หงส์บินสูง บุกชนะแชมป์เก่าบารซ่าถึงถิ่น 2-1

เจ้าถิ่น บาร์เซโลน่า (สเปน) 1 ทีมเยือน ลิเวอร์พูล(อังกฤษ) 2

เคร็ก เบลลามี่ และ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ 2คู่กัด ซัดคนละประตูให้หงส์แดงไล่จิกแชมป์เก่าบาร์ซ่าได้สำเร็จ

ด้านทีมเยือน หงส์แดง ลิเวอร์พูล ราฟาเอล เบนิเตช จัดทัพส่งริเซ่ และเคิกซ์ เบรามี่ สองผู้เล่นที่พึ่งมีปัญหากันลงสนามร่วมกัน (จากการที่เคิกซ์ เบรามี่สวมวิญญาณไทเกอร์วูด คว้าไม้กอล์ฟหวดขาริเซ่ ) และได้โมฮัมเม็ด ซิสโซโก้ ผู้เล่นkeymanตัวสำคัญที่เคยเล่นให้ทีมบาร์เลนเซียในลีคสเปนกลับมาคุมแดนกลาง

ส่วนทีมเจ้าถิ่น บาร์เซโลน่า แฟรงค์ไรการ์ดจัดทีมเต็มทัพ ส่งทั้งเดโก้, โรนัลดิญโญ่เปิดรังคัมป์ นู รับศึกหนักจากอดีตแชมป์เมื่อ2ปีก่อนแบบเต็มพิกัด

เริ่มเกมลิเวอร์พูลบุกกระหน่ำและได้ลุ้นตั้งแต่นาทีที่ 5
เมื่อเจอร์ราร์ด โยนบอลให้ ริเซ่ หลุดไปทางด้านซ้ายและเปิดบอลต่อให้เบรามี่
แต่แบ็กซ้ายตีนระเบิดเปิดแรงไป เบรามี่ตามไม่ทัน

10นาทีแรก ทีมเยือนลิเวอร์พูลบุกเข้าใส่เจ้าถิ่น แบบกินดีหมีใจเสือมา
จนกระทั่งบาร์ซ่าไม่มีโอกาสมาถึงหน้าเขตประตูหงส์แดงได้เลย

ในนาทีที่ 12 บาร์ซ่าเปิดเกมสวนกลับและเกือบได้ประตู แต่โชคยังเข้าข้างหงส์แดง เมื่อโรนัลดินโญ่ส่งให้ซาวิโอล่า บุกเข้าไปได้ถึงหน้ากรอบแต่ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ยกเป็นล้ำหน้า (ดูจากภาพช้าไม่ล้ำ)
หงส์แดงรอดได้หวุดหวิด


นาทีที่14 หลังจากเจ้าถิ่นบุกกระหน่ำ เกือบได้หลายประตูในช่วงเวลา4นาทีที่ผ่าน และในที่สุดความพยายามก็เป็นผล เมื่อเดโก้รับลูกโยนจากซัมบอตต้าที่โยนไปเสาสองและเดโก้ไม่พลาดโหม่งกดลงพื้นตุงตาข่าย เจ้าถิ่นขึ้นนำ ทีมดังจากอังกฤษหงส์แดงลิเวอร์พูลทันที 1-0

ลิเวอร์พูลป่วนหนัก ดาเนียร์ แอคเกอร์ ต้องรับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม เมื่อเข้าไปตั้งใจเตะขาจากด้านหลัง


บาร์ซ่าได้ฟาวล์จากการทำฟาวล์ของคาราเกอร์ เมื่อไปกางแขน

ลิเวอร์พูลได้บุกครั้งแรกนับแ
ต่เสียประตูแรกจนถึง ลิเวอร์พูลไม่มีโอกาสบุกถึงหน้าประตูบาร์ซ่า

และได้ลูกเตะกินเปล่า และบาร์ซ่าต้องเสียใบเหลืองใบแรก
เจอร์ราร์ดเตะเข้ามาที่เสาสองแต่ เบรามี่โหม่งลงพื้น แต่ไม่ดีพอลูกเข้าข้างประตู

นาทีถัดมา เมซซี่พาลูกตลุยเข้าหา4ผู้เล่นของลิเวอร์พูล และได้จุดโทษเมื่อผู้เล่นไม่สามารถต้านความเร็วของเมซซี่ได้

ฟินแน่นหยอดไปเสาสองเบรามี่กระโดดโหม่งตอปิโดบก สะบัดหัวลูกเข้าไปก้ำกึ่งที่เส้นประตู ผู้รักษาประตูออกอาการเหวอพยายามปัดลูก ออกมาเข้าทางเดิกซ์เคราช์กระโดดเตะตรงหน้ากรอบประตูแบบไร้ตัวประกบ เดิร์กเคร้าช์เตะซ้ำเข้าประตู

แต่กรรมการตัดสินให้เป็นประตูตั้งแต่ตอนที่ลูกก้ำกึ่งตรงเส้นจากลูกโหม่งของ
เบรามี่ตั้งแต่แรกแล้ว ตีเสมอสำเร็จเป็น 1-1 ให้ลิเวอร์พูลได้สำเร็จ

