หงส์ใจเด็ด!4 นาทีสองลูกแซงเข้าป้าย 2-1

หงส์แดงลิเวอร์พูลพลิกสถานการณ์จากนรกในแดนตุรกีกลับมาแซงเฮคว้าชัยเหลือเชื่อหลังดาวิด เอ็นก็อกและเดิร์ก เคาท์เผด็จศึกนาที 84และ 88 ชนะ 2-1 เข้ารอบแบ่งกลุ่มยูโรป้า ลีกสมใจเดอะค็อป

ยูโรป้า ลีกรอบเพลย์ออฟเลกสอง

วันพฤหัสที่ 26 สิงหาคม 2553


แทรปซอนสปอร์ 1-2 ลิเวอร์พูล

(รวมสองนัดลิเวอร์พูลชนะ 3-1)

ประตู : 1-0 กูเตียร์เรซ น.4,1-1 เอ็นก็อก น.84,1-2 เคาท์ น.88



รอย ฮอดจ์สันกุนซือมหาชนเอ่ยปากไว้แล้วว่ารายการยูโรป้า ลีกไม่ใช่เป้าหมายของลิเวอร์พูลเพราะเล็งทำอันดับดีๆในพรีเมียร์ลีกมากกว่านัดนี้จึงพักเฟร์นานโด ตอร์เรส,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,มิลาน โยวาโนวิช,ดาเนี่ยล แอกเกอร์ไว้ที่บ้าน

อย่างไรก็ตามที่แสบสันต์ตอกหน้าราฟาเอล เบนิเตซคือการส่งเดิร์ก เคาท์ลงตัวจริงนั่นเท่ากับว่าหากอินเตอร์ มิลานต้องการตัวไปร่วมทีมก็จะหมดสิทธิ์ส่งลงสนามในรายการแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มทันที

เกมนี้ไร้ปีกธรรมชาติเช่นเคยเมื่อออเรลิโอ้เล่นซ้าย,เคาท์ขวาโดยไรอัน บาเบิ้ลผู้ยิงประตูในเลกแรกนั่งสำรองส่วนมิดฟิลด์คู่กลางเป็นลูคัส เลว่ากับคริสเตียน โพลเซ่นโดยมีดาวิด เอ็นก็อกยืนหอกเดี่ยวและได้โจ โคลยืนห้อยคอยช่วยปั้น


ครึ่งแรก

ไก่โห่!หงส์ตาม 1-0

บรรยายรายชื่อซะดิบดีแต่เล่นมา 4 นาทีโดนบอลกันไม่ครบคนลิเวอร์พูลก็โดนเปิดซิงทันทีหลังเดิร์ก เคาท์ที่ใจเหม่อไปอยู่แถวๆซานซิโร่เสียบอลตรงกลางสนามถูกโคลมันฉกไปกินก่อนยิงแป๊กไปเข้าทางกูเตียร์เรซที่แปเผาขนโล่งๆไร้ตัวประกบเข้าไปง่ายๆ 1-0 สำหรับเจ้าถิ่น

ทีมเยือนบุกไม่ขึ้น

ทรงบอลลิเวอร์พูลยังคล้ายๆแบบเดิมเวลาออกไปเยือนคือกลางไม่สามารถทำเกมได้ส่วนปีกสองข้างก็ไม่สามารถพาทัวร์ฝ่ายตรงข้ามทำให้กองหลังไม่รู้จะทำยังไงเลยต้องสาดยาววัดวงแล้วกองหลังก็โขกเก็บไปกินง่ายๆ

เรน่างานชุก

นาที 17 ยอดทีมยูโรป้า ลีกรอดตายอีกหลังแนวรับเคลียร์เตะมุมไม่ดีและลูกยิงของคาคาร์พุ่งเป็นกระสุนเลียดเข้ามุมแต่เรน่าพุ่งเซฟสุดงาม

หงส์ดีขึ้นแต่ยังไม่เฉียบ

นาที 25 อาการของหงส์แดงดูดีขึ้นมานิดเมื่อโคลหล่อลงมาล่วงบอลและทำชิ่งกับโพล่นเซ่นก่อนโพลเซ่นขึ้นลุยมาทางซ้ายแล้วยิงไกลแต่ไม่ผ่านมือคิฟราค

อย่างไรก็ตามเกมของทีมเยือนไม่ได้ดีมากและต้องลงไปช่วยกันตั้งรับไม่ให้เสียลูกสอง

เทพลูคัสรอดตัวฮา

ก่อนหมดเวลา 4 นาทีโคลแมนกระชากขึ้นมาทางปีกซ้ายโดยมีลูคัสวิ่งไล่ควบขึ้นมาแล้วไปสะกิดขาหลังเสียหลักล้มลงกรรมการเป่านกหวีดทันทีโดยผู้เล่นทีมเยือนเตรียมลงมาตั้งรับลูกเซ็ตพีซแต่กรรมการบอกโคลแมนเจตนาตบตาพุ่งล้มจนแฟนงงแล้วก็โห่กันทั้งสนาม

