ซิสเซ่ลงโชว์ทีเด็ดนำหงส์จิกแชมป์ซูเปอร์คัพ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 สิงหาคม 2548 04:21 น.

ฌิบริล ซิสเซ่ ลงมาเป็นตัวสำรองทีเด็ดช่วยกระทุ้ง 2 ประตู จ่ายอีกหนึ่งให้ หงส์แดง ลิเวอร์พูล พลิกกลับมาเอาชนะ ซีเอสเคเอ มอสโค 3-1 ซิวแชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ประจำฤดูกาล 2005/06 มาครอง

ฟุตบอล ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 3-1 ซีเอสเคเอ มอสโค (รัสเซีย)

ราฟาเอล เบนิเตซ นำลูกทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล พกพาศักดิ์ศรีแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เดินทางมายังสต๊าด หลุยส์ เดอซ์ ในโมนาโก เพื่อหวังคว้าแชมป์ซูเปอร์คัพ อย่างไรก็ตามเกมนี้ไม่สามารถใช้งาน สตีเว่น เจอร์ราร์ด ซึ่งมีปัญหาเจ็บน่อง แต่ก็ส่ง ดีทมาร์ ฮามันน์ ลงมาจับคู่แดนกลางกับ ซาบี้ อลอนโซ่ และก็ให้ หลุยส์ การ์เซีย ยืนเป็นหน้าต่ำคอยสนับสนุนงานของ เฟอร์นานโด มอริเอนเตส กองหน้าตัวเป้า

ด้าน ซีเอสเคเอ มอสโค แชมป์ยูฟ่า คัพ กุนซือ วาเลรี่ กาซซาเยฟ ได้รับข่าวดีเมื่อ ว้ากเนอร์ เลิฟ กองหน้าตัวเก่งผ่านความฟิตกลับมาลงสนามเป็นตัวเป้า ส่วนในแผงรับก็อยู่กันครบครันโดยมีสองพี่น้อง เบเรซูต์สกี้ เป็นตัวค้ำ แดนกลางมี ดาเนี่ยล คาร์วัลโญ่ เป็นตัวทีเด็ด

เริ่มเกมขึ้นมา ลิเวอร์พูล ดีกรีแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เดินเกมบุกขู่ใส่ ซีเอสเคเอ มอสโค ทันทีและก็ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะยิงไกลของ ฮามันน์ แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ อคินเฟเยฟ นายทวารดาวรุ่งทีมชาติรัสเซีย

แม้ว่ามอสโคจะได้โอกาสทำเกมสวนกลับไปบ้างจาก เลิฟ ศูนย์หน้าตัวเป้าชาวบราซิเลียน แต่ผ่านช่วง 20 นาทีแรก ดูเหมือนว่าลิเวอร์พูลจะเป็นฝ่ายขึงเกมบุกได้แล้วโดย การ์เซีย ได้โอกาสซัดไกลสองครั้งแต่ก็ไม่เข้ากรอบทั้งสองหน

อีกเจ็ดนาทีถัดมา ประตูแรกของเกมเกือบจะเกิดขึ้นเมื่อ คาสซิช พาบอลขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนหักเข้าขวาปั่นไซด์บอลพุ่งผ่านมือเรน่า แต่ก็เฉียดเสาออกไป อย่างไรก็ตาม นาทีถัดมาแฟนๆ จากรัสเซียก็ได้เฮกันลั่นเมื่อ เลิฟ แทงทะลุให้คาร์วัลโญ่ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดบอลลอดแขนเรน่า ซึ่งพยายามออกมาปิดมุมซุกตาข่ายส่งให้ ซีเอสเคเอ มอสโค ทะยานนำ 1-0

เมื่อเสียประตูไป ลิเวอร์พูล โหมเกมบุกหนักเป็นระลอก มอริเอนเตส ชงบอลให้การ์เซีย หลุดเข้าไปในเขตโทษแต่จังหวะง้างเท้ายิง อิ๊กนาเชวิช แหย่เท้าสกัดออกไปได้หวุดหวิด เมื่อจบ 45 นาที เป็นทางมอสโคที่รักษาความได้เปรียบเอาไว้ได้

เปิดฉากครึ่งหลัง ลิเวอรพูล ดูจะยังไม่สามารถตั้งเกมของตัวเองได้ และเมื่อโดนโต้กลับก็ต้องอาศัยจังหวะตัดฟาล์วและก็เกือบจะโดน คาร์วัลโญ่ เล่นงานอีกจากลูกฟรีคิกแต่โชคดีที่บอลลอยข้ามคานออกไป

ลิเวอร์พูล มาได้โอกาสลุ้นจากการเติมเกมของโฆเซมี รับบอลจากลูกไขว้ของการ์เซีย เข้าไปยิงด้วยขวาเต็มๆ แต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานไป ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม หงส์แดงเริ่มตีบตันในการบุก เนื่องจากผู้เล่นมอสโค ลงไปขึงเกมรับแบบเต็มกำลังทำให้ ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงโยนเข้าไปลุ้นแต่ยังไม่ได้ผล

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูลได้ลุ้นจากลูกเตะมุม คาร์ราเกอร์ ได้โหม่งชงให้การ์เซีย แต่อคินเฟเยฟ เข้าถึงบอลได้ก่อน เกมมาถึงนาทีที่ 82 เหล่าเดอะ ค็อปที่เดินทางตามมาเชียร์จากอังกฤษ ได้เฮกันลั่นเมื่อ เรน่าเปิดบอลยาวให้การ์เซีย พักอกเข้าเขตโทษอิ๊กนาเชวิช เตะสกัดไปโดน แขน ฌิบริล ซิสเซ่ ตัวสำรอง ทำให้อคินเฟเยฟ เสียจังหวะและซิสเซ่ ก็เข้าไปซ้ำบอลตุงตาข่ายให้ หงส์แดงตามตีเสมอ 1-1 สำเร็จ เมื่อครบ 90 นาที ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ยังทำเกมได้ดีกว่าและมาได้ประตูออกนำ 2-1 ในนาทีที่ 103 เมื่อซิสเซ่ หลุดเดี่ยวเข้าไปกระทุ้งติดมืออคินเฟเยฟ ในจังหวะแรกแต่ก็ยังซ้ำจังหวะสองตุงตาข่าย

ในการต่อเวลาครึ่งหลัง มอสโคพยายามทำเกมบุกเพื่อลุ้นตีเสมอ คาร์วัลโญ่ โชว์ทักษะงัดบอลเข้าเขตโทษให้เลิฟง้างเท้ายิงแต่เซนเด้น วิ่งลงมาช่วยสกัดไว้ทัน แต่มาถึงนาทีที่ 109 ลิเวอร์พูล ใช้จังหวะสวนกลับ ฮามันน์ จ่ายทะลุให้ซิสเซ่ หลุดขึ้นไปเปิดบอลจากฝั่งขวาให้ การ์เซีย โขกโล่งๆ ซุกตาข่ายทำให้หงส์แดงทะยานนำห่าง 3-1 และก็เอาชนะไปได้ คว้าโทรฟี่ย์แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ กลับเกาะอังกฤษสำเร็จ

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ่ เรน่า , โฆเซมี่ , เจมี่ คาร์ราเกอร์ , ซามี่ ฮูเปีย , ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ , สตีฟ ฟินแนน , ดีทมาร์ ฮามันน์ , ซาบี้ อลอนโซ่ , เบาเดอไวน์ เซนเด้น , หลุยส์ การ์เซีย , เฟอร์นานโด มอริเอนเตส

ซีเอสเคเอ มอสโค : อีกอร์ อคินเฟเยฟ , ชิดี้ โอเดียห์ , วาสซิลี่ เบเรซูต์สกี้ , อเล็กเซ เบเรซูต์สกี้ , เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช , เยฟเกนี่ อัลโดนิน , เอลเวียร์ ราฮิมิช , มิลอส คาสซิช , ยูริ เซอร์คอฟ , ดาเนี่ยล คาร์วัลโญ่ , ว้ากเนอร์ เลิฟ