เฟร์นันโด ตอร์เรส ซานซ์
ข้อมูลส่วนตัว | ||
---|---|---|
ชื่อเต็ม | เฟร์นันโด โคเซ ตอร์เรส ซานซ์ | |
วันเกิด | 20 มีนาคม ค.ศ. 1984 (อายุ 26 ปี) | |
สถานที่เกิด | ฟูเอนลาบราดา ประเทศสเปน | |
ส่วนสูง | 1.86 ม. (6 ฟุต 1 นิ้ว) | |
ตำแหน่ง | กองหน้า | |
ข้อมูลสโมสร | ||
สโมสรปัจจุบัน | ลิเวอร์พูล | |
หมายเลข | 9 | |
สโมสรเยาวชน | ||
1995–2001 | อัตเลตีโกมาดริด | |
สโมสรอาชีพ* | ||
ปี | สโมสร | ลงเล่น (ประตู) |
2001-2007 2007- | อัตเลตีโกมาดริด ลิเวอร์พูล | 214 (82) 0101 (65) |
ทีมชาติ** | ||
2000 2001 2001 2001 2002 2002-2003 2003- | สเปนชุดยู 15 สเปนชุดยู 16 สเปนชุดยู 17 สเปนชุดยู 18 สเปนชุดยู 19 สเปนชุดยู 21 สเปน | 001 0(0) 009 (11) 004 0(1) 001 0(1) 005 0(6) 010 0(3) 077 (24) |
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้ทีมสโมสร |
เฟร์นันโด โคเซ ตอร์เรส ซานซ์ (สเปน: Fernando José Torres Sanz) (เกิดวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2527) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปนเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ตอร์เรสเกิดที่เมืองฟูเอนลาบราดา (Fuenlabrada) เมืองชนบทขนาดย่อมทางใต้ของกรุงมาดริด เดิมตอร์เรสเป็นเด็กฝึกหัดของสโมสรฟุตบอลอัตเลตีโกมาดริดในประเทศสเปน และก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ รวมถึงการที่ได้รับเลือกให้เป็นกัปตันของทีม โดยในขณะนั้นตอร์เรสมีอายุเพียง 19 ปี ตอร์เรสได้รับฉายาจากสื่อในสเปนว่า เอลนีโญ (เด็ก) เพราะหน้าตาของตอร์เรสดูอ่อนวัยกว่าอายุเป็นอย่างยิ่ง
ตอร์เรสเป็นศูนย์หน้าที่มีพรสวรรค์ในการเล่นเป็นอย่างมาก เขาสามารถยิงประตู 75 ประตูใน 5 ฤดูกาล ในลีกสูงสุดของสเปน โดยมีเพียง ซามูเอล เอโต และ ดาบิด บียา ที่ยิงได้มากกว่าในระยะเวลาเดียวกัน
[แก้] ผลงานในระดับสโมสร
[แก้] อัตเลตีโกมาดริด
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียไทยได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ |
[แก้] ลิเวอร์พูล
[แก้] ฤดูกาล 2007-2008 (ฤดูกาลแรก)
ค่าตัวในการเซ็นสัญญาของเฟร์นันโด ตอร์เรส ได้รับการบันทึกไว้เป็นสถิติสูงสุดของลิเวอร์พูล แม้ว่าสื่ออังกฤษรายงานว่า ค่าตัวนักเตะอยู่ที่ประมาณ 26.5 ล้านปอนด์ ราฟาเอล เบนีเตซยืนยันในการสัมภาษณ์กับสื่อสเปนว่า ค่าตัวอยู่ที่เกือบ 20 ล้านปอนด์ ยังมีรายงานอีกว่า ตอร์เรสยอมลดค่าเหนื่อยสำหรับการย้ายตัว หนังสือพิมพ์ The Times รายงานว่า ค่าตัวลดจาก 103,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ในสเปน เหลือ 90,000 ปอนด์[1]
ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ตอร์เรสลงแข่งนัดเปิดตัวให้ลิเวอร์พูล โดยแข่งกับแอสตันวิลลา และชนะไปด้วยสกอร์ 2-1 หลังจากนั้นตอร์เรสยิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ในการลงแข่งครั้งแรกในสนามแอนฟีลด์ ในวันที่ 19 สิงหาคม ในนาทีที่ 16 ผลเสมอ 1-1 กับเชลซี โดยวิ่งไปรับบอลจากการส่งของสตีเฟน เจอร์ราร์ด ตอร์เรสเลี้ยงผ่านกองหลังเชลซี ทาล เบน ฮาอิม และยิงผ่านมือผู้รักษาประตูปีเตอร์ เช็คเข้าไปตุงตาข่ายเชลซี
