มันสมองของคิง เคนนี่
![src=http://www.siamsport.co.th/_ImagesColumn/110204D6N90553.jpg]()
เพียงไม่ทันไร ลิเวอร์พรุน ในยุคของรอย ฮ็อดจ์สันก็กลับมาเป็น ลิเวอร์พูล ดังเดิมแล้วนะครับภายใต้บารมีของเคนนี่ ดัลกลิช
ที่ต้องเรียกว่าลิเวอร์พรุนก็ด้วยจำนวนประตูที่เสียไปเป็นเข่งอย่างน่าตกใจในซีซั่นนี้นั่นแหละ
และมันกลายมาเป็นจำนวนเกมที่พ่ายแพ้ด้วยเลขสองหลักของถิ่นแอนฟิลด์เช่นกัน
แน่นอนว่าจากการลงสนาม 25 นัดและเสียไป 31 ประตูจะยังเป็นผลงานที่ไม่สู้ดีสักเท่าไหร่
กระนั้นที่น่าสนใจก็คือสามนัดหลังหงส์แดงของคิง เคนนี่ไม่เสียความบริสุทธิ์ให้ฝ่ายตรงข้ามเลยสักเม็ด
นี่แหละความแตกต่างที่ดัลกชิลแสดงให้เห็นว่าเขาเหนือกว่าตาแก่ที่ชื่อฮ็อดจ์สันไม่รู้กี่เท่า
เริ่มต้นด้วยการบุกไปทุบวูล์ฟส์ 3-0
แล้วตามด้วยการเปิดบ้านเฉือนฟูแล่มแบบหืดจับ 1-0
ก่อนจะพิชิตสโต๊คแบบเบาะๆ 2-0
อันเป็นการเรียกความมั่นใจก่อนยกพลไปเยือนเชลซีในวันอาทิตย์นี้ได้ไม่น้อย
ทั้งนี้เพราะจุดอ่อนหรือปัญหาของลิเวอร์พูลมในซีซั่นนี้ที่ฮ็อดจ์สันแก้ไม่ตกคือความหละหลวมของแนวรับ
ไม่ว่าทีมไหน หากเสียประตูง่ายแล้วไซร้ก็ย่อมปราชัยได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ดี เกมคว่ำเจ้าสัวหงส์แดงเกือบตายคารังด้วยซ้ำหากไม่ได้นายทวารโฆเซ่ เรน่าที่กระโดดเป็นลิงค่างในช่วงท้ายช่วยเอาไว้
อันบ่งชี้ได้ว่าแผงหลังหงส์แดงยังไม่แน่นเท่าไหร่
อย่ากระนั้นเลย เกมล่าสุดกับช่างปั้นหม้อ ดัลกลิชจึงทำเซอร์ไพรซ์ส่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟลงบู๊พร้อมกันทีเดียวถึงสามราย
อันประกอบไปด้วยมาร์ติน สเคอร์เทลกับดาเนี่ยล แอ็คเกอร์โดยมีโซติริออส คีร์เกียคอสลงไปร่วมแจมอีกราย
นัยว่าในเมื่อแนวรับของลิเวอร์พูลอ่อนลูกโด่งดีนัก ก็ควรใช้บริการยักษ์กรีซพ่วงไปด้วย
เท่านั้นแหละ สโต๊คก็ถึงกับไปไม่เป็นแม้ครึ่งแรกเร้ด แมชีนจะไม่ได้ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่
ที่สำคัญ การส่งสามเซ็นเตอร์ฮาล์ฟลงสนามยังช่วยลบจุดบอดของสองฟูลแบ็คได้อีกต่างหาก
ในเมื่อเกล็น จอห์นสันเสริมเกมรุกดีแต่เล่นเกมรับแย่ การมีสามกองหลังตัวกลางจึงเปิดทางสะดวกให้เจจีได้โชว์ลูกเก่งอย่างเต็มที่แม้จะโดนโยกมาเป็นแบ็คซ้ายอย่างถาวรไปแล้ว
เช่นเดียวกับมาร์ติน เคลลี่แบ็คขวาดาวรุ่งซึ่งเติมเกมไปโยนบอลจากริมเส้นได้เยี่ยมไม่แพ้ปีกระดับแนวหน้า
เท่ากับว่าเจมี่ คาร์ราเกอร์ที่หายเจ็บแล้วคงยากที่จะสอดแทรกกลับไปแย่งตำแหน่งตัวจริงกลับคืนมา
ว่ากันตามจริง ปกติลิเวอร์พูลครองบอลไม่เป็นรองทีมไหนอยู่แล้ว แต่ที่มีผลงานแย่ก็เพราะแนวรับรั่วนั่นแหละ
ทีนี้พอเกมรับแน่นถูกเจาะยากก็หมดห่วงไปได้เยอะ แถมเกมรุกทางริมเส้นยังอันตรายขึ้นมาซะด้วยจากการขึ้นเกมของทั้งจอห์นสัน และเคลลี่
ตามหน้าเสื่อในเกมบิ๊กแม็ตช์วันอาทิตย์นี้เชลซีย่อมดูดีกว่าเป็นธรรมดา
แต่แน่นอนว่าลิเวอร์พูลไม่มีอะไรจะเสีย แพ้ก็เสมอตัว แต่ถ้าชนะขึ้นมาก็คุยฟุ้งได้ข้ามปี
และอย่าคิดว่าจะเป็นไปไม่ได้ในเมื่อเร้ด แมชีนเคยลบคำสบประมาทดับซ่าส์สิงห์บลูส์ที่แอนฟิลด์มาแล้ว
สรุปคือหงส์แดงแพ้ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ได้ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร
โดยมีข้อแม้ว่าอย่าแพ้ด้วยการถูกเฟร์นานโด ตอร์เรสสอยตาข่ายก็แล้วกัน
ธีระ
กระทู้เด็ดน่าแชร์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