เป็นไปตามคาดหมาย เมื่อจบครึ่งแรกบาร์ซ่าแชมป์เก่าได้ครองบอลถึง 63%
และลิเวอร์พูลได้ครองบอลเพียง 27% เท่านั้น เนื่องจากมีการปล่อยพื้นที่ให้
โรนัญดิลโญ่ได้ครองบอลมากไป

ผ่านไป 20นาทีของครึ่งหลัง ยังเสมอ 1-1 แฟรงค์ ไรการ์ดเปลี่ยนแผน ส่ง คูชินี่ลงสนาม

และเวลาผ่านไป3นาที บาร์ซ่าเกือบเสียค่าโง่ เมื่อผู้รักษาประตูออกอาการเบลอไปรับลูกที่กองหลังส่งกลับมาด้วยมือ กรรมการไม่เบลอด้วยเป่านกหวีดดังขึ้นทันที ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกซ์ในเขตโทษ ซาบี้แตะบอลให้เจอร์ราดวิ่งเข้าซัดเต็มข้อ
แต่ติดเท้าผู้รักษาประตูเซฟได้หวุดหวิด ลูกลอยโด่ง แต่ซาบี้ อลองโซ่ตามไปเก็บบอลได้ก่อนออกหลัง และหยอดเข้าไปเคิกซ์ เคร้าชโหม่งเต็มๆ ลูกเฉียดเสาข้ามคานไปแบบน่าเสียดาย

แต่ลิเวอร์พูลได้เตะมุมต่อ (กองเชียร์บาร์ซ่าโห่ลั่นสนาม) เมื่อไม่มีผู้เล่นของบาร์ซ่าโดนบอลจากการโหม่งของ เดิกซ์ เค้าช์เลย แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้



ลิเวอร์พูลเกือบเสียประตูแบบหวุดหวิดเมื่อฟาเบียร่าเลี้ยงเข้ามาและเตะเข้าเต็มข้อ แต่โฮ่เซ่ เร่น่าไม่พลาดปลัดลูกออกมาได้ กองหลังลิเวอร์พูลสกัดต่อแต่เข้าเท้าเมซซี่ผู้เล่นบาร์ซ่า แต่เมซซี่ดันทุรังพยายามเลี้ยงหลบเข้ายิง จนถูกกองหลังหงส์
เข้ารุมและเสียการครองบอลในที่สุด

นาทีที่ 74 เจอร์ราดโยนให้เดิรซ์เค้าช แต่ผู้รักษาประตูออกมาสกัดทันเนื่องจากเดิรก์เคร้าชจับยาว แต่ลูกไม่ขาด กองหลังบาร์ซ่าเข้าช่วยเตะสกัดต่อ
แต่บอลไปเข้าเท้า เบรามี่ และใจเย็นส่งบอลให้กับ ริเซ่ ซัดด้วยขวาเป็นประตู
ลิเวอร์พูลทีมเยือนขึ้นนำ 2-1

ช่วง 10นาทีสุดท้าย ป๋าราฟาส่งเพนเนนทลงมาแทนเคริกซ์ เบรามี่

เกมส์ต้องชะงักลงเมื่อซิสโซโก้โดนโรนัลดิญโญ่เตะ และล้มลงเกมต้องหยุดชะงัก เพราะต้องให้รถมานำซิสโซโก้ออก
ระหว่างนั้น แฟรงค์ไรการ์ดก็ทิ้งไพ่ตายส่ง า กู๊ดจอนเซ่นส่งลงมาแทนซาเบียร์ร่า

นาทีที่ 82ราฟาส่งเซนเด้นลงมาแทนซิสโซโก้ที่เจ็บ

นาทีที่ 83แอกเกอร์ไปเลี้ยงหลบกู๊ดจอหน์เซ่น เลยไปทำฟาวล์ โฮเซ่เรน่ากระโดดปัดพลาด แต่ลูกไม่โดนใครเลยออกหลังหมด

นาทีที่ 86 เบรัดติคออกอาการเจ็บ เดินกระเผลกแต่ว่าไม่สามารถออกจากสนามได้เนื่องจากไรการ์ดเปลี่ยนตัวครบหมดแล้ว

นาทีที่ 87 บาร์ซ่าได้ลูกฟรีคิกซ์ต่อ เดโก้ปั่นลูกสุดสวย แต่ลูกชนเสา หงส์แดงยังนำบาร์ซ่าอยู่ 2-1




จบครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลบุกมาชนะบาเซโลน่าสำเร็จ 2-1
และเกมส์ถัดไปบาร์ซ่าต้องบุกไปเยือนลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ วันที่ 6 มีนาคม

โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ ได้เป็นแมนออฟเดอะแมทช์
จากเวบไซต์ของ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีค

บาร์เซโลน่า (สเปน) 1-2 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
เดโก้ (นาทีที่14) พาบาร์ซ่านำ1-0 : เคร็ก เบลลามี่ (นาทีที่43) ไล่ตีเสมอ1- ยอห์น อาร์เน่ ริเซ่ (นาทที่74)]

อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 2-2 บาเลนเซีย (สเปน)


ปอร์โต้ (โปรตุเกส) 1-1 เชลซี (อังกฤษ)
ราอูล เมยเรเลส (พาปอร์โต้ขึ้นนำ1-0 นาทีที่12) , อังเดร เชฟเชนโก้ (ไล่ตีเสมอให้เชลซีนาทีที่16)

โรม่า (อิตาลี) 0-0 โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส)