ดูเหมือนว่าเมื่อค่ำวันเสาร์นั้นทีมโพรดักชั่นถ่ายทอดสดสกาย สปอร์ต พยายามจับภาพอันน่ารันทดใจของบอร์ดบริหาร “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลทั้ง 3
ซ้ายสุด มาร์ติน บรอตัน ประธานเฉพาะกิจ, คริสเตียน เพอร์สโลว์ ผู้อำนวยการสโมสรและ เคนนี ดัลกลิช กล้องพยายามโคลสอัพให้เห็นรอยย่นบนใบหน้าของ คิง เคนนี “ไอดอล” ของเดอะ คอปตลอดกาล ผู้บรรยายฝรั่งพูดออกมาให้ได้ยินจากแอนฟิลด์ว่า
ปัญหามันอยู่ตรงไหนกันแน่ระหว่างข้างบนอัฒจันทน์หรือว่าในสนาม
สำหรับผมเลือกจินตนาการว่า “กล้อง” สื่อให้เห็นว่าบอร์ดเฉพาะกิจทั้งสามเมื่อบวกกับสองตัวเอ้ย สองคน ทอม ฮิคส์ และ จอร์ช จิลเลตต์ จูเนียร์ เป็น5 คือพวกที่บีบให้ ราฟา เบนิเตซ ออกจากตำแหน่งแล้วเลือก รอย ฮอดจ์สัน มาแทน หรืออีกนัยหนึ่ง
จินตนาการได้ว่า เคนนี ดัลกลิช คือกุนซือคนล่าสุด 20 ปีที่แล้ว ที่พาลิเวอร์พูละครองแชมป์ลีกสูงสุดก่อนหน้าบางตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งทิ้งไปซะดื้อๆ เขากลับมาทีมอีกครั้งในฐานะผู้บริหาร เขาจะเข้ามากอบกู้วิกฤตศรัทธาได้หรือไม่
อย่างไรก็ตามผลเสมอ 2-2 นำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์อย่างถึงพริกถึงขิงด้วยเพราะ รอย ฮอดจ์สัน ถูกมองว่าไม่มีกึ๊นมากพอในการคุมทีมและไม่น่าจะเป็นคนที่ “ใช่” ทำอะไรก็ถูก
ด้วยเพราะรูปทรงการเล่นบอลของหงส์แดงทั้งรุกและรับหาได้เป็นทีมที่พร้อมสำหรับการไล่ล่าเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง แถมประตูแรกที่ได้ก็มาจากไหวพริบของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ผู้ตัดสินก็งงๆอยู่ว่า ตกลงยังไงกับกติกา ซึ่งโดยตัวบทกฏหมายของการเล่นฟุตบอลมันก็คงไม่ผิดกับจังหวะฟรีคิกแบบนั้น
พร้อมแล้วก็เล่นได้เลย...หลายคนบอกว่าบางทีหากไม่ได้ประตูนั้นลูกแฮนด์บอลของ คริสเตียน โพลเซน อาจเป็นจุดโทษได้ยาก อะไรก็ไม่น่าเกลียดเท่ากับเกมรับอันสุดจะหละหลวมทั้งกระบวนอีกแล้วครับท่าน บอลเปิดด้านข้างโดนโหม่งตุงตาข่าย
ยืนกันเต็มไปหมดทั้ง ตัวประกบ จอห์นสัน ที่เพลินกับบอลไม่ดู เบนต์ ขณะที่ คาร์ราเกอร์ คงคิดว่า สเคอร์ เทิลเป็นนักเตะซันเดอร์แลนด์จึงไปยืนซะใกล้ อะไรก็ไม่น่าขำขันเท่ากับแย่งกันโหม่งจนหางคิ้ว คาร์ราเกอร์ แตก หัว สเคอร์เทิลก็แตก
แฟนบอลฮาร์ดคอร์บอกว่าเอาเลือด “เสีย” ออกซะบ้างเผื่อจะได้ดีขึ้น
ก็ว่ากันไปครับ