ลูคัสยิงไกล

นาที 43 ลิเวอร์พูลทำชิ่งกันดีจากจังหวะที่โคลถ่ายบอลออกปีกซ้ายเป็นเคลลี่ปาดเข้าในแล้วเคาะอีก 2 จังหวะมาถึงลูคัสที่ยิงไกลบอลเลียดเข้ามือคิฟราคสบายๆ หมดครึ่งแรกหงส์แดงตามหลัง 1-0 โดยที่รูปเกมค่อนข้างเป็นรอง


ครึ่งหลัง

ก๊อกโขกจ่อๆไม่เข้า!!

เล่นมา 6 นาทีหงส์แดงโคตรน่าจะตีเสมอได้อย่างที่สุดหลังโจ โคลได้บอลตรงริมกรอบโทษฝั่งขวาแล้วบรรจงเปิดย้อยให้เอ็นก็อกวิ่งโถมมาจากด้านหลังแล้วโขกเต็มๆตรงระยะแค่ 6 หลาแต่บอลเฉี่ยวเสาออกไปสุดช็อก ไม่น่าเชื่อว่าจะพลาดแค่ประตูเซฟได้ยังเคือง

ก๊อกเริ่มป่วน(ฝั่งตรงข้าม)

จากนั้นไม่นานเอ็นก็อกทำเจ๋งเมื่อพลิกบอลหนีตัวประกบจากนั้นลากจี้เข้าหากองหลังอีกตัวแล้วยึกยักจะไปซ้ายแล้วมาขวาก่อนยิงเลียดด้วยอีขวาบอลผ่านมือผู้รักษาประตูเฉี่ยวเสาออกหลังนิดเดียว ช็อตนี้มีตัวประกบตามหอกฝรั่งเศสถึง 4 คนเลยทีเดียว

แลกกันแล้ว

เกมเปิดแลกกันแล้วเพราะลิเวอร์พูลเองก็จะเอาประตูตีเสมอส่วนเจ้าถิ่นต้องการอีกลูกแต่ลูกทีมปู่รอยจ้องเล่นงานด้วยลูกอเวย์โกล์ตาเป็นมันกันเลยทีเดียว


เจ้าถิ่นกลัวโดน

ท้ายเกมหงส์แดงกดดันหนักโดยแทรปซอนสปอร์ต้องลงไปช่วยกันรับแล้วรอสวนเพราะตอนนี้พวกเขาเสียเปรียบกฏอเวย์โกล์หากเกิดโดนยิงท้ายเกมขึ้น


ก๊อกฮีโร่ตีเจ๊า 1-1

พูดปุ๊บหงส์แดงได้ประตูสำคัญหลังเดิร์ก เคาท์แทงบอลออกปีกให้ GJ วิ่งควบมาเอาพร้อมกับกองหลังแต่ด้วยความคล่องกว่าเลยแตะบอลหักเข้าในกลายเป็นลอดดากแล้วทีนี้กระชากเดี่ยวหลุดโล่งเข้าในกรอบเขตโทษทางขวาแล้วปาดบอลให้เอ็นก็อกวิ่งคู่มากับตัวประกบแต่อยู่ด้านหน้าเลยแปยิงเข้าฮอร์ตเข้าไปที่เสาแรกระยะ 6 หลา เสมอ 1-1 แต่มันเหมือนประตูชัยกันเลยทีเดียว

เคาท์ลูกถนัดซ้ำ 2-1

พอโดนเข้าไปทีนีหงส์แดงเครื่องติดมาได้ประตูแซงขึ้นนำจากจังหวะที่บาเบิ้ลลากจี้หาตัวประกบตรงริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วไหลบอลให้ปาเชโก้ตัวสำรองอีกคนยิงโป้งแต่คิฟรัคล้มตัวปัดไปเข้าทางเคาท์ที่แปเผาขนซ้ำเข้าไป 2-1 ก่อนเป็นประตูชัยไปลุ้นจับฉลากรอบแบ่งกลุ่มวันศุกร์นี้เวลา 18.00 น.

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แทรปซอนสปอร์
: คิฟรัค,คาเล่,คอร์มาส,คาคาร์,บัลคี่,โคลมัน,กูลเซลัม,อีนาน,ยิลมาส,กูเตียร์เรซ,ยัตตาร่า

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,สตีเฟ่น เคลลี่,เจมี่ คาร์ราเกอ์,โซติริออส คีย์เกียกอส,เกล็น จอห์นสัน,ฟาบิโอ ออเรลิโอ(ปาเชโก้ น.77),ลูคัส เลว่า,คริสเตียน โพลเซ่น(สเคอร์เทล น.90),เดิร์ก เคาท์,โจ โคล,ดาวิด เอ็นก็อก(บาเบิ้ล น.86)







ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์