หลังจากผ่านช่วงเวลา กันยาหรรษา กันมา คลับคล้ายคลับคลาว่า หงส์แดง เราจะเจอกับ ตุลาทมิฬ เสียแล้วสิครับ ต่อเนื่องมาเลยจากเกมพ่ายแพ้แบบหมดรูปต่อทีมสีม่วงจากกัลโช่ซีรี่ย์ อา ในช่วงปลายเดือนกันยา ยาวมาจนถึงเกมเปิดหัวของเดือนใหม่ในเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ แม้ว่าราฟา และ ขุนพลนักเตะตัวหลัก ๆ จะออกมากัดฟันบอกว่าอย่าเพิ่งกาชื่อหงส์เราออกจากกลุ่มทีมลุ้นแชมป์ เพราะเส้นทางยังอีกยาวไกล แต่นั่นคือในแง่ของภาพรวมเท่านั้น ถ้ามองไปถึงรายละเอียด ปัญหาในทีมแล้ว ถามหน่อยว่าแฟน ๆ คนไหนจะไม่หวั่นใจบ้างในเวลานี้ กองหลังที่เตยเป็นจุดแกร่งของหงส์แดงในช่วงที่ ราฟา เบนิเตซ มาคุมทีม ก็เกิดอาการสะดุด ไม่ลงตัว แม้คู่เซนเตอร์จะเป็นคู่เดิมเลยระหว่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ และ สเคอร์เทล แต่อย่าลืมนะครับว่า ซ้าย และ ขวา มีการเปลี่ยนแปลง เรามีแบ็คที่บุกดีอย่าง เกล็น จอหน์สัน และ อินชัว เข้ามา แทนที่ แบ็คความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏอย่าง อาร์เบลัว นักเตะคนละสไตล์กัน หมายถึงในแง่แท็กติกต้องมีการปรับแน่นอน.... และเมื่อบวกกับความถดถอยในเรื่องของสภาพร่างกายที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ของ คาร์ร่า กองหลังลิเวอร์พูลตอนนี้เลยเป็นขนมหวานสำหรับหลาย ๆ ทีมเลย.... มาว่ากันต่อ.....การเล่นเกมรับไม่ได้มีการใช้แค่นักเตะในแบ็คโฟร์เท่านั้นในการเล่น นั่นหมายถึงเราต้องมองย้อนขึ้นไปถึงแดนกลาง....ที่เรียกว่าเคยเป็นอีกหนึ่งหัวใจของทีม ที่สามารถบอกกับชาวโลกได้เลยว่า เรามีแผงกลางที่ดีที่สุดทีมนึงในยุโรป แต่วันนี้หละ..... อาการเป๋ของการที่ไร้ ซาบี้ อลอนโซ่ เริ่มเด่นชัดขึ้นทุก ๆ วัน การขาด มันสมอง ที่คอยคอนโทรลเกมกลางสนาม ไปทำให้สปีดและประสิทธิภาพในการทำเกมรุก และ การชะลอเกมรับ ขาดหายไปอย่างเห็นได้ชัด คู่หูแซมบ้า-ฟ้าขาว อย่าง ลูคัส เลว่า และ ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ ยังไม่ใช่คนที่เหมาะสม พวกเขาเหมาะจะเป็นผึ้งงานมากกว่า หากเปรียบมิดฟิลด์ตัวรับของหงส์แดงคือ ขุนพลโล่ห์ไว้ป้องกัน มิดฟิลด์ตัวรุกอย่าง เบนายูน บาเบิล ริเอร่า เค้าท์ และ เจอร์ราร์ด เป็นขุนพลทะลวงฟัน ตำแหน่งของ ซาบี อลอนโซ่ ก็ต้องเป็น เสนาธิการ ดี ๆ นี่เองเราไม่ได้กำลังเล่นเกมอยู่ ที่สามารถเอานักเตะคนไหนมาสวมตำแหน่ง เสธฯ ได้ง่ายๆ สิ่งนี้ราฟามั่นใจในตัวเองมากไปหรือเปล่า.... Put the right man in the right job ... ประโยคเบสิคยอดฮิตนี้น่าจะเป็นปรัชญาที่หยิบยกมาคิดได้แล้วนะครับ เฮียหนวด หลายเกมที่เราเริ่มต้นด้วยการใช้ ลูคัส-มาสเช ในการคุมแดนกลาง เพื่อเปิดอิสระให้กับ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด เป็น หัวใจ ในการทะลุทะลวงและทำเกมคู่กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ในเกมที่คู่ต่อกรต่ำชั้นกว่า แท็คติกนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพที่เข้าเป้ามาก แต่พอมาเจอทีมที่แข็งแกร่งแล้วหละก็.... หงิกสิครับที่ผ่านมา เจอร์ราร์ด ทำเกมไม่ได้ สองคู่หูอเมริกาใต้จุดเด่นก็เป็นการปัดกวาด ปีกสองข้างของทีมก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่ใช่ตัวพลิกเกมที่ไว้ใจได้ตลอดเวลา ในความหมายของผมตัวพลิกเกมมันต้องแบบ หลุยส์ การ์เซีย หรือ แม้กระทั่ง ปีเตอร์ เคร้าช์ ที่ลงมาเป็นทีเด็ดฝากผีฝากไข้ให้ทำประตูได้ก็ แต่นี่ในเมื่อเราไม่มีตัวพลิกเกมดี ๆ เลย เกมรุกทำไม่ได้ โมเมนตัมมันก็เปลี่ยนไปเป็นธรรมดา คู่แข่งที่แข็งๆ พอดักทางเราได้ รู้ว่าเราไปไหนไม่เป็น พวกเขาก็มั่นใจแล้วว่าหงส์ไม่มีอะไรในกอไผ่แน่ ดังนั้นจึงเปิดเกมรุกสู้ มันไม่ต่างอะไรกับ น้ำที่ทะลักเขื่อนออกมาเลย ... แม้ว่าเขื่อนจะแน่นหนาเพียงใด แต่ถ้ามีรอยรั่วเพียงเล็กน้อย มันก็พร้อมแตกแน่นอนครับ ช่องว่างระหว่างลูคัส และ มาสเช ยังมีอยู่อย่างเห็นได้ชัด การสอดแทรกประสานงานไม่เนียนเหมือนกับการที่มี อลอนโซ่ เมื่อหลุดกลางมาแล้ว หลังที่เอาแน่เอานอนยังไม่ได้ในช่วงเวลาของการผลัดใบ มีหรือจะเอาอยู่ ... ถ้าเอา หัวใจ อย่างเจอร์ราร์ดลงมาคุมเกมแทนคนใดคนนึง สภาพเกมรับอาจจะดูดีมากขึ้น แต่เกมรุกที่ควรจะใช้กดดันคู่แข่งมันก็จะอับจนหนทางไปด้วยเพราะเราขาดตัวที่พึ่งพาได้ (ถ้าไม่ใช้วิธีโยนให้ ตอร์เรสควบไปยิงคนเดียวนะ) และมันก็จะวนกลับมาเหตุผลเดิม คู่แข่งที่แข็งๆ พอดักทางเราได้ รู้ว่าเราไปไหนไม่เป็น พวกเขาก็มั่นใจแล้วว่าหงส์ไม่มีอะไรในกอไผ่แน่ ดังนั้นจึงเปิดเกมรุกสู้ มันไม่ต่างอะไรกับ น้ำที่ทะลักเขื่อนออกมาเลย ... จุดนี้แสดงให้เห็นอย่างง่ายๆ เลยว่า ปัญหาที่เราเสียประตูบ่อยๆ และ แฟน ๆ ต้องกุมขมับอยู่เนืองๆ ในช่วงหลังนั้น มันไม่ได้เกิดจากกองหลังเท่านั้นที่ต้องรับผิดชอบเพียงผู้เดียว..... บางทีสิ่งนี้อาจจะเป็นบทสรุปที่แสดงให้เห็นว่า มีแค่ หัวใจ ที่เกินร้อย มันก็คงยังไม่เพียงพอหากไรซึ่ง มันสมอง .... ราฟาครับ ผมไม่รู้ว่า อาควิลานี่ เก่งมากแค่ไหน แต่ดูหน้าตาแล้วมีแววจะเป็น มันสมอง คนใหม่ของทีมได้ ช่วยปั้นแกให้เป็นแบบนั้นหน่อย ความสมดุลจะได้คืนกลับมาสู่แอนฟิลด์อีกครั้ง.... http://board.liverpool.in.th | |||
สิ่งที่หงส์แดงขาดหายไป
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!