เรดส์ คอร์เนอร์ : แดงเดือดหนนี้หงส์พร้อมแค่ไหน ...ตามไปดูกัน

เค้าท์ดาวน์ 2 วัน สู่สงครามแดงเดือดครั้งที่ 180 นี่คือเกมลูกหนังที่ว่ากันว่าขลังที่สุดคู่หนึ่งในโลกเลยก็คงจะไม่ผิดนัก กับบรรยากาศอันร้อนระอุคุโชนดั่งไฟพะเนียง นี่คือคู่อริตลอดกาลแห่งศึกพรีเมียร์ลีกอังฤษ ดินแดนต้องมนต์ของเหล่าบรรดานักเตะซูเปอร์สตาร์ กาลเวลาได้นำพาทั้ง 2 ทีม ให้โคจรมาห้ำหั่นกันอีกครั้ง ณ สมรภูมิแดงเดือดที่ศักดิ์สิทธิ์นามว่า แอนฟิลด์

เชื่อเหลือเกินว่าบรรยากาศในวันอาทิตย์นี้ที่ แอนฟิลด์ โร้ด คงจะคึกคักและสุดพิเศษกว่าครั้งใดๆในรอบหลายปีที่ผ่านมา ด้วยเพราะเก้าอี้ที่กุนซือคนปัจจุบันของหงส์แดงกำลังนั่งอยู่นี้คือ คิง เคนนี่ เคนนี่ ดัลกลิช ตำนานนักเตะและผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลผู้โด่งดัง และเป็นที่รักของเหล่าสาวก เดอะ ค็อป ทั่วหล่าฟ้าปฐพี ผู้ซึ่งกลับคืนสู่บัลลังก์เพื่อหวังจะนำพาทีมรัก ให้ตื่นจากภวังค์ เดอะคิงส์ กลับมาครั้งนี้ด้วยหัวใจของตำนานผู้เป็นดั่งความหวังของหงส์แดง

ลิเวอร์พูลคือที่สุดของชีวิตของผม หากแม้นสโมสรต้องการผม ผมก็จะขออุทิศกาย ถวายทุกเม็ดใจ เพื่อช่วยเหลือสโมสรอันเป็นที่รักนี้ด้วยหัวใจ คือคำกู่ร้องก้องนภาแอนฟิลด์ของ เคนนี่ ดัลกลิช ที่ขันอาสานำพาลิเวอร์พูลตื่นขึ้นจากฝันร้ายให้ได้ พร้อมกับได้ให้คำมั่นกับแฟนบอลว่า จะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตราบเท่าที่ทุกลมหายใจของเขาที่มีให้กับสโมสรอันเป็นที่รัก .. ลิเวอร์พูล ...

แม้นว่าผลงานในศึกพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2010/2011 ของทั้ง หงส์แดง ลิเวอร์พูล และ ปีศาจแดง แมนฯยู จะสวนทางกันโดยสิ้นเชิง แต่หงส์แดงในวันนี้ก็พร้อมแล้วที่หยุดยั้งจ่าฝูง ไม่ให้ก้าวขึ้นสู่เถลิงบัลลังก์แชมป์ลีกเป็นสมัยที่ 19 ได้ นั่นคือความท้าทายครั้งใหญ่ ที่บรรดา เดอะ ค็อป ทั่วโลกต่างตั้งตารอคอยที่จะได้ชมเกมนี้กันอย่างในจดใจจ่อ

หงส์แดงพร้อมแค่ไหนสำหรับศึกแดงเดือดครั้งนี้?

ลิเวอร์พูลในยุคของ คิง เคนนี่ รีเทิร์น เพิ่งหยุดสถิติไร้พ่ายติดต่อกันไว้ที่ 8 นัด รวมทุกรายการ เมื่อพวกเขาบุกไปพ่ายต่อเวสต์แฮม 3-1 แบบผิดฟอร์ม พร้อมกับปัญหาอาการบาดเจ็บ ที่ตามรุมเร้านักเตะตัวหลักหลายคนด้วยกัน และที่สำคัญที่สุดเห็นจะเป็น มาร์ติน เคลลี่ วิงแบ็กขวาดาวรุ่งพุ่งแรงที่ฟอร์มกำลังขึ้นเหลือเกิน ซึ่งเคลลี่ได้รับบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย ต้องพักรักษาตัวอย่างน้อย 1 เดือนด้วยกัน