ตอร์เรสยิงแฮตทริกเป็นครั้งแรกให้สโมสร ในวันที่ 25 กันยายน ในนัดเยือน ถ้วยคาร์ลิงคัพกับเรดดิง และชนะไป 4-2[2] โดยประตูแรกของตอร์เรสในเกมคือประตูที่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 2-1 ลูกที่สองของเขาทำให้ลิเวอร์พูลนำ 3-2 และตามด้วยลูกปิดท้าย 4-2 หลังจากจบการแข่งขัน ตอร์เรสได้รับการคิดเลือกเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน และเนื่องจากตอร์เรสสามารถทำแฮตทริกได้สำเร็จ เขาจึงได้รับลูกบอลที่ใช้ในการแข่งขันเป็นของที่ระลึก
ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ตอร์เรสสามารถทำแฮตทริกแรกในลีกได้สำเร็จในเกมที่ลิเวอร์พูลเปิดบ้านเอาชนะทีมมิดเดิลส์เบรอ 3-2 และในวันที่ 5 มีนาคม ปีเดียวกัน ตอร์เรสสามารถทำแฮตทริกได้อีกครั้งในเกมที่ลิเวอร์พูลเอาชนะทีมเวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-0 ทำให้เฟร์นันโด ตอร์เรสได้รับการบันทึกไว้เป็นสถิติว่า เป็นผู้เล่นคนแรกต่อจากแจ็กกี บัลเมอร์ ที่เคยทำแฮตทริกในเกมที่แอนฟีลด์ติดต่อกัน 2 นัด ในปี 1946 และยังเป็นนักเตะคนที่ 5 ของสโมสรที่สามารถทำได้ ตอร์เรสได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งเดือนกุมภาพันธ์ของพรีเมียร์ชิพอังกฤษ โดยนอกจากนี้เขายังเป็นนักเตะนอกสหราชอาณาจักรคนแรกที่ยิงได้ 15 ประตูในพรีเมียร์ลีกให้ลิเวอร์พูล
ในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2551 เฟร์นันโด ตอร์เรสกลายเป็นผู้เล่นคนแรกของสโมสร ต่อจากร็อบบี ฟาวเลอร์ ที่สามารถทำประตูในลีกได้เกินถึง 20 ประตูใน 1 ฤดูกาล เมื่อเขาทำประตูในนาทีที่ 47 ในเกมที่ลิเวอร์พูลสามารถเอาชนะทีมเรดดิง 2-1 และหลังจากนั้น ตอร์เรสก็สามารถยิงประตูช่วยให้ทีมเอาชนะอินเตอร์มิลานในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 สุดท้าย
วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2551 เฟร์นันโด ตอร์เรสสามารถทำประตูที่ 30 ของตัวเองให้กับลิเวอร์พูลได้ในฤดูกาลแรกที่ย้ายมา โดยประตูดังกล่าวเกิดขึ้นในเกมที่ลิเวอร์พูลเปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะทีมแบล็กเบิร์นโรเวอร์ส 3-1 ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิพของอังกฤษ และด้วยประตูนี้เอง ทำให้เฟร์นันโด ตอร์เรสสามารถทำสถิติ ยิงประตูติดต่อกัน 7 นัด ในสนามแอนฟีลด์
และในวันสุดท้ายของฤดูกาล ณ สนามของทีมสเปอร์สในวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ตอร์เรสได้ทำประตูสุดท้ายของฤดูกาลนี้เป็นประตูที่ 33 ที่ทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูเกิน 30 ประตูในหนึ่งฤดูกาล โดยก่อนหน้านั้น มีเพียงร็อบบี ฟาวเลอร์ทำได้ 30 ประตู ในปี 2539-2540 โดยเฉพาะวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ณ สนามแอนฟีลด์ ลิเวอร์พูลเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี ทีมชนะไป 1-0 โดยตอร์เรสเป็นผู้ยิงประตูตัดสินชัยชนะ ทำให้เขาสามารถทำประตูติดต่อกันเป็นนัดที่ 8 ในถิ่นแอนฟีลด์ ส่งผลให้เขาเป็นนักเตะคนแรกของทีมที่ทำประตูในเกมลีกสูงต่อหน้าแฟนบอลในแอนฟีลด์ได้ 8 นัดติดต่อกัน โดยมีโรเจอร์ ฮันต์ที่ทำได้อีกคนแต่ทำได้ในลีกดิวิชัน 2 เดิมในช่วงทศวรรษที่ 60 ฤดูกาล 1961-1962
