ซุปเปอร์ แดงเดือด ลิเวอร์พูล-แมนฯยูฯ

นี่คือเกมแดงเดือดที่แฟนหงส์และผีต่างรอคอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลงานล่าสุดของ ลิเวอร์พูล ซึ่งไล่ยิงประตูคู่แข่งขันถล่มทลาย 7 นัดล่าสุดยิงไป 26 ลูก ขณะที่ ปีศาจแดง พกพาศักดิ์ศรีของแชมป์พรีเมียร์ลีก 9 สมัย มาเยือนแอนฟิลด์ นั่นก็รวมทั้งผลงานที่มักจะทำให้ เด็กหงส์ หนาวๆร้อนๆ ในทุกครั้งที่ ลิเวอร์พูลต้องเผชิญหน้ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 โดยสถิติแมนฯยูไนเต็ด ชนะมากกว่า ยิ่งกว่านั้นนับตั้งแต่ ราฟา เบนิเตซ คุมทีมลิเวอร์พูลเมื่อ 3 ปีก่อน เขายังเอาชนะ แมนฯยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีกไม่ได้สักเกม
ขณะที่ผลงานล่าสุดนั้น แมนฯยูฯ นำลิเวอร์พูล 6 แต้ม ส่วนลิเวอร์พูลพึ่งพลาดท่าแพ้ต่อเรดดิ้ง ในพรีเมียร์ลีก
หงส์แดง นั้นกรำศึกหนักมาตลอด ล่าสุดออกแรงถล่มมาร์กเซย เรียกความมั่นใจให้กลับคืนมาก่อนรับมือ ปีศาจแดง ได้พอสมควร
 ยิ่งกว่านั้นถ้าแพ้ช่องว่างจะโดนทิ้งกระจุยกระจายจาก 6 เป็น 9 แต้ม
 
 หงส์แดงลิเวอร์พูล การมีตอร์เรสในแนวรุกช่วยทำให้การปิดเกมของลิเวอร์พูลดูมั่นใจและมีความเฉียบขาดมากขึ้น ดังนั้นเชื่อว่า ราฟา จะวางแผนเพื่อไม่ให้แมนฯยูฯได้เล่นเกมรุก จากนั้นลุ้นว่า หน้าจะคมเหมือนนัดที่ผ่านๆมาหรือไม่

 ขณะเดียวกัน แมนฯยูไนเต็ด น่าจะโดนบีบให้เล่นตั้งรับแล้วรอสวนกลับ ซึ่งเป็นทีเด็ดของ ผีแดงเลยก็ว่าได้ ไม่จำเป็นต้องไปทำเกมรุกสู้ รอจังหวะอย่างใจเย็น รับให้แน่น แดนกลางลิเวอร์พูลพลาด พวกเขาขอโอกาสทีเดียวสวนกลัว อาศัยหน้าเร็ว เกมรุกทะลุทะลวง ขณะที่กองหลังหงส์แดงช้า ทั้ง คาร์ราเกอร์ และ ฮูเปีย ประกบ รูนีย์ กับ โรนัลโด ไม่อยู่แน่

 เกมนี้เราจึงได้เห็นแผนการที่แตกต่างของทั้งสองทีม ซึ่งเชื่อว่า ทั้งสองแผนที่แตกต่างนี้นักเตะน่าจะทำได้ตามแผน แต่การตัดสินอยู่ที่ความเฉียบขาดในการยิงประตู จังหวะสุดท้าย ซึ่งตรงนี้ต้องยอมรับว่า ปีศาจแดง เหนือกว่าเล็กน้อย

ผลที่คาด
 ผีแดงอาศัยความเก๋า ความเคี่ยว น่าเอาตัวรอดจากความพ่ายแพ้นัดนี้ได้

ผลเสมอ 1-1 น่าจะเกิดขึ้นด้วยเปอร์เซ็นต์สูงถึง 60 ส่วนแพ้ชนะมีโอกาสไม่แตกต่างกัน