อย่างไรก็ตามการได้หนึ่งแต้มในเกมที่ไม่ได้เป็นสัปประรด แตงโม ของลิเวอร์พูลย่อมถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกว่าแพ้นะครับ ยังได้เห็นกลยุทธ์ 4-4-2 หลังเสียประตู 2-1 เห็นความตั้งใจของนักเตะที่มีมากขึ้นเหมือนนัดเล่นกับแมนฯยูฯ แถมมีจังหวะเผด็จศึกเพื่อชนะอีกต่างหาก
6 นัด 6 แต้มอยู่อันดับที่ 16 คือสิ่งที่แฟนลิเวอร์พูลรู้สึกอับอาย...และรับไม่ได้กับงานของ รอย ฮอดจ์สัน เท่าที่ผมสำรวจความคิดเห็นทางเฟซบุกของผมเองและเมล์ รวมทั้งข้อความสั้นผ่านทางทีวี ดูเหมือนว่านายใหม่ของหงส์แดง โดนโทษประหารเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามผมก็ยังยืนยันตั้งแต่จบเกมแรกที่เสมออาร์เซนอลว่า คงต้องให้เวลาในการทำงานกับโค้ชใหม่ แนวคิดใหม่ นักเตะก็มีมาใหม่ด้วย ทุกคนต้องปรับตัวกันหมด ซ้อมก็ไม่ได้ซ้อมเยอะเพราะนักเตะเล่นทีมชาติในบอลโลกตั้ง 12 คน กว่าจะรวมตัวติดก็นัดแรกพบอาร์เซนอลแล้ว
ดังนั้น 5 นัดที่ผ่านมาจึงเหมือนเป็นการซ้อมในการแข่งจริงซะงั้น
ยังให้โอกาสครับ ผมไม่นำ รอย ฮอดจ์สัน มาขึ้นศาลเพื่อพิพากษาหาบทลงโทษ อย่างน้อยขอประเมินผลงานจนจบซีซั่นว่าเขามาเปลี่ยนอะไรให้มันดีขึ้นหรือแย่ลงกว่าเดิม
แต่ละสัปดาห์ก็จะประเมินไปเรื่อยๆว่าเขามีแนวคิดอะไรมานำเสนอให้บอลลิเวอร์พูลมันดูดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
ถ้าผิดหวังอะไรกับฟอร์มของทีมให้เหลือไปมองดู อาร์เซนอล, เชลซี, สเปอร์ส กระทั่งแมนฯยูไนเต็ดที่พลาดท่าเสมอโบลตัน ในเกมที่แมนฯยูฯ เล่นได้พื้นๆธรรมดาเช่นเดียวกันกับ อาร์เซนอล ถึงขั้นเหลวแหลกจน อาร์แซน เวนเกอร์ บ่นว่าลูกทีมเล่นบอลเหมือนเป็นวันหยุดพักผ่อน
คงช่วยให้รู้สึกดีขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย
ผมยังมองในแง่บวกและให้โอกาส รอย ฮอดจ์สัน เต็มที่ เพราะในโลกนี้มีผู้จัดการทีมไม่กี่คนหรอกครับที่เข้ามาแล้วทำให้เกิด IMPACT หรือเปรี้ยงปร้างทันทีทันใด
รอย อาจเป็นคนที่ต้องการเวลาทำงาน...ซึ่งตรงนี้ก็จัดให้เต็มที่ เอาไปหนึ่งซีซั่นครับ จึงจะเห็นภาพที่ชัดเหมือน โซนี บราเวีย ยังไงยังงั้น.....
JACKIE
ปล. ครั้งล่าสุดที่ แมนฯยูฯ, เชลซี, อาร์เซนอล แพ้ในสัปดาห์เดียวกันเกิดขึ้นเมื่อ 18-19 มี.ค. ปี 1995 ยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, เกลน ฮอดเดิ้ล คุมเชลซีและ สจวร์ต ฮุสตัน คุมอาร์เซนอลชั่วคราว เที่ยวนี้ผิดไปนิดหนึ่งตรงที่ “ปีศาจแดง” ไม่ได้แพ้ด้วยนะสิครับ 5555
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว