บิ๊กแมตช์ หงส์ขาดไดนาโมบู๊กุหลาบฟอร์มร้อนแรง

"บิ๊กแมตช์" หงส์ขาดไดนาโมบู๊กุหลาบฟอร์มร้อนแรง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 ตุลาคม 2548 15:08 น.

หลังจากที่ต้นสังกัดปล่อยให้เหล่าบรรดาดาวเตะแข้งทองทั้งหลายกลับไปรับใช้ทีมชาติในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในโซนต่างๆ จนหนำใจแล้ว ในที่สุดการแข่งขันฟุตบอลลีกก็กลับสู่สภาวปกติอีกครั้ง โดยเฉพาะในศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ สัปดาห์นี้ทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับที่ 13 ของตาราง มีคิวเปิดบ้านวัดแข้งกับ กุหลาบไฟ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ที่สนามแอนฟิลด์ ในเวลา 21.00 น. ของวันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม 2548

มาดูฟอร์มการเล่นของทีมเจ้าถิ่นในเกมลีก 5 นัดล่าสุด ชนะ 1 นัด แพ้ 1 นัด และ เสมออีกถึง 3 นัด เก็บได้เพียง 6 คะแนน จากทั้งหมด 15 คะแนนเต็ม ถือว่าฟอร์มในลีกยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะในเกมล่าสุดเปิดแอนฟิลด์ให้จ่าฝูง เชลซี บุกมายำสนุกเท้า 1-4 เล่นเอา ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสเปนถึงกับอึ้งรับประทานไปนาน

ขณะที่ทีมเยือนเองก็อยู่ในฟอร์มผีเข้าและพร้อมจะออกได้ตลอดเวลา เมื่อผลงานในลีก 5 นัดหลังสุด เก็บชัยชนะไป 2 นัด แพ้ 2 นัด และ เสมออีก 1 นัด คว้ามาได้ 7 คะแนน จากทั้งหมด 15 คะแนนเต็ม แม้จะยังไม่สม่ำเสมอเท่าไหร่นัก แต่ก็ถือว่าลูกทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือหนุ่มเริ่มเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้แล้ว หลังโชว์ฟอร์มช่วงออกสตาร์ทด้วยการออกทะเลไปไกล เมื่อ 2 นัดล่าสุดสามารถเก็บชัยชนะจากทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เวสต์ บรอมวิช

ในส่วนของสภาพความพร้อมนั้นทีมหงส์แดงพบข่าวร้ายเข้าเต็มๆ เมื่อ กัปตันไดนาโม สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะไม่สามารถลงมาขับเคลื่อนเกมในนัดนี้ได้เนื่องจากต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บที่ได้รับจากการรับใช้ชาติ แต่อย่างน้อยแฟนทีมเร้ด แมชชีน ก็ยังมีรอยยิ้มกันได้บ้าง เมื่อ เฟร์นานโด มอริเอนเตซ กับ แฮร์รี่ คีเวลล์ ฟิตสมบูรณ์พร้อมลงเล่นในเกมนี้ได้อีกครั้ง

ด้านทีมเยือนกุหลาบไฟนั้นเชื่อว่าคงใช้นักเตะในชุดเดิมที่เก็บชัยชนะในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด มาได้ เนื่องจากไม่มีรายชื่อผู้เล่นตัวหลักได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะดาวเด่นอย่าง มอร์เทน แกรมส์ท พีเดอร์เซ่น กองกลางดาวรุ่ง และ เคร็ก เบลลามี่ หัวหอกตัวแสบ ต่างก็พร้อมสำหรับเกมนี้แน่นอน นอกจากนี้เกมนี้ยังเป็นการกลับมาเยือนรังเก่าของลูกหม้อเก่าค่ายแอนฟิลด์อย่าง แบรด ฟรีเดล, เดวิด ธอมป์สัน และ โดมินิค มัตเตโอ อีกด้วย

สำหรับการเจอกันของสองทีมนี้ในฤดูกาลที่แล้วทีสนามแอนฟิลด์เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2548 ปรากฎว่าทั้งคู่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสกอร์ได้ลงท้ายที่ผลเสมอ 0-0

