ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 9 คน เมื่อ พอล ดัมเม็ตต์ ผู้เล่นตัวสำรองที่เพิ่งถูกส่งลงสนามไปทำฟาวล์หลุยส์ ซัวเรซ แบบน่าเกลียด โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปในนาที 87
หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ นิวคาสเซิล 2-1 เก็บเพิ่มอีก 3 แต้ม เป็น 84 คะแนน จาก 38 นัด จบฤดูกาลด้วยตำแหน่งรองแชมป์ หลังแมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านต้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-0
ส่วนเกมที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ทีม“เรือใบสีฟ้า” เปิดบ้านชนะ ทีม“ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-0 เกมนี้เจ้าถิ่นได้ประตูจาก ซาเมียร์ นาสรี่ กองกลางชาวฝรั่งเศส นาที 39 และ แวงซ็องต์ กอมปานี กัปตันทีม นาที 48
ส่งผลให้ทีม“เรือใบสีฟ้า” เก็บเพิ่มเป็น 86 แต้ม จาก 38 นัด คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ไปครองได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 2 ในรอบ 3 ปี และเป็นการประเดิมคุมทัพฤดูกาลแรกของ มานูเอล เปเยกรินี่ อย่างยิ่งใหญ่
ผลคู่อื่น คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ แพ้ เชลซี 1-2,
สเปอร์ ถล่ม แอสตัน วิลล่า 3-0,
ซันเดอร์แลนด์ แพ้ สวอนซี 1-3, เซาแธมป์ตั้น เสมอ แมนฯ ยู 1-1,
นอริช ซิตี้ แพ้ อาร์เซน่อล 0-2,
ฮัลล์ ซิตี้ แพ้ เอฟเวอร์ตั้น 0-2, ฟูแล่ม เสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2
และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน แพ้ สโต๊ก ซิตี้ 1-2
สรปุผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีกฤดูกาล 2013-14
แชมป์ : แมนฯ ซิตี้
รองแชมป์ : ลิเวอร์พูล
ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก : แมนฯซิตี้, ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซนอล
ยูฟ่า ยูโรปา ลีก : ฮัลล์, เอฟเวอร์ตัน, สเปอร์ส
ตกชั้น : นอริช, ฟูแล่ม, คาร์ดิฟฟ์