ตั้งแต่รู้ผลจับฉลากแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อย้อนกลับไปเมื่อต้นฤดูกาล
พอจะคาดเดาได้ว่าภารกิจของลิเวอร์พูล ในการพาตัวเองเบียดเข้ารอบน็อกเอาต์คงไม่ใช่งานกล้วยๆ
โอลิมปิก ลียง อดีตแชมป์ 7 สมัยรวดของลีก เอิง, ฟิอออเรนติน่า ทีมพลังหนุ่มไฟแรงจากเซเรีย อา คือสองในด่านอรหันต์ที่ขุนพลหงส์แดง ต้องฝ่าฟันให้ได้ หากหวังจะอยู่บนถนนสู่ซานติอาโก เบร์นาเบว 2010
มันไม่ใช่การแก้ตัว แต่นี่คือความจริงว่าต่อให้ทีมร่วมเมืองผู้ดีอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี และอาร์เซน่อลก็คงอยากเลี่ยงชะตากรรมลำบากเหมือนที่ลิเวอร์พูล ต้องเผชิญ
ปีศาจแดงมีเพียงโวล์ฟสบวร์ก แชมป์ใหม่ถอดด้ามจากเวทีบุนเดสลีกา ที่จัดว่าอยู่ในกลุ่มท็อปโฟร์ หรือท็อปไฟฟ์ ของลีกยุโรป
เชลซี เช่นกัน กับการเจอ ของใหญ่ แค่หนึ่งเดียวในนามแห่งแอตเลติโก มาดริด มิหนำซ้ำ ทีมตราหมียังออกสตาร์ตฤดูกาลลา ลีกา ได้ห่วยบรมจนกระทั่งต้องปลดโค้ช
โชคดีสุดๆ ควรยกให้อาร์เซน่อล ที่นอกจากคู่แข่งร่วมกลุ่มเดียวกันจะไม่มีทีมในบิ๊กลีกของทวีปมาเป็นก้างขวางคอแล้ว ทั้งอาแซ่ด อัล์คมาร์ (แชมป์ดัตช์) และสตองดาร์ ลีแอช (แชมป์เบลเยี่ยม) ยังเป็นพวกไม่มีประสบการณ์ในแชมเปี้ยนส๋ลีก รอบแบ่งกลุ่ม มาก่อน
ขออนุญาตย้ำอีกครั้งว่า...นี่ไม่ใช่การแก้ต่างแก้ตัวของเด็กหงส์
เพียงต้องการเริ่มต้นเรื่องนี้ด้วยบอกว่าลิเวอร์พูล ถ้าหมายมั่นปั้นมือจะผ่านเข้ารอบให้ได้ พวกเขาจำเป็นต้องทำผลงานที่ดีในทุกๆ เกม หรืออย่างน้อยก็ควรจะแทบทุกนัด การเอาชนะทีมแจกแต้มของกลุ่มอย่างเดเบรเซ่น ได้ทั้งไป-กลับ เพียงอย่างเดียว จะไม่เพียงพอสำหรับการอยู่รอดจากกลุ่มนี้
เพราะใครใคร ไม่ว่าฟิออเรนติน่า หรือโอลิมปิก ลียง ก็สามารถเก็บ 6 แต้มเต็มได้จากแชมป์ฮังกาเรียน
การวัดว่าสองในสามไหนจะผ่านเข้ารอบ จึงขึ้นกับผลงานเจอกันเองระหว่างลิเวอร์พูล กับฟิออเรนติน่า,ฟิอเรนติน่า กับ ลียง และลียง กับลิเวอร์พูล
ความจำเป็นของการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทุกแมตช์ทุกนัดเหล่านี้ ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งยวดประการหนึ่ง
อะไรคือความหมายของคำว่า เตรียมตัวให้พร้อม ?