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม
ฟุตบอลลีก : ลิเวอร์พูล ชนะ 46 ครั้ง, แบล็คเบิร์น ชนะ 33 ครั้ง และ เสมอกัน 35 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ชิพ : ลิเวอร์พูล ชนะ 9 ครั้ง, แบล็คเบิร์น ชนะ 5 ครั้ง และ เสมอกัน 8 ครั้ง

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมที่สนามแอนฟิลด์
ฟุตบอลลีก : ลิเวอร์พูล ชนะ 33 ครั้ง, แบล็คเบิร์น ชนะ 9 ครั้ง และ เสมอกัน 15 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ชิพ : ลิเวอร์พูล ชนะ 6 ครั้ง, แบล็คเบิร์น ชนะ 1 ครั้ง และ เสมอกัน 4 ครั้ง

รูปเกมในวันเสาร์นี้คาดว่าลูกทีมของกุนซือชาวสเปนน่าจะเปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือนเนื่องจากต้องการเรียกศรัทธาของแฟนบอลในแอนฟิลด์กลับมาอีกครั้ง หลังเปิดบ้านแพ้เชลซีไปแบบสุดแสนเสียความรู้สึกของชาวหงส์แดงในนัดก่อน คาดว่าเกมนี้ ราฟา อาจจะเปลี่ยนใจกลับมาใช้กองหน้า 2 อีกครั้ง ในระบบ 4-4-2 เพื่อประสิทธิภาพในเกมรุกที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนคู่กองหน้าจะเป็นใครนั้นเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาการตัดสินใจของกุนซือชาวสเปนได้ ส่วนกองกลางน่าจะเป็น ดีทมาร์ ฮามันน์ ยืนคู่กับ ซาบี้ อลอนโซ่ ในแผงกลางเพื่อขับเคลื่อนเกมรุกและรับ ขณะที่มิดฟิลด์ริมเส้นสองข้างน่าจะเป็นโอกาสของ เบาเดอไวน์ เซนเด้น กับ หลุยส์ การ์เซีย ในแผงหลังก็คงและตำแหน่งผู้รักษาประตูก็คงเป็นชุดเดิมที่เคยเล่นกับเชลซีในเกมลีก

ด้านทีมเยือนแม้จะเก็บชัยชนะ 2 นัดติดกันมาได้ แต่เกมนี้เชื่อว่า มาร์ค ฮิวจ์ส คงไม่ประมาทบุกแลกกับทีมเจ้าถิ่นเป็นแน่ เนื่องจากมีหัวหอกความเร็วสูงอย่าง เคร็ก เบลลามี่ เป็นตัวป่วนแดนหลังทีมเจ้าถิ่นอยู่แล้ว รวมถึงการผ่านบอลของ มอร์เทน แกรมส์ท พีเดอร์เซ่น ก็ถือว่าได้ลุ้นกว่าการจะบุกแลกหมัดเป็นไหนๆ เกมนี้จะเป็นเกมที่เหมาะสำหรับพลพรรครักกุหลาบจากมาตั้งรับแล้วรอสวนกลับ เนื่องจากเห็นแล้วว่าแผงหลังทีมหงส์แดงเป็นประเภทแพ้ความเร็ว และความคล่องตัว จึงเป็นโอกาสดีที่ลูกน้องของกุนซือเด็กผีจะบุกแต้มนอกบ้านในเกมนี้ได้ ส่วนใครจะได้ 1 หรือ 3 แต้ม สำหรับเกมนี้คงต้องขึ้นอยู่กับความคม ว่าใครจะมีมากกว่ากัน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-4-2) : โฮเซ่ มานูเอล เรน่า, สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, ฌิมี่ ตราโอเร่, หลุยส์ การ์เซีย, ดีทมาร์ ฮามันน์, ซาบี อลอนโซ่, เบาเดอไวน์ เซนเด้น, ปีเตอร์ เคร้าช์ และ ฌิบริล ซิสเซ่

แบล็คเบิร์น (4-4-2) : แบรด ฟรีเดล, ลูคัส นีลล์, ซูรับ คิซานิชวิลี่, ไรอัน เนลเซ่น, ไมเคิล เกรย์, เบร็ตต์ เอเมร์ตัน, ร็อบบี้ ซาเวจ, เดวิด เบนท์ลี่ย์, มาร์เทน แกรมส์ท พีเดอร์เซ่น, เคร็ก เบลลามี่ และ พอล ดิ๊กคอฟ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์