แต่ข่าวดีล่าสุดวันนี้ (4 มี.ค. 2011) ของลิเวอร์พูลคือ ราอูล เมย์เรเลส, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ และฟาบิโอ ออเรลิโอ 3 กำลังสำคัญของทีม ต่างก็พาเหรดเข้าสู่การฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ดัลกลิชยังคงเป็นกังวลกับสภาพความฟิตของทั้ง 3 คน และนั่นก็หมายความว่าทั้ง 3 คนนี้น่าจะพร้อมลงช่วยทีมได้ในเกมวันอาทิตย์นี้ค่อนข้างแน่นอน

และอีก 1 ข่าวดีที่ล่าสุดคือการกลับมาลงสนามได้อีกครั้งของ แอนดี้ แคร์โรลล์ ศูนย์หน้าป้ายแดงค่าตัว 35 ล้านปอนด์ ผู้กลายเป็นนักเตะสถิติค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์สโมสรลิเวอร์พูลไปในบัดดล

โดยแคร์โรลล์ผ่านการสแกนในขั้นสุดท้ายจากทีมแพทย์ของสโมสรด้วยดี ไม่มีผลข้างเคียงใดๆให้ต้องกังวลใจ และกำลังร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมในแคมป์หงส์แดงแบบเต็มสตีมแล้ว ถึงแม้ว่าแคร์โรลล์มอนสเตอร์จะไม่ได้ผ่านเกมเรียกความฟิต แต่คาดว่าดัลดลิชน่าจะใส่ชื่อเขาไว้ในทีมชุดต้อนรับแมนฯยูวันอาทิตย์นี้เลย เนื่องจากแมนฯยูจะเยือนแอนฟิลในศึกแดงเดือดหนนี้ด้วยสภาพหลังพิการ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่แคร์โรลล์จะได้ออกสตาร์ตที่ม้านั่งสำรองก่อน และ คิง เคนนี่ คงจะเปิดตัวดาวยิงตัวใหม่ต่อหน้า เดอะ ค็อป ในเกมแรกของเขานี้ในครึ่งหลัง เพื่อเป็นการปล่อยของใส่ผีแดงในสถานการณ์ฉุกเฉิน นั่นเอง

เมื่อทัพหงส์แดงกลับมาพร้อมรบกันอีกครั้ง แต่การขาดหายไปของ มาร์ติน เคลลี่ จึงน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า คิง เคนนี่ จะยังคงยึดแผนการเล่นในรูปแบบ 5-3-2 หรือ 3-5-2 ไว้ต่อไปอีกหรือไม่ เพราะแนวรับหงส์แดงจะต้องเจอบททดสอบอันสุดแกร่งจากเกมรุกแมนฯยูแน่นอน โดยเฉพาะปีกรอบจัดทั้ง 2 ข้างอย่าง พ่อมดวัยดึก ไรอัน กิ๊กส์ และ เลื้อยมหาภัยอย่าง นานี่ ซึ่งพลังการรุกทางริมเส้นของผีแดงจัดจ้านเหลือกำลัง

ในขณะที่การขาดทั้ง ริโอ เฟอร์ดินาด์ และ เนมันย่า วิดิช น่าจะทำให้ เดอะ แวมไพร์ หลุยส์ ซัวเรซ ได้โอกาสเขย่าขวัญแนวรับแมนฯยูแน่นอน เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม 2 เดือนติดต่อกันอย่าง ราอูล เมย์เรเลส จะกลับมาส่องประตูสวยๆได้อีกหรือไม่ และกัปตันทีมไดนามิค สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะช่วยครีเอทจังหวะบอลให้กับทีมได้ดีเพียงใด

2 ทุ่มครึ่ง วันอาทิตย์นี้ ฟ้าจะถล่ม แผ่นดินจะสะเทือน ทุกสายตาจะจับจ้องไปยังแอนฟิลด์ กึ๋นของ คิง เคนนี่ ตำนานลิเวอร์พูลผู้ซึ่งกำลังเจียระไนเครื่องจักรสีแดงขึ้นมาใหม่ จะสามารถปล่อยของใส่ทัพอสูรกายด้วยปรัชญา Pass & Move ได้ดีเพียงใด โคตรกุนซือแห่งยุคอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คือผู้จะให้คำตอบนั้น สงครามแดงเดือดกำลังจะได้ฤกษ์เปิดศึกกันในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว ... โปรดติดตาม!