33 ประตู จาก 46 นัดในทุกรายการ เฉพาะเกมลีกเขาทำไป 24 ประตู จาก 33 นัดที่ลงแข่ง และทั้ง 24 ประตูไม่มีลูกจากจุดโทษเลย ทำให้ เฟร์นันโด ตอร์เรส ทำสถิติเป็นนักเตะต่างชาติที่ทำประตูสูงสุดเพียงปีแรกที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกคนใหม่ และทำให้เขามีสถิติยิงปรตูเฉลี่ยทุก ๆ 1.39 เกม ทำลายสถิติผู้เล่นที่ทำประตูเฉลี่ยสูงสุดให้ลิเวอร์พูลในฤดูกาลแรกของจอห์น อัลดิดจ์ (1.55 เกม) ได้อย่างสิ้นเชิง และยังเอาชนะนักเตะอย่างเอียน รัช (1.63), โรเจอร์ ฮันต์ (1.65), ร็อบบี ฟาวเลอร์ (1.83), ไมเคิล โอเวน (1.91) และเคนนี ดัลกลิช (2) ได้อีกด้วย และทุกนัดที่เขาสามารถทำประตูได้ในเกมลีกทีมจะไม่แพ้อีกด้วย และ 25 ประตู ใน 33 ประตูที่เขาทำได้ในฤดูกาลนี้เกิดขึ้นในสนามแอนฟีลด์
[แก้] ผลงานในระดับชาติ
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2544 ตอร์เรสชนะเลิศทัวร์นาเมนต์อัลการ์ฟกับทีมชาติสเปนชุดอายุไม่เกิน 16 ปี ในเดือนพฤษภาคม ที่มีได้ลงแข่ง ในฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี และชนะเลิศ โดยตอร์เรสยิงประตูชัยซึ่งเป็นประตูเดียวในนัดชิงชนะเลิศ[3] ตอร์เรสยิงประตูได้มากที่สุดในการแข่งขัน (7 ประตูใน 6 เกม) และได้รับเลือกให้เป็นนักกีฬายอดเยี่ยม
ในปี พ.ศ. 2546 ตอร์เรสได้ลงเล่นเป็นครั้งแรกให้กับทีมชาติสเปนในวันที่ 6 กันยายน ในการแข่งกระชับมิตรกับโปรตุเกส ตอร์เรสยิงประตูแรกให้ทีมชาติได้ในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2547 โดยแข่งกับอิตาลี เมื่อปิดฤดูกาล ตอร์เรสได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสเปน เพื่อแข่งในฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปปี 2547 ตอร์เรสได้ลงสนาม โดยการเปลี่ยนตัว ใน 2 เกมแรกในรอบแบ่งกลุ่มของสเปน แต่ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในการแข่งนัดชี้ชะตากับโปรตุเกส ตอร์เรสยิงชนเสาในนาทีที่ 62 หลังจากนูโน โกเมสยิงให้โปรตุเกสนำ ในนาทีที่ 57 สเปนแพ้ไป 1-0 และตกรอบ
ในการลงแข่งครั้งแรกในฟุตบอลโลกในปี พ.ศ. 2549 ในประเทศเยอรมนี ตอร์เรสยิงประตูสุดท้าย ในเกมที่ชนะยูเครน 4-0 ด้วยลูกวอลเลย์ ในนัดที่สองรอบแบ่งกลุ่ม ตอร์เรสยิง 2 ประตูในนัดเจอตูนิเซีย ประตูแรกในนาทีที่ 76 ทำให้สเปนนำ 2-1 และอีกลูกจากจุดโทษ ในนาทีที่ 90 ตอร์เรสไม่ได้ลงในนัดกระชับมิตรกับโรมาเนีย ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2549 แต่ได้ลงเล่นในนัดกระชับมิตรกับอังกฤษ ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 โดยสเปนชนะไป 1-0
ในฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป ปี 2551รอบคัดเลือก ตอร์เรสยิงประตูแรกในนัดเจอกับลิกเตนสไตน์ ซึ่งสเปนชนะไป 4-0 ตอร์เรสยิงลูกเสียบมุมประตู จากระยะ 11 เมตร ตอร์เรสได้ลงเล่นในนัดเจอกับไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งสเปนแพ้ 3-2 สเปนได้แข่งกับสวีเดน และแพ้ไป 2-0 ในนัดนี้ ในนัดเจอเดนมาร์ก ตอร์เรสได้เปลี่ยนตัวลงมาเล่นในนาทีที่ 64 แต่ไม่สามารถยิงประตูได้ แต่สเปนก็ชนะไป 2-1 ตอร์เรสเป็นตัวสำรองอีกครั้ง แต่ได้เปลี่ยนตัวลงมาในนาทีที่ 43 แทนเฟร์นันโด โมเรียนเตส ตอร์เรสยิง 2 ครั้ง แต่ไม่ตรงกรอบทั้งสองครั้ง แต่สเปนยังชนะ 1-0 จากประตูของอีเนียสตาในนาทีที่ 80 ตอร์เรสไม่ได้ถูกเลือกในนัดที่สเปนชนะลัตเวีย 2-0 และนัดเจอลิกเตนสไตน์ 2-0 ตอร์เรสได้ลงเล่นในนัดเสมอ 1-1 กับไอซ์แลนด์ ชาบี อาลอนโซเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล โดนใบแดงไล่ออก ในนัดเจอลัตเวีย ตอร์เรสยิงได้ 1 ประตู สเปนได้เป็นที่ 1 ของกลุ่ม และตอร์เรสยิงให้สเปนได้ 2 ประตู
[แก้] ชีวิตส่วนตัว
ตอร์เรสสนิทกับเพื่อนร่วมทีมชาติสเปน เซร์คีโอ ราโมส ตอร์เรสคบหาอย่างเงียบ ๆ กับแฟนสาวโอลายา โดมิงเกซ ลิสเต (Olalla Domínguez Liste) ซึ่งเขารู้จักตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 โดยครอบครัวของตอร์เรสย้ายไปอยู่บ้านในถนนเดียวกับแฟนสาวในแคว้นกาลิเซีย[4] ตอร์เรสแต่งงานกับโอลายา ไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2552
ตอร์เรสแสดงมิวสิกวิดีโอ Ya Nada Volvera a Ser Como Antes ของเอลกันโตเดลโลโก วงดนตรีป็อปร็อกของสเปน
เขารับบทนักแสดงสมทบใน Torrente 3 ซึ่งเป็นหนังตลกสเปน ในปี 2548 เขาแสดงเป็นตัวเองและหลบหลีกอันตราย โดยเตะลูกระเบิดมือ เหมือนกับเป็นลูกฟุตบอล
เขาสักชื่อ Fernando ที่ด้านในแขนซ้าย ด้วยอักษรเทงกวาร์ สักหมายเลข 9 ที่ด้านในแขนขวา และสักวันที่ 7-7-2001 เป็นตัวเลขโรมัน ที่ด้านในน่องขวา[5]
[แก้] เกียรติประวัติ
อัตเลตีโกมาดริด
- แชมป์
- สเปน ดิวิชัน 2: พ.ศ. 2544-45
- ไนกี้คัพ ยุโรป ปี 2541 (บอลเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี)
สเปน
- แชมป์
- ทัวร์นาเมนต์อัลการ์ฟ ปี 2544 รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี
- ฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ปี 2544
- ฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ปี 2545
- ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป พ.ศ. 2551 เป็นผู้ยิงประตู ชนะ เยอรมนี 1-0
- ฟุตบอลโลก 2010
เกียรติประวัติส่วนตัว
- แชมป์
- ผู้เล่นยุโรปยอดเยี่ยม รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ปี 2541
- ผู้เล่นยอดเยี่ยม, ยิงประตูสูงสุด (7 ลูก ใน 6 เกม) ฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ปี 2544
- ผู้เล่นยอดเยี่ยม, ยิงประตูสูงสุด (4 ลูก ใน 4 เกม) ฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ปี 2545
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์ ฤดูกาล 2007-2008 พรีเมียร์ชิพอังกฤษ
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายน ฤดูกาล 2009-2010 พรีเมียร์ชิพอังกฤษ