มนุษย์ไม้ เจมี คาราเกอร์ ปราการหลัง รองกัปตันทีมลิเวอร์พูล ชู หงส์แดง เป็นราชันการคัมแบ็ค หลังจากตกเป็นรองโบลตัน ถึง 2 ครั้ง แต่กลับมาเก็บชัยชนะได้ในที่สุด พร้อมทั้ง ระบุ ที่ผ่านมา ๆ ยอดทีมแห่งเมอร์ซีไซด์ ก็มีผลงาน
การคัมแบ็คที่สุดประทับใจมากมาย และคู่ควรกับตำแหน่ง คิง ออฟ คัมแบ็ค มากที่สุด
พร้อมกันนี้ เดอะ มิเรอร์ สื่อใหญ่ของอังกฤษ ได้สรุป สุดยอดเกมคัมแบ็คของหงส์แดงไว้ดังนี้
อันดับ 10 เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2004 ที่ คราเวน ค็อตเทจ ของ ฟูแลม หงส์แดง ตามหลัง 0-2 ในครึ่งเวลาแรก แต่ครึ่งหลัง 4 ลูกรวด จาก ชาบี อลอนโซ , มิลาน บารอส , แซด ไนท์ (ทำเข้าประตูตัวเอง) และ อีกอร์ บิสคาน ลิเวอร์พูล ชนะ 4-2
อันดับ 9 เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2007 เกมที่ กูดิสัน ปาร์ค ของ เอฟเวอร์ตัน เป็นเกม ดาร์บี้แม็ตช์ ซึ่งเกมดังกล่าว หงส์แดงตามหลัง 0-1 ในครึ่งแรก เมื่อ ซามี ฮูเปีย ทำเข้าประตูตัวเอง ก่อนตามตีเสมอได้ น.54 จาก เดิร์ก เคาท์ และ สตีเวน
เจอร์ราร์ด ช่วยให้ได้จุดโทษ ก่อนที่ เคาท์ จะซัดเข้าไป ช่วยให้ทีมชนะไป 2-1
อันดับ 8 เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2008 เป็นเกมในแอนฟิลด์ ซึ่งหงส์แดง ตามหลัง มิดเดิลสโบรซ์ ในนาที 70 จาก อาเหม็ด มิโด แต่ก็มาได้ประตูจาก เจมี คาราเกอร์ และ สตีเวน เจอร์ราร์ด ยิงแซงพาทีมชนะ 2-1
อันดับ 7 เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2008 ที่ สนามซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ ซึ่งถูกเจ้าถิ่นเรือใบนำก่อน 2-0 แต่มาได้ สตีเวน เจอร์ราร์ด ,เฟอร์นันโด ตอร์เรส และ เดิร์ค เคาท์ ยิงคนละประตู พาทีมแซงเจ้าถิ่นเก็บ 3 แต้ม ด้วยสกอร์ 3-2
อันดับ 6 เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2009 ที่ รีบ็อค สเตเดี้ยม ซึ่งตกเป็นฝ่ายตามหลังโบลตัน ถึง 2 ครั้ง 2 ครา แต่ก็สามารถตามตีเสมอได้ทั้ง 2 ครั้ง ก่อนที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด จะมายิงประตูสุดสวยช่วยทีมกู้หน้า คว้าชัย 3-2 เก็บ 3 แต้มไปได้
อันดับ 5 เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2006 เป็นเกม เอฟเอ คัพ กับ ลูตัน ทาวน์ ทีมระดับแชมเปี้ยนส์ชิพ ซึ่งหงส์แดง ตามหลัง 1-3 ในช่วงครึ่งแรก ก่อนที่ ฟลอร็องต์ ซินามา ปองโกล จะทำ 2 ประตูไล่มาเป็น 3-3 ก่อนที่ชาบี อลอนโซ จะทำอีก 2 ประตู โดย 1 ใน 2 ประตูนั้น เป็นการยิงไกลเกินครึ่งสนาม จากแดนตัวเอง ชนะไป 5-3
อันดับ 4 เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2004 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ โอลิมเปียกอส ซึ่ง ริวัลโด ยิงให้ทีมเยือนนำก่อนในครึ่งแรก แต่ ฟลอร็องต์ ซินามา ปองโกล , นีล เมเลอร์ และ สตีเวน เจอร์ราร์ด มายิงคนละประตูในครึ่งหลังพาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
อันดับ 3 เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2006 เกมชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กับ เวสต์แฮม ซึ่ง หงส์แดง ตามหลัง 0-2 ก่อนตามตีเสมอ 2-2 ได้ใน 90 นาที และโดนนำอีกครั้ง ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ก่อนที สตีเวน เจอร์ราร์ด จะยิงไกล 35 หลา ตีเสมอเป็น 3-3 และคว้าแชมป์ไปครองได้ด้วยการชนะดวลจุดโทษ 3-1
อันดับ 2 วันที่ 8 เม.ย.2008 เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ อาร์เซนอล ซึ่งต้องตามหลัง 0-2 ก่อน แต่ก็มาได้ 4 ประตูรวด โดยเกมนี้ ไรอัน บาเบล กัสตีเวน เจอร์ราร์ด รับบทเป็น ฮีโร่ของทีม
อันดับ 1 วันที่ 25 พ.ค.2005 เป็นสุดยอดเกมคัมแบ็ก ช็อกโลกของลิเวอร์พูล ในเกมนัดชิงยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก กับ เอซี มิลาน ซึ่งตกเป็นรองถึง 0-3 ในครึ่งแรก แต่มาได้ 3 ประตูรวด ในเวลาเพียงแค่ 8 นาทีของครึ่งหลัง จากนั้นก็ทำอะไรกันไม่ได้ และคว้าแชมป์ด้วยการชนะในการดวลจุดโทษ โดย เจอร์ซี ดูเด็ค เป็นฮีโร่ คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
