หงส์แอบเหนื่อยกด3-1ชิงปอมปีย์


"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลตื่นแฟนบอลเต็มสนาม

หลังเล่นไม่ค่อยไหลลื่นเหมือนนัดก่อนๆแต่ก็ยังอาศัยความเหนือชั้นเอาชนะไปแบบเน้นๆ 3-1 โดยริเซ่กดฟรีคิก,อลอนโซ่ยิงจุดโทษก่อนที่แอกเกอร์จะมาปิดท้ายเข้าชิงกับปอร์ทสมัธในวันศุกร์นี้ตามคาด

บาร์เคลย์ เอเชีย โทรฟี่ย์ 2007

เซาธ ไชน่า 1-3 ลิเวอร์พูล

ประตู : 0-1 ริเซ่ น.10,0-2 อลอนโซ่ น.27(จุดโทษ),1-2 ไฮเชียง น.34,1-3 แอเกอร์ น.74

ราฟาเอล เบนิเตซส่งผู้เล่นชุดใหญ่เน้นๆปราศจากด้านรุ่งแม้แต่คนเดียวโดยวันนี้แฟนๆฮ่องกงหมดสิทธิ์ดูฟอร์มของเฟอร์นานโด ตอร์เรส,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ดและไรอัล บาเบิ้ลที่ไม่มีชื่อแม้กระทั่งตัวสำรองหลังยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนกันหมด

ช่วงต้นเกมเป็น"หงส์แดง"ที่เข้านวดก่อนโดยอลอนโซ่รับบทบาทเก็บกินบอลจังหวะสองทำเกมให้ทีมอย่างไหลลื่นในขณะที่ซิสโซโก้วูบวาบพาบอลลุยได้ครั้งสองครั้ง

นาทีที่ 8 โมโม่ทำเอาจอมพลิ้วอาย

เมื่อโชว์ความแกร่งแหวกกลุ่มแข้งเจ้าถิ่นตลุยเข้าถึงเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายแรงไปทำให้นายทวารวิ่งมารับไว้ได้ทัน อีก 2 นาทีต่อมาซิสโซโก้โดนทำฟาว์ลตรงหัวกระโหลกหน้าเขตโทษและเป็นริเซ่ที่รับอาสาวิ่งมายิงเต็มตีนเตี่ยบอลพุ่งแหวกช่องกำแพงที่แตกง่ายๆเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปตาข่ายแทบขาด "หงส์แดง"นำ 1-0

ลิเวอร์พูลยังพับสนามครองเกมเอาไว้ได้ข้างเดียวต่อไป

และนาที 13 คิวล์ที่ราฟาจับส่งเป็นตัวจริงแตะอ้อมแบ็คแล้วควบหนีไปเอาเองอย่างสวยงามก่อนตบเข้าในให้โวโรนินที่แตะบอลหนีตัวประกอบเข้าไปยิงด้วยอีซ้ายแต่ไม่แรงพอเข้ามือผู้รักษาประตูอีก แม้ว่าเซาธ ไชน่าเริ่มครองบอลได้มากขึ้นแต่ทีมเยือนก็ลงไปคุมโซนรอดักเก็บเพราะรู้ว่าต้องจ่ายพลาดกันเองแน่ ภาพตัดมาที่ตอร์เรสนั่งหาวซะงั้น

และนาที 27

หนึ่งในบิ๊กโฟว์ผู้ดีมาได้จุดโทษหลังอลอนโซ่จ่ายทะลุช่องด้วยอีซ้ายให้โวโรนินวิ่งตีคู่เบียดกับตัวประกบยื้อจนล้มลงตรงเขต 6 หลาทั้งคู่และผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าให้จุดโทษทันทีก่อนที่"คุณชาย"จะขออาสาแปเสียบมุมขวามือของตัวเองเข้าไปง่ายๆ ลิเวอร์พูลนำ 2-0

