เสน่ห์ลูกหนัง
หลังเสร็จศึกมันเดย์ไนต์ล่าสุด เชื่อแน่ว่าภาพจังหวะ ดาวิด เอ็นก๊อก สะดุดเงาหัวใสของ ลี คาร์สลี่ย์ ล้มลงจนได้จุดโทษ คงเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนช่างสงสัย ด้วยความอยากจะเห็นเต็มตาว่ามันเนียนขนาดไหน ถึงหลอกให้เชิ้ตดำ ปีเตอร์ วอลตัน กลายเป็นดาวตลกดวงใหม่ของพรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูล รอดพ้นความปราชัยครั้งที่ 6 ในลีก และคว้าผลเสมอหนแรกได้หืดจับ ทั้งๆที่รูปเกมเป็นเอกฉันท์ของพวกเขาตั้งแต่ออกสตาร์ตยันหมดช่วงเวลาของการทดเจ็บ
เพียงแต่ปัญหามันเกิดจาก 2 ประตูของ คริสเตียน เบนิเตซ และ คาเมรอน เจโรม หลังลูกวอลเล่ย์สุดสวยเบิกร่องของ เอ็นก๊อก นี่แหละที่ทำให้ต้องรีบเร่งทวงคืนทันที เมื่อลงมาประจำการในครึ่งหลัง
ส่วนกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด ถูกส่งมาแทน อัลเบิร์ต ริเอร่า แบบไม่ทันเตรียมเนื้อเตรียมตัวตอนปลายครึ่งแรก หลังปีกเลือดสเปนเจ็บปวดกับอาการตรึ๊ง ตรึง ตึง ตึ่งแถวๆต้นขา และมันก็เป็นหนทางที่ไม่มีให้เลือกนักสำหรับ ราฟาเอล เบนิเตซ โดยเฉพาะตอนทีมกำลังถวิลหาประตู
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่จังหวะบุกตะลุยนันสต็อปของพลพรรคหงส์แดงไม่สามารถทะลวงตาข่ายลูกโลกได้ นอกจากจุดโทษของ สตีวี่จี ทำให้ช็อตนี้กลายเป็นประเด็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ไปทั่วสังคมลูกหนัง
สื่อตัวแสบอย่างเดอะ ซัน พาดหัวตัวโตว่า CHEAT อันหมายถึงความโกงหรือการหลอกลวงอะไรประมาณนั้น ส่วนเจ้าอื่นก็มี ดิ อินเดเพนเดนท์ ที่ใส่ CHEAT ลงบนเฮดไลน์ผสมกับการเอาตัวรอดหนล่าสุดของ ลิเวอร์พูล โดยมี เอ็นก๊อก เป็นตัวละครเด่นเหนือ เจอร์ราร์ด ผู้สำเร็จจุดโทษเสียอีก
ขณะที่สำนักอื่นๆพากันชงให้คนอ่านตระหนักว่าจุดโทษลูกนี้มันมีตำหนิและนำมาซึ่งความขัดแย้งอย่างแท้จริง
![src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O091110A2O7O.jpg]()
จุดโทษปัญหากระชากชัยชนะมาจากอ้อมอกของ อเล็กซ์ แม็คลีช และบดบังสถิติย่ำแย่ของ ทัพหงส์ เมื่อทำศึกพรีเมียร์ลีกกับ เบอร์มิงแฮม เพราะไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งที่ดูเหลี่ยมไหนก็เป็นรองทีมนี้ได้เป็นนัดที่ 7 ติดต่อกันเข้าให้แล้ว
แต่สิ่งที่เอาใบบัวมาปิดกลบไม่มิดก็คือสถานการณ์อันร้อนฉ่าของ เอล ราฟา เมื่อผลลัพธ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปทำให้ ลิเวอร์พูล ไล่หลัง จ่าฝูง 11 คะแนนเต็มๆ จากการลงสนามครบหนึ่งโหลเท่ากัน และมันก็ยิ่งทำให้เป้าหมายแชมป์ลีกห่างจากแอนฟิลด์ไปไกลสุดกู่
นี่ยังโชคดีที่ หงส์แดง มาได้ระฆังพักเบรกทีมชาติช่วยไว้ให้ไปตั้งหลัก ปรับแต่งจูนเครื่องให้เข้าที่เข้าทาง หลังจากออกทะเลมาพักใหญ่ๆ แต่ ราฟา ก็คงต้องทนฟังข่าวเรื่องเก้าอี้ฮอตของตนเอง ที่อาจโดนลากไปพัวพันกับบุรุษผู้เข้าข่ายนายใหม่คนนั้นคนนี้
แถมมีโรคภัยไข้เดี้ยงของ ริเอร่า และ ยอสซี่ เบนายูน ให้คอยเป็นกังวลอีกทางนึงด้วย
พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ดับอนาคตผู้ตัดสินมาแล้วหลายราย ตัวอย่างชัดเจนคงหนีไม่พ้น ไมค์ โจนส์ เหยื่อเคราะห์ร้ายจากคดีบีซบอลมรณะที่สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับ ลิเวอร์พูล
มาถึง ปีเตอร์ วอลตัน แม้ป้อนประโยชน์ให้หงส์แดง แต่ก็ทำลายความหวังบิ๊กเซอร์ไพรส์ของ เบอร์มิงแฮม และเรื่องนี้ต้องถูกนำไปขยายความอย่างไม่ต้องสงสัย
ประตูโทนที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันอาทิตย์ เพิ่งจุดชนวนให้โต้เถียงกันสนุกปากระหว่างฟากผู้ชนะสิงห์น้ำเงิน และคนแพ้ปีศาจแดง ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังไม่ทันจบสิ้น ก็ได้หัวข้อไปสอยกันอีกเกี่ยวกับจุดโทษของ ลิเวอร์พูล
เมื่อหลักฐานมาพร้อมกับพยานรู้เห็นมากมายแบบนี้ ก็ต้องมีฝ่ายออกมารบเร้าให้นำเทคโนโลยีมาช่วยในการตัดสินเกมฟุตบอล ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายมาตรการถูกดึงเข้ามาเป็นตัวช่วย แต่ก็ยังหนักไปในทางเพิ่มกำลังพลไม่ใช่การใช้เครื่องมือไฮเทค เหมือนอย่างที่คุ้นตาในอเมริกันเกมส์
ภาพการขว้างธงประท้วง เพื่อหยุดเกมเช็กภาพช้า และทบทวนคำตัดสินให้ถ้วนถี่ คือเรื่องราวที่ถูกขัดขวางไม่ให้เกิดขึ้นกับกีฬาฟุตบอลมาโดยตลอด เพราะมันเป็นการทำลายมนต์เสน่ห์แบบดั้งเดิมของเกมลูกหนัง
เสน่ห์ที่คนคลั่งฟุตบอลอย่างเราๆท่านๆมีอะไรให้ขัดแย้งโต้เถียงกันไม่รู้จบ...
*เปริมี่*
กระทู้เด็ดน่าแชร์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
