หงส์แดงอ้วก ดวลแชมป์บาร์ซา

ยังคงเป็นเกมดวลแข้งในรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก รวม 4 คู่ โดยคู่เอกบิ๊กแมตช์จะเป็น คู่ไหนไปไม่ได้นอกจากเกมชนช้างที่สังเวียนอ่างยักษ์คัมป์นู ในสเปน ระหว่าง เจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลนา แชมป์เก่ารายการนี้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจะเปิดรังต้อนรับการมาเยือนของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล แชมป์ ยุโรปปี 2005 โดยคู่นี้จะมีการถ่ายทอดสดให้ชม ทางช่อง 7 สี เริ่ม 02.45 น. เป็นต้นไป

เอฟซี ปอร์โต (โปรตุเกส) พบ เชลซี (อังกฤษ),

อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) พบ บาเลนเซีย (สเปน) และ

โรมา (อิตาลี) พบ โอลิมปิก ลีญง (ฝรั่งเศส)

ซึ่งทุกคู่จะเริ่มเตะพร้อมกันหมด ในเวลา 02.45 น. เช่นกัน

เมื่อเพิ่งบุกไปพ่ายต่อบาเลนเซีย 1-2 ในศึกลาลีกาเมื่อวันอาทิตย์ แถมยังมีปัญหาปั่นป่วนภายในทีมอีกต่างหาก หลังจาก ซามูเอล เอโต ศูนย์หน้าชาวแคเมอรูน ไปมีเรื่องมีราวขัดแย้งกับ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด กุนซือชาวดัตช์ของทีม ขณะที่หงส์แดงก็มีปัญหาปันป่วนภายในทีมไม่แพ้กัน หลังมีรายงานว่า เคร็ก เบลลามี เกิดเมาฟิวส์ขาดใช้ไม้กอล์ฟหวดเข้าที่ขาของ จอห์น อาร์เน รีเซ เพื่อนร่วมทีม หลังจากทั้งคู่ทะเลาะกันในบาร์แห่งหนึ่ง ระหว่างเก็บตัวฝึกซ้อมที่โปรตุเกส

คาดว่า ซามูเอล เอโต กองหน้าทีมชาติแคเมอรูน อาจจะได้พลิกโผลงเล่นเป็นตัวจริง แม้จะมีปัญหาขัดแย้งกับกุนซือไรจ์การ์ด โดยจะได้เล่นคู่กับ เหยินน้อย โรนัลดินโญ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติบราซิล ส่วน ลิโอเนล เมสซี ศูนย์หน้าดาวรุ่งทีมชาติอาร์เจนตินา ที่หายเจ็บแล้ว ก็มีลุ้นลงเป็นตัวจริงด้วย ข้างฝ่ายทีมเยือนหงส์แดง คาดว่ากุนซือราฟา เบนิเตซ จะจัดทัพใหญ่ลงบู๊เต็มสูบ นำโดย สตีเวน เจอร์ราร์ด, เดิร์ก เคาท์, ปีเตอร์ เคราช์ และซาบี อลองโซ เป็นต้น

หงส์แดงมีสถิติดีกว่าเล็กน้อย เมื่อคว้าชัยได้ 2 ครั้ง ในปี 1976 และ 2001 ส่วนบาร์ซาเอาชนะลิเวอร์พูลได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น และที่เหลืออีก 3 ครั้งเสมอกันทั้งหมด สำหรับแนวโน้มความน่าจะเป็นของผลการแข่งขันนัดนี้ เทียบฟอร์มแล้วต้องยกให้บาร์เซโลนาครบเครื่องต้มยำกว่า แถมยังได้เล่นในบ้านอีกต่างหาก

ที่คัมป์นูหนสุดท้ายก็ต้องย้อนไปในปี 1976 ด้วยสกอร์ 0-1 คาดเกมจะเป็นบาร์ซาที่เดินหน้าเปิดเกมรุกเข้าใส่ ส่วนลิเวอร์พูลคงเน้นตั้งรับแล้วรอสวนกลับเร็ว โดยมี เดิร์ก เคาท์ เป็นตัวทีเด็ด สรุปแล้ว บาร์ซาไม่น่าแพ้คาบ้าน อย่างแย่สุดก็น่าจะยันเสมอกับหงส์แดงได้ โดยโอกาสชนะของเจ้าถิ่นอยู่ที่ 60-40

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