เราๆ ท่านๆ คงจะรู้จักภาวะอ้วนพุง หรือภาวะลงพุงกันดี… วันนี้มีข่าวดีจากอาจารย์นายแพทย์ไมเคิล เจนเซน ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่อมไร้ท่อ แห่งมาโยคลินิกเกี่ยวกับวิธีลดอ้วนพุงครับ…
ผู้หญิงมีปัญหาอ้วนพุงน้อยกว่าผู้ชาย เนื่องจากไขมันในผู้หญิงมักจะสะสมที่เอว ขาท่อนบน และขาท่อนล่าง ไขมันในผู้ชายมีแนวโน้มจะสะสมรอบๆ พุง
ไขมันรอบพุงที่เพิ่มขึ้นมากอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บหลายอย่าง เช่น โรคเบาหวาน มะเร็งบางชนิด ความดันเลือดสูง โรคหยุดหายใจเวลานอนหลับ ไขมันในเลือดสูง (ไตรกลีเซอไรด์) และโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ลดลง
วิธีวัดว่า ตัวเราอ้วนรอบพุงหรือไม่… ทำไม่ยาก ขั้นแรกให้คลำกระดูกเอวทั้ง 2 ข้างให้ได้ก่อน และวัดรอบพุงเหนือระดับนั้นเล็กน้อย
เวลาวัดให้หายใจออก…
ผู้ชายไทยไม่ควรเกิน 40 นิ้ว หรือ 100 เซนติเมตร
ผู้หญิงไทยไม่ควรเกิน 35 นิ้ว หรือ 87.5 เซนติเมตร
ต่อไปเป็นคำถาม-คำตอบที่อาจารย์ไมเคิลท่านแนะนำไว้…
ซิท-อัพส์ (sit-ups):
การซิท-อัพส์ช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงขึ้น กล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแรงมีแรงตึงสูง ทำให้ท้องไม่ป่องออกไปข้างหน้ามากเกิน และดูดีขึ้น ทว่า… การออกกำลังเฉพาะที่ไม่ช่วยให้ไขมันรอบพุงลดลง
แอลกอฮอล์:
แอลกอฮอล์ (เหล้า เบียร์ ไวน์…) มีส่วนทำให้อ้วนรอบพุงมากขึ้น เนื่องจากแอลกอฮอล์ให้กำลังงาน (แคลอรี) สูง ทำให้อยากอาหารมากขึ้น และอาจทำให้ขาดสติ… เลยกินมากเลย
ออกกำลัง:
การออกกำลังที่ดีมากในการลดน้ำหนักคือ การเดิน และออกแรงในชีวิตประจำวัน เช่น เดินขึ้นลงบันได ซักผ้า ล้างจาน ถูพื้น ฯลฯ…
ถ้ามีเครื่องนับก้าว (pedometer) แนะนำให้เดินอย่างต่ำวันละ 10,000 ก้าว (ประมาณ 6.5 กิโลเมตรในคนสูง 165 เซนติเมตร) หรือเทียบเท่าการเดินวันละ 90 นาที
การเดินเร็ววันละ 30 นาทีอาจจะไม่พอในการควบคุมน้ำหนัก หรือการลดอ้วนรอบพุงจำเป็นต้องเดินเร็วปานกลางเพิ่มให้มากกว่าวันละ 30 นาที
อาหาร:
การควบคุมอาหาร เช่น ผักครึ่งหนึ่ง อย่างอื่นครึ่งหนึ่ง ฯลฯ ร่วมกับการออกกำลัง โดยเฉพาะการเดิน และออกแรงในชีวิตประจำวัน เช่น ซักผ้า ถูพื้น ล้างรถ เดินขึ้นลงบันได ฯลฯ มีส่วนช่วยลดภาวะอ้วนรอบพุงได้
สรุปคือ ถ้าต้องการลดอ้วนรอบพุงก็ต้องลดน้ำหนัก และออกกำลัง เบาๆ + บ่อยๆ เช่น เดินให้ได้วันละ 60 นาทีขึ้นไป ทำงานบ้าน เดินขึ้นลงบันได ฯลฯ… อาจารย์ไมเคิลท่านแนะนำไว้อย่างนั้น
http://gotoknow.org/blog/health2you/75989