อันดับ 10 เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2004 ที่ คราเวน ค็อตเทจ ของ ฟูแลม หงส์แดง ตามหลัง 0-2 ในครึ่งเวลาแรก แต่ครึ่งหลัง 4 ลูกรวด จาก ชาบี อลอนโซ , มิลาน บารอส , แซด ไนท์ (ทำเข้าประตูตัวเอง) และ อีกอร์ บิสคาน ลิเวอร์พูล ชนะ 4-2
อันดับ 9 เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2007 เกมที่ กูดิสัน ปาร์ค ของ เอฟเวอร์ตัน เป็นเกม ดาร์บี้แม็ตช์ ซึ่งเกมดังกล่าว หงส์แดงตามหลัง 0-1 ในครึ่งแรก เมื่อ ซามี ฮูเปีย ทำเข้าประตูตัวเอง ก่อนตามตีเสมอได้ น.54 จาก เดิร์ก เคาท์ และ สตีเวน
เจอร์ราร์ด ช่วยให้ได้จุดโทษ ก่อนที่ เคาท์ จะซัดเข้าไป ช่วยให้ทีมชนะไป 2-1
อันดับ 8 เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2008 เป็นเกมในแอนฟิลด์ ซึ่งหงส์แดง ตามหลัง มิดเดิลสโบรซ์ ในนาที 70 จาก อาเหม็ด มิโด แต่ก็มาได้ประตูจาก เจมี คาราเกอร์ และ สตีเวน เจอร์ราร์ด ยิงแซงพาทีมชนะ 2-1
อันดับ 7 เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2008 ที่ สนามซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ ซึ่งถูกเจ้าถิ่นเรือใบนำก่อน 2-0 แต่มาได้ สตีเวน เจอร์ราร์ด ,เฟอร์นันโด ตอร์เรส และ เดิร์ค เคาท์ ยิงคนละประตู พาทีมแซงเจ้าถิ่นเก็บ 3 แต้ม ด้วยสกอร์ 3-2
อันดับ 6 เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2009 ที่ รีบ็อค สเตเดี้ยม ซึ่งตกเป็นฝ่ายตามหลังโบลตัน ถึง 2 ครั้ง 2 ครา แต่ก็สามารถตามตีเสมอได้ทั้ง 2 ครั้ง ก่อนที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด จะมายิงประตูสุดสวยช่วยทีมกู้หน้า คว้าชัย 3-2 เก็บ 3 แต้มไปได้
อันดับ 5 เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2006 เป็นเกม เอฟเอ คัพ กับ ลูตัน ทาวน์ ทีมระดับแชมเปี้ยนส์ชิพ ซึ่งหงส์แดง ตามหลัง 1-3 ในช่วงครึ่งแรก ก่อนที่ ฟลอร็องต์ ซินามา ปองโกล จะทำ 2 ประตูไล่มาเป็น 3-3 ก่อนที่ชาบี อลอนโซ จะทำอีก 2 ประตู โดย 1 ใน 2 ประตูนั้น เป็นการยิงไกลเกินครึ่งสนาม จากแดนตัวเอง ชนะไป 5-3
อันดับ 4 เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2004 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ โอลิมเปียกอส ซึ่ง ริวัลโด ยิงให้ทีมเยือนนำก่อนในครึ่งแรก แต่ ฟลอร็องต์ ซินามา ปองโกล , นีล เมเลอร์ และ สตีเวน เจอร์ราร์ด มายิงคนละประตูในครึ่งหลังพาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
อันดับ 3 เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2006 เกมชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กับ เวสต์แฮม ซึ่ง หงส์แดง ตามหลัง 0-2 ก่อนตามตีเสมอ 2-2 ได้ใน 90 นาที และโดนนำอีกครั้ง ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ก่อนที สตีเวน เจอร์ราร์ด จะยิงไกล 35 หลา ตีเสมอเป็น 3-3 และคว้าแชมป์ไปครองได้ด้วยการชนะดวลจุดโทษ 3-1
อันดับ 2 วันที่ 8 เม.ย.2008 เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ อาร์เซนอล ซึ่งต้องตามหลัง 0-2 ก่อน แต่ก็มาได้ 4 ประตูรวด โดยเกมนี้ ไรอัน บาเบล กัสตีเวน เจอร์ราร์ด รับบทเป็น ฮีโร่ของทีม
อันดับ 1 วันที่ 25 พ.ค.2005 เป็นสุดยอดเกมคัมแบ็ก ช็อกโลกของลิเวอร์พูล ในเกมนัดชิงยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก กับ เอซี มิลาน ซึ่งตกเป็นรองถึง 0-3 ในครึ่งแรก แต่มาได้ 3 ประตูรวด ในเวลาเพียงแค่ 8 นาทีของครึ่งหลัง จากนั้นก็ทำอะไรกันไม่ได้ และคว้าแชมป์ด้วยการชนะในการดวลจุดโทษ โดย เจอร์ซี ดูเด็ค เป็นฮีโร่ คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว และรูปภาพ คุณภาพดี โดย: INN NEWS
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
