เป็นกฏธรรมชาติทุกครั้งที่ทีมใหญ่ล้มฟุบพบกับความพ่ายแพ้นัดต่อมามันจะเหมือนอาการอัดอั้นตันอุราก่อนจะระเบิดฟอร์มเปรี้ยง...
เกมกับ อาร์เซน่อล เป็นนัดที่ ลิเวอร์พูล ต้องการชัยชนะหลังจากได้เฮแค่นัดเดียวใน 6 เกม พรีเมียร์ลีกไม่ใช่เพียงเพื่อโอกาสในการทำอันดับแต่ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ...ความมั่นใจ
ไม่มีเกมไหนที่จะเหมาะกับการเรียกความมั่นใจมากไปกว่า บิ๊กแม็ตช์ ชัยชนะจะยิ่งทวีความฮึกเหิมกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะอีกครั้ง
แต่กับ ลิเวอร์พูล เพลานี้มันสวนทางตรงกันข้ามยิ่งเล่นยิ่งตื้อตันหมดมุก...
เกมครึ่งแรก หงส์แดง ยังเล่นกันได้ดีแต่พอเข้าสู่ครึ่งหลังดูเหมือนปัญหาจะเริ่มเกิด ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ซึ่งกำลังเล่นได้ดีแต่กลับถูกเปลี่ยนตัวออกในขณะที่ สตีเว่น เจอร์ร์ด กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดูอ่อนแรงลง
ลิเวอร์พูล ต้องการความแข็งแกร่งดุดันไล่ตะปบบอลของ มาสเคราโน่ มันไม่ใช่เวลาที่ถูกต้องกับการส่ง อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ มาเคาะสนิม
จอมทัพอิตาเลี่ยนหายเจ็บกลับมาแล้วยังมีอีกหลายเกมให้ทดลองแต่เกมกับ อาร์เซน่อล ต้องการของจริงของแท้ลงไปแล้วใช้การได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์
ฤดูกาลที่แล้ว หงส์แดง ก้าวขึ้นมาท้าชิงแชมป์กับ 6 ผู้เล่นที่ท็อปฟอร์มพร้อมกันๆก็คือ เจอร์ราร์ด, ตอร์เรส, คาร์ราเกอร์, มาสเคราโน่, ชาบี อลอนโซ่ และ เรน่า นั่นคือข้อแตกต่างกับซีซั่นนี้ที่ชัดเจน
ปัญหาผู้เล่นแกนหลักบาดเจ็บเกิดได้กับทุกทีมแต่สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ขาดหายไปและสำคัญกว่าก็คือทีมสปิริตและความมุ่งมั่นมันไม่ร้อนแรงเหมือนเมื่อก่อน
ราฟาเอล เบนิเตซ เล่นด้วยนักเตะชุดใหญ่เพียวๆไม่ได้ยังไงก็ต้องมีกลุ่มเด็กดาวรุ่งมารองรับเพราะคลื่นลูกใหม่ไฟแรงพร้อมที่จะทุ่มเทสุดชีวิตเพื่อทีมและอนาคตของตัวเอง
แต่ที่ผ่านมา เบนิเตซ ให้โอกาสเด็กดาวรุ่งน้อยมากแรงจูงใจที่จะทุ่มเทมีน้อยเช่นเดียวกับกลุ่มนักเตะสำรองที่ถูกมองข้ามไม่มั่นใจในความสามารถก็ยิ่งทำลายขวัญและกำลังใจ
เมื่อถึงคราวที่ ลิเวอร์พูล ต้องการความสดของนักเตะชุดสองมันจึงยากที่จะทดแทนกันได้ด้วยเหตุผลที่ว่า...ทุ่มเทไปทำไมยังไงก็ไม่ได้รับโอกาส
ลองเปรียบเทียบกับเด็กดาวรุ่ง แมนฯยูไนเต็ด แต่ละคนลงเล่นด้วยความฮึกเหิมเพราะรู้แก่ใจว่าถ้าฟอร์มดีได้ขึ้นชั้นแน่นอน
เฟเดริโก้ มาเคด้า, แดนนี่ เวลเบ็ค, ดาร์รอน กิ๊บสัน, สองคู่แฝด ราฟาเอล กับ ฟาบิโอ ดา ซิลวา คือตัวอย่างของเด็กรุ่นน้องและรุ่นเดียวกันในทีมที่กำลังรอคอยโอกาสกันอย่างใจจดใจจ่อ
เฟอร์กี้ ไม่เคยมองข้ามและที่สำคัญกล้าที่จะปล่อยลงน้ำทุกสถานการณ์หากว่าทีมต้องการกำลังเสริมไม่ใช่เฉพาะเกมเล็กที่ไร้ความหมายเท่านั้น
อาร์แซน เวนเกอร์ เองก็ทำเช่นนั้นกับ อาร์เซน่อล การได้ลงเล่นทีมชุดใหญ่คือความฝันของเด็กทุกคนมันคือแรงกระตุ้นชั้นเยี่ยมที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้
นักเตะค่าตัวหลัก 10 ล้านปอนด์ขึ้นไปหลายรายยังมีหัวจิตหัวใจสู้เพื่อทีมเทียบกับเด็กลูกหม้อไร้ค่าตัวเหล่านี้ไม่ได้
ทีมชุดขนาดเล็กของ อาร์เซน่อล ที่เล่นไม่ได้ดีมากนักแต่คว้าชัยชนะได้ที่ แอนฟิลด์ สิ่งเห็นได้ชัดเจนก็คือความมุ่งมั่นและวินัยที่เข้มตลอด 90 นาที
ขุนพล ยังกันส์ ไล่บี้นักเตะ หงส์แดง ติดตัวทุกวินาทีเล่นราวกับว่าเป็นนัดชิงชนะเลิศที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ซึ่งแตกต่างกับทีมเจ้าของสนามโดยสิ้นเชิง
เคล็ดลับสามคะแนนที่ แอนฟิลด์ ถูกเปิดเผยโดย เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีมภายหลังจบเกมว่าเป็นเพราะแรงกระตุ้นของ เวนเกอร์ ในช่วงพัก 45 นาทีแรก
พวกแกไม่คู่ควรที่จะสวมชุด อาร์เซน่อล !
เวนเกอร์ ส่งข้อความกระแทกเข้าไปในรูหูของลูกทีมที่ห้องแต่งตัวและมันคือแรงกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้ อาร์เซน่อล พลิกกลับมาเป็นผู้ชนะ
ฟาเบรกาส ยอมรับว่าไม่เคยเห็น เวนเกอร์ แรงขนาดนี้มาก่อนนั่นเป็นเพราะฟอร์มอันน่าผิดหวังของทีมซึ่งเจ้านายพูดถูกหากทุกคนเล่นได้แบบนั้นก็ไม่คู่ควรจริงๆ
ลิเวอร์พูล กำลังวิกฤติปัญหามันฟ้องชัดในสนามแต่ดูเหมือน เบนิเตซ จะแก้ไม่ตกมืดแปดด้านจับต้นชนปลายไม่ถูก
อีกเหตุผลหนึ่งที่น่าจะมีส่วนไม่น้อยก็คืออาการท้อถอยของผู้นำอย่าง เจอร์ราร์ด ที่ดูเงียบเชียบภายหลังออกมายอมรับว่า ลิเวอร์พูล หมดลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก
ลูกพี่ยังไม่เอาแล้วลูกน้องจะเหลือหรือ...
ซัมเมอร์ฮิลล์
|
|