คอลัมน์ สุดฟากสนาม โดย ธีรพัฒน์ อัครเศรณี
หลังจากหลีกคิวให้ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกไปหนึ่งสัปดาห์ ลูกหนังพรีเมียร์ลีกของอังกฤษกลับมาหวดกันสนั่นแข้งอีกครั้งวีคเอนด์นี้ โดยหนึ่งในไฮไลท์จะอยู่ที่สนาม สตเดี้ยม ออฟ ไลท์ เมื่อซันเดอร์แลนด์ เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล
ที่บอกว่าน่าติดตามก็เพราะ “หงส์แดง” ซึ่งเพิ่งจะแพ้เกมที่ 3 ในฤดูกาลให้เชลซีมาหมาดๆ ทั้งที่เปิดซีซั่นมาแค่ 3 เดือนเท่านั้น ราฟาเอล เบนิเตซ กำลังกดดัน ต้องบุกไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ ของ สตีฟ บรู๊ซ ซึ่งเกมล่าสุดฟอร์มเด็ดเกือบเอาชนะแมนฯยูไนเต็ดได้
อดีตกุนซือวีแกนผู้นี้พัฒนา “แมวดำ” ขึ้นมาได้อย่างน่ากลัว ส่วนหนึ่งเพราะการซื้อนักเตะที่ชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นปราการหลังร่างโย่งอย่าง ไมเคิล เทอร์เนอร์ กองกลางพันธุ์ดุอย่าง ลี แคตเทอร์โมล และดาวยิงอย่าง ดาร์เรน เบนท์ ซึ่งมาจับคู่กับ เคลวิน โจนส์ ให้กองหลังทีมอื่นๆขนพองสยองเกล้า คงไม่ใช่ฟลุ้ค เพราะบรู๊ซซี่ เคยดึงผู้เล่นอย่าง วิลสัน ปาลาซิออส, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, อาเมียร์ ซากิ มาปั้นจนโด่งดังกับวีแกนมาแล้ว
เป็นโจทย์ที่น่าสนใจว่ากองหลังลิเวอร์พูล ซึ่งกำลังมีปัญหากับลูกโด่งในช่วงนี้ จะรับมือกับกองหน้านิลกาฬคู่นี้ของซันเดอร์แลนด์ได้อย่างไร
เมื่อสัปดาห์ก่อนนับเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายบริหารของสโมสรลิเวอร์พูล ออกมาเปิดปากวิพากษ์วิจารณ์ แบบ ตีแสกหน้า ผู้จัดการทีมตัวเองอย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ หลังจากปล่อยให้กุนซือสเปนผู้นี้จวกข้างเดียวมาตลอด ว่าไม่เคยได้งบประมาณในการซื้อนักเตะเพียงพอ
จอร์จ จิลเล็ตต์ ก็เลยขุดเอาตัวเลขมายืนยันว่า ราฟา ใช้เงินเสริมทัพไปถึง 128 ล้านปอนด์ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา แต่การเลือกซื้อตัวนักเตะนั้นทำได้ไม่ค่อยเข้าท่า เลยทำให้ทีมออกสตาร์ทพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ได้ไม่น่าประทับใจ ถ้าจะมีอะไรผิดพลาดก็ต้องโทษที่ตัวผู้จัดการทีมเอง!
หรือนี่อาจจะเป็นการโยนหินถามทางเหล่า เดอะ ค็อป ว่าพร้อมหรือยังสำหรับการเปลี่ยนแปลง เพราะระยะเวลาที่สโมสรได้มอบให้กับผู้จัดการทีมผู้นี้มันอาจจะยาวนานเกินไป กับภารกิจไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก
นอกจากผลการแข่งขันจะไม่ได้แล้ว เรื่องของสไตล์การเล่น ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่ไม่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง ถ้าเทียบกับบิ๊ก 4 ทีมอื่น ลองนึกถึง อาร์เซนอล ทุกคนคงมองเห็นภาพการต่อบอลและเทคนิคการเล่นที่สวยงามสุดคลาสสิค เมื่อพูดถึง เชลซี ทุกคนสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งและสปิริตที่เหี้ยมหาญ เมื่อคิดถึงแมนฯยูไนเต็ด ทุกคนทราบดีกว่าจะได้เจอสไตล์การเล่นเกมรุกที่ก้าวร้าว เฉียบขาด ดุดัน แต่พอเป็น หงส์แดง ในยุคของ ราฟา เบนิเตซ ทุกอย่างมันไม่ชัดเจน กองหลังที่ควรจะเหนียวแน่นในสไตล์ที่ ราฟา ถนัดมาตลอดตั้งแต่สมัยคุม บาเลนเซีย ทุกวันนี้ก็ยุ่ย เสียประตูง่าย จะเรียกว่าเป็นทีมที่เน้นเกมรุกเอนเตอร์เทนคนดู ก็พูดไม่ได้ถนัดปากเพราะยังบุกแบบกล้าๆกลัวๆ แถมการจบสกอร์ก็ใช้โอกาสเปลือง
จะให้นึกจริงๆ คงเห็นเพียงภาพนักเตะสองคนที่เป็นทุกอย่างในทีมอย่าง ตอร์เรส กับเจอร์ราร์ด อย่างนี้โอกาสจะกลับมาเป็นแชมป์ลีกสูงสุดอีกครั้งอย่างที่แฟนๆ ใฝ่ฝันเมื่อไหร่จะมาถึง
แต่ก่อนจะคิดไกลขนาดนั้น ราฟา ต้องพา หงส์ เอาตัวรอดแบบมีแต้มออกจาก สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ให้ได้เสียก่อน ถ้าทำไม่ได้ คงไม่ต้องรอให้จอร์จ จิลเล็ตต์
หรือใครๆ มาบอกหรอกนะว่า ใครควรจะเป็นคนรับผิดชอบ !?!