สภาพทีมหนึ่งล่ะ สมบูรณ์หรือไม่ นักเตะตัวหลักๆ ฟิตพร้อมลงเล่นหรือเปล่า
อย่างที่ราฟา อ้างว่าถ้าลิเวอร์พูล มีเฟร์นานโด ตอร์เรส อยู่ในเกมกับลียง ที่แอนฟิลด์ ซึ่งพวกเขาแพ้ 1-2 และ/หรือ สามารถฝืนทนอาการบาดเจ็บยืนค้ำแดนหน้าได้จนหมดเวลาในการกลับไปแก้มือกับทีมน้ำหอม ก่อนที่ลิเวอร์พูล มาพลาดโดนตีเสมอในนาทีสุดท้าย
บางที หงส์แดงอาจทำผลงานได้ดีกว่าเพียงแต้มเดียวจากสองนัดนี้
แต่ราฟา ก็พูดถูกแค่ ครึ่งเดียว กับการยกประเด็นความฟิตของตอร์เรส เป็นสาเหตุของการตกรอบ
เพราะคำว่า เตรียมตัวให้พร้อม ยังหมายความกว้างกว่าการไม่มีตอร์เรส เพียงแมตช์เดียว (ไม่นับที่เล่นกับเดเบรเซ่น) หรือการที่เจอร์ราร์ด อยู่ในสนามแค่ 25 นาทีจากสองเกมที่พบกับลียง
แต่การเตรียมตัวให้พร้อม มีนัยคลอบคลุมถึงผลงานในลีก ซึ่งต่อยอดทอดสะพานไปเรื่องของความมั่นใจแฝงภายในทีม
หลักฐานปรากฎชัดเจนตรงนี้ว่าในบรรดาสามทีมที่เล่นอยู่ในลีกระดับท็อปไฟฟ์ ลิเวอร์พูล คือทีมที่มีผลงานย่ำแย่ที่สุด ไม่ต้องพูดถึงเดเบรเซ่น ซึ่งมาตราฐานของฟุตบอลลีกฮังกาเรียน มิควรค่าแก่การเปรียบเทียบ
แม้แต่การรั้งอันดับ 6 บนตารางกัลโช่ ของฟิออเรนติน่า ก็ยังสูงกว่าทีมหงส์แดง และแน่นอนว่าอันดับสามของลียง ในลีก เอิง ย่อมดีเกินกว่าพวกเขาเป็นไหนๆ
พูดอีกอย่างว่าลิเวอร์พูล ไม่มีความพร้อมเอาเลยก่อนกรีฑาทัพไปทำศึกยุโรป พวกเขาแพ้ซันเดอร์แลนด์ก่อนโดนลียง บุกมาแซงชนะที่แอนฟิลด์
แพ้ฟูแล่ม แบบที่เหลือแค่ 9 คนเมื่อจบเกม จากนั้นถึงออกไปทำได้แค่เสมอกับลียง ในสถานการณ์บังคับให้ต้องชนะ
ผลงานที่กระท่อนกระแท่นในลีก ความสับสนที่ค่อยๆ ก่อตัวกลายเป็นความไม่เชื่อมั่น สมาธิของทั้งนักเตะและผู้เป็นโค้ชแตกซ่านว่ากรูจะเอางัยดี พรีเมียร์ หรือแชมเปี้ยนส์ ลีก
ปัญหาบาดเจ็บกับผู้เล่นคนสำคัญ (อย่างที่ราฟา กล่าวอ้าง) บวกกับความแข็งเขี้ยวของทีมร่วมกลุ่ม ซึ่งทำให้การแย่งเข้ารอบในกลุ่มนี้เป็นเรื่องไม่ง่ายมาตั้งแต่ต้น
ทั้งหมดทั้งมวลกอปรกันเป็นเหตุผลว่าทำไม ลิเวอร์พูล จึงวาสนาน้อยกระทั่งไม่มีโอกาสยื้อชะตาไปตัดสินในนัดสุดท้าย
เพียงความเสียดายอยู่อย่างเดียวว่าถ้าหงส์แดงจะต้องจบเห่เอวังในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาน่าตกรอบไปแบบเนียนๆ เหมือนแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อย้อนไปไม่กี่ปีก่อน
ยอมรั้งบ๊วยของกลุ่ม แต่ไม่ยอมเสียชื่อว่าเป็นทีมระดับยูฟ่า คัพ (ชื่อเดิมในเพลานั้น)
ไม่ต้องเปลืองพลังงานให้เสี่ยงนักเตะบาดเจ็บ และเพื่อหันหัวเรือกลับมาทุ่มเต็มที่กับผลงานในพรีเมียร์ ลีก
แต่เด็กหงส์จำต้องยอมทนโดนเพื่อนล้อไปสักระยะว่าทีมระดับยูโรปา ลีก....มันเสียหน้านะนี่ ?!
...มาริโน่... |
|