แต่แล้วนาที 34
 
เซาธ ไชน่ามาตีไข่แตกได้เฉยโดยเริ่มจากจังหวะที่ซิสโซโก้ไปทำฟาวล์ตรงระยะ 40 หลาและเป็นไฮเชียงแข้งหมายเลข 11 สวมบทซินิซ่า มิไฮโลวิชวิ่งยิงปั่นไซด์บอลโค้งเป็นรุ้งกินน้ำลอยละลิ่วพุ่งย้อยเสียบสามเหลี่ยมโดยที่คาร์สันที่ทำเก๋าไม่ขอตั้งกำแพงเสียท่ากลับมาประจำเส้นไม่ทันเข้าทั้งบอลทั้งคน สุดยอดประตูของกัปตันทีมเจ้าถิ่น อีกไม่กี่นาทีเคราช์สบโอกาสปั่นไซด์หน้าเขตโทษแต่แรงไปนิดบอลข้ามคานแบบมีลุ้น

นาที 39

โวโรนินป้ายบอลให้เคราช์จี้เข้าดเขตโทษก่อนตบเข้ากลางให้ซิสโซโก้ซึ่งมัวแต่ติดเลี้ยงจนโดนฉกไปกินทั้งๆที่ทางซ้ายในกรอบมีคิวล์ที่ตั้งท่าพร้อมรับบอลไปยิงเองเน้นอยู่แล้ว เลยถูกแข้งออสซี่ตะวาดเล็กน้อย หมดครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำอยู่ 2-1 ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนเจ้าถิ่นที่เอาใจช่วยทั้งสองทีม

เริ่ม 45 นาที

หลังราฟายังไม่เปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นแต่เกมของลิเวอร์พูลก็ไม่ได้ไหลลื่นซักเท่าไหร่โดยได้แต่ต่อบอลเล็กน้อยแต่จังหวะที่จะทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันยังไม่ดีเท่าที่ควร วันนี้ลิเวอร์พูลเล่นกันโหดมากโดยเฉพาะซิสโซโก้ที่แข่งจริงน่าจะโดนไล่ไปนานแล้ว กำลังจะเข้าถึงนาที 60 อาร์เบลัวกระชากขึ้นมาจากริมเส้นก่อนตบเข้ากลางเลยมาถึงเคาท์ที่ยืนโล่งในเขตโทษแต่จังหวะตวัดยิงบอลข้ามคานโด่งออกไปไกล

นาที 71 เคาท์มาเก็บบอลทางปีกซ้ายก่อนครอสน้ำหนักสุดเนียนเข้าเขตโทษให้โวโรนินโผนโหม่งสุดสวยแต่บอลโด่งข้ามคานออกไปเอง ราฟาส่งฮูเปียแทนซิสโซโก้และดันเอาแอกเกอร์มาเล่นมิดฟิลด์และแค่ 3 นาทีแข้งเดนมาร์กเติมเกมขึ้นมาเองและแทงบอลทะลุให้ริเซ่วิ่งมาหักข้อตบเข้าเขตโทษตรงบริเวณจุดโทษพอดีและหอกทีมชาติฮอลแลนด์แตะบอลนิ่มๆตั้งให้แอกเกอร์วิ่งมายิงด้วยอีซ้ายบอลพุ่งเสียบตาข่ายไม่มีเหลือ "หงส์แดง"นำ 3-1

ก่อนหมดเวลา 6 นาที

เคาท์ที่ลงมาวูบวาบเอาเรื่องขึ้นมาจากทางปีกซ้ายอีกแล้วคราวนี้เลี้ยงด้วยข้างเท้าก่อนสับขาหลอกและป้ายไปอีกฝั่งของเขตโทษให้เพนแนนท์ที่ยืนโล่งๆได้ตั้งแปยิงตามน้ำแค่ 8-9 หลาแต่ผู้รักษาประตูปัดออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ นาที 88 เพนแนนท์ควบบอลขึ้นมาจากปีกขวาแล้วตบย้อยเข้ากลางให้โวโรนินวิ่งมาแปแค่ 6 หลาแต่ดันโดยบางบอลเลยไม่ตรงกรอบและเคาท์วิ่งมาเกี่ยวบอลที่กำลังจะออกหลังเลยกลายเป็นเลยออกเขตโทษอย่างน่าเสียดาย

จากนั้นเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้เป็นลิเวอร์พูลที่เอาชนะไป 3-1 เข้าไปชิงกับปอร์ทสมัธที่ชนะฟูแล่ม 1-0 ในวันศุกร์นี้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว ภาพดี โดย:


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์