เปลือยใจ สตีฟ แม็คมาน ตำนานหงส์ อิน ไทยแลนด์
วันที่ 22 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ ลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งเวที พรีเมียร์ชิป อังกฤษ มีคิวลงสนามอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทยภายใต้ชื่อการแข่งขัน “เดอะ ค็อป คัมส์ ทู เอเชีย 2009” ซึ่ง สตีฟ แม็คมาน อดีตนักเตะหงส์แดงยุครุ่งเรืองในทศวรรษ 80 ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายการค้า (commerical director) ของบริษัท โพรฟิทเอเบิล กรุป ซึ่งเป็นฝ่ายจัดการแข่งขันแมตช์ดังกล่าวได้เดินทางมาตรวจความพร้อมและมีโอกาสพูดคุยกับทีม MGR Sport เมื่อเวลา 12.00 น.วันพุธที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมาในประเด็นต่างๆไม่ว่าจะเป็นความคืบหน้าในการจัดการแข่งขันแมตช์ หงส์ ปะทะ ช้างศึก ตลอดจนประสบการณ์การค้าแข้งในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี การรับงานผู้บรรยายและนักวิเคราะห์ฟุตบอลทาง อีเอสพีเอ็น สถานีโทรทัศน์กีฬาชื่อดังไปจนถึงโอกาสลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดของทีมดังแห่งถิ่นเมอร์ซีไซด์หลังอกหักมาถึง 20 ฤดูกาลติดต่อกัน ซึ่งทั้งหมดของบทสัมภาษณ์แฟนๆ MGR Sport สามารถติดตามได้จากบรรทัดต่อจากนี้
ก่อนอื่นขอถามถึงกระเเสตอบรับของแฟนฟุตบอลชาวไทยที่มีต่อ “เดอะ ค็อป คัมส์ ทู เอเชีย 2009” เป็นอย่างไรบ้าง?
แม็คมาน : ความตื่นตัวของแฟน ลิเวอร์พูล ในเมืองไทยมหัศจรรย์และสุดยอดมากๆ ทางเราจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันไปได้แล้ว 40,000 ใบ (ทั้งหมด 48,000 ใบ) ก่อนหน้านี้ผมแค่คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจเข้าใจเข้ามาเรื่อยๆแต่ไม่คิดว่าจะมีกระเเสฟีเวอร์แห่กันมาซื้อตั๋วในเวลาอันรวดเร็วจนตอนนี้เหลือแค่ 8,000 ใบ ซึ่งถ้ามีใครต้องพลาดโอกาสได้ชมการแข่งขันของทีมชาติไทยกับหนึ่งในทีมฟุตบอลที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเพราะซื้อตั๋วไม่ทันคงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก
บริษัท โพรฟิทเอเบิล กรุ๊ป เตรียม เซอร์ไพรส์ อะไรไว้ใน “เดอะ ค็อป คัมส์ ทู เอเชีย 2009” บ้าง ?
แม็คมาน : เราต้องการสร้างการแข่งขันในครั้งนี้ให้กลายเป็น เทศกาล ไม่ใช่แค่เกมฟุตบอลดังนั้นเราจึงไม่อยากเห็นแฟนๆเดินทางมาสนามเพื่อชมเกม 90 นาทีแล้วกลับบ้านไป เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะขอให้แฟนๆ มาถึงสนามก่อนแข่งสัก 2-3 ชั่วโมงเพื่อร่วมซึมซับบรรยากาศไปพร้อมๆกัน ซึ่งแน่นอนว่าทางฝ่ายจัดการแข่งขันมีกิจกรรมพิเศษที่จะช่วยปลุกพวกคุณให้มีชีวิตชีวาขึ้นมา
ในฐานะที่รู้จักกับ ปีเตอร์ รีด ผู้จัดการทีมชาติไทยมานานคุณได้ข้อมูลเกี่ยวกับทีมไทยจากเขาบ้างหรือไม่?
แม็คมาน : ถ้าผมไปถามแผนการเล่นเขาก็คงไม่บอกแน่ (หัวเราะ) แต่เท่าที่ผมรู้คือ ทีมไทยเป็นทีมที่แข็งแกร่งเล่นด้วยยาก นักเตะมีเทคนิคค่อนข้างดีและมีความขยันในการไล่บอล ซึ่งนักเตะลิเวอร์พูลเองก็น่าจะได้ประโยชน์จากการแข่งขันแมตช์นี้ ดังนั้นผมจึงยืนยันได้ว่า ลิเวอร์พูล จะนำทีมชุดใหญ่เดินทางมาตามสัญญาที่ให้ไว้แน่นอนไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นันโด ตอร์เรส ,สตีเวน เจอร์ราร์ด หรือว่านักเตะที่เรากำลังจะซื้อเข้ามาใหม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจมีข้อยกเว้นในกรณีที่นักเตะคนหนึ่งคนใดได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านั้น ซึ่งแน่นอนว่านักเตะซึ่งไปเล่นฟุตบอล คอนเฟเดอเนชันส์ คัพ อยู่ที่ แอฟริกาใต้ ในเวลานี้ค่อนข้างเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ
นักฟุตบอลลิเวอร์พูลถามคุณเกี่ยวกับประเทศไทยบ้างไหม?
แม็คมาน : แน่นอนพวกเขาให้ความสนใจกับการมาเยือนเมืองไทยในเดือนหน้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ เจมี คาร์ราเกอร์ ถามผมเป็นการส่วนตัวหลายครั้ง พวกเขาอยากมาสัมผัสกับวัฒนธรรมแบบเอเชีย อยากพบกับแฟนๆทั้งชาวไทยและชาวสิงคโปร์ที่ ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมไปเยือนหลังจากบินออกจากกรุงเทพ
แฟนฟุตบอลอังกฤษกับแฟนฟุตบอลเอเชียมีความแตกต่างในด้านใดบ้าง?
แม็คมาน : แน่นอนว่ามีความแตกต่างในหลายๆด้าน ดังนั้นผมจึงอยากจะสร้างบรรยากาศการเชียร์ฟุตบอลแบบ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาอยู่ที่ราชมังคลากีฬาสถานเพื่อให้คนไทยได้สัมผัสในเดือนกรกฎาคมนี้ด้วยการสร้างอัฒจันทร์ เดอะ ค็อป (ขอ งแอนฟิลด์) ขึ้นมาโดยมีแฟนบอลกว่า 20,000 คนเข้ามามีส่วนร่วมซึ่งทุกคนจะได้รับผ้าพันคอและได้ร้องเพลง ยู วิล เนเวอร์ วอล์ก อโลน ร่วมกัน
ถามถึง ลิเวอร์พูล บ้าง ลองเปรียบเทียบทีมยุคปัจจุบันกับทีมชุดที่ได้แชมป์ลีกหนสุดท้ายในปี 90 ?
แม็คมาน : คำถามนี้ตอบยากเพราะฟุตบอลเปลี่ยนแปลงไปมากเหลือเกิน ซึ่งผมเองก็อยู่ในทีมชุดนั้นด้วย หลังจากได้แชมป์ในครั้งนั้นสโมสรของเราค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆและต้องรอคอยการเป็นแชมป์ลีกในประเทศมาถึง 19 ฤดูกาล แต่ในฤดูกาลหน้าผมว่าทีมของเรามีโอกาสเป็นแชมป์ลีกมาที่สุดแล้วเพราะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเสียผู้เล่นชั้นยอดอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ไปให้ รีล มาดริด ซึ่งแน่นอนว่าฟอร์มการเล่นของพวกเขาจะต้องอ่อนลงอย่างแน่นอน แต่ถ้าอยากเป็นแชมป์ลีก ลิเวอร์พูล ก็จำเป็นต้องดึงผู้เล่นชั้นยอดเข้ามาเพิ่มด้วยเช่นกัน
อะไรคือส่วนเติมเต็มสำหรับทีม ลิเวอร์พูล ชุดนี้เพื่อที่จะก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์?
แม็คมาน : ศูนย์หน้าระดับโลกอย่าง ดาวิด บีญา น่าจะเข้ามาเสริมทีม ลิเวอร์พูล ให้แข็งแกร่งขึ้นได้ เพราะว่า บีญา มีความสามารถยอดเยี่ยมนอกจากนี้ยังประสานงานกับผู้เล่นสเปนในทีมลิเวอร์พูลได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เฟอร์นันโด ตอร์เรส ซึ่งเป็นคู่กองหน้าในทีมชาติสเปน ขณะที่ เกลน จอห์นสัน เป็นนักเตะที่น่าสนใจเพราะเป็นแบ็คขวาที่เดินเกมรุกได้ดี ส่วนแผงกลางของลิเวอร์พูลคงไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมากเพราะค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้ว
นักเตะลิเวอร์พูลผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลในดวงใจของคุณคือใคร?
แม็คมาน : สโมสรลิเวอร์พูลของเราเต็มไปด้วยผู้เล่นชั้นยอดทั้งในอดีตและปัจจุบัน แต่ถ้าให้ผมเลือกสักคนผมคงมองไปที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่ตอนนี้พูดได้เลยว่าเป็นกองกลางที่ดีที่สุดไม่เพียงแค่ของ ลิเวอร์พูล เท่านั้นหากแต่ดีที่สุดในโลกเพราะเขามีคุณสมบัติเพียบพร้อมทั้งการนำทีม ทำประตู เข้าสกัดบอล จ่ายบอลสั้นและวางบอลยาว อย่างเช่นการผ่านบอลระยะ 40-60 หลาซึ่งสำหรับคนอื่นอาจเป็นเรื่องยาก แต่ เจอร์ราร์ด กลับทำให้เราเห็นเป็นประจำ ส่วน ตอร์เรส เป็นยอดกองหน้าคนหนึ่งของโลกแต่ผมเชื่อว่าเขายังพัฒนาฝีเท้าได้ดีกว่านี้อีก ขณะที่ผู้เล่นในยุคผมก็ยังมี เคนนี ดัลกลิช และ แกรม ซูเนส ที่มีฝีเท้าระดับโลกเช่นกัน โดยเฉพาะ ดัลกลิช ผมภูมิใจมากที่ได้เป็นเพื่อนร่วมทีมและเป็นนักเตะที่เขาตัดสินใจซื้อมาร่วมเป็นคนแรกเมื่อเขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีมของ ลิเวอร์พูล(ปี 1985)โดยก่อนหน้านั้นผมเริ่มเป็นนักเตะอาชีพกับ เอฟเวอร์ตัน ก่อนจะย้ายมา แอสตัน วิลลา และมา ลิเวอร์พูล
การเปลี่ยนขั้วจาก เอฟเวอร์ตัน มาสู่รั้ว แอนฟิลด์ ของ ลิเวอร์พูล สร้างความลำบากให้คุณมากแค่ไหน ในเมื่อ 2 ทีมนี้เป็นอริกัน?
แม็คมาน : ผมเกิดในเมือง ลิเวอร์พูล และเลือกเป็นแฟน เอฟเวอร์ตัน แต่นั่นเป็นเเค่อดีตไปแล้วเมื่อผมได้มาอยู่ในทีม ลิเวอร์พูล โดยผมเชื่อว่าตนเองค่อนข้างโชคดีที่ได้เล่นให้กับสองทีมที่ยิ่งใหญ่ในเมืองนี้และเคยเป็นกัปตันทีมของทั้งสองทีมด้วย ซึ่งความโชคดีเหนือสิ่งอื่นใดในความคิดของผมคือแฟนๆทั้งสองทีมรับได้กับความจริงนี้
ได้ยินมาว่าคุณเคยร้องเพลงจนติดชาร์ตอันเพลงฮิตของสหราชอาณาจักรมาแล้ว เรื่องราวมันเป็นอย่างไร?
แม็คมาน : ช่วงต้นทศวรรษ 90 ผมเคยร้องเพลงเกี่ยวกับฟุตบอลติดชาร์ตสหราชอาณาจักรในอันดับที่ 2 มีทั้งเพลงที่ร้องให้ ลิเวอร์พูล คือ แอนฟิลด์ แร็ป ที่ร้องร่วมกับจอห์น บาร์นส์ (อดีตกองกลาง ลิเวอร์พูล) และเพลงที่ร้องในทีมชาติอังกฤษเนื่องในโอกาสที่เราได้อันดับที่ 4 ฟุตบอลโลกปี 1990 คือเพลง เดอะ เวิลด์ อิน โมชัน โดยครั้งนั้นผมขายเทปได้กว่า 400,000 ก็อปปีทำให้ผมได้ทั้งรางวัลแผ่นเสียงทองคำและแผ่นเสียงเงิน แต่หากพวกคุณขอให้ร้องให้ฟังตอนนี้ผมคงไม่ทำเพราะผมขี้อาย (ยิ้ม)
คุณผันตัวเองจากนักฟุตบอลอาชีพมาเป็นผู้บรรยายกีฬาได้อย่างไร?
แม็คมาน : หลังเล่นให้ ลิเวอร์พูล จนถึงช่วงต้นยุค 90 ผมได้ย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี และย้ายต่อมาที่ สวินดอน ทาวน์ ซึ่งผมรับบทบาทเป็นผู้เล่น - ผู้จัดการทีมด้วย ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 1998 และได้ย้ายไปคุมทีม แบล็คพูล จากนั้นก็ข้ามน้ำข้ามทะเลไปรับงานเป็นกุนซือทีม เพิร์ธ กลอรี ใน เอลีก ของ ออสเตรเลีย (ปี 2005) ซึ่งจังหวะนั้นเองซึ่งผมได้พบกับทีมงานผลิตรายการโทรทัศน์จากสิงคโปร์ที่กำลังวางแผนทำรายการกีฬา โดยกำลังหาพิธีกรร่วมอยู่ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมได้เริ่มงานทีวีจนวันนี้ก็ทำมาได้ 4 ปีแล้ว ซึ่งจะว่าไปเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก อย่างไรก็ตามผมไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่เคยตัดสินใจลงไปเพราะในวันนี้ผมมีชีวิตที่สวยงามจริงๆ
คุณมีวิธีเตรียมความพร้อมก่อนจัดรายการโทรทัศน์อย่างไรบ้าง?
แม็คมาน : ก่อนอื่นคุณต้องมีความรู้เกี่ยวกับฟุตบอลและจุดเด่นของนักเตะแต่ละคน ซึ่งการที่ผมเคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อนทำให้มีความรู้ในเรื่องพวกนี้พอสมควรจนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสคริปต์ นอกจากนี้สไตล์การจัดรายการของผมยังเน้นที่การแสดงความเห็นมากกว่าใส่ข้อมูลให้ผู้ชม ดังนั้นผมจึงไม่ต้องทำอะไรมากมายไปกว่าการหาความรู้เพิ่มเติมและซื่อสัตย์กับตนเองรวมถึงแฟนฟุตบอลในการออกความเห็น อย่างกรณีที่ ลิเวอร์พูล เล่นไม่ได้เรื่องผมก็ต้องชี้ให้เห็นว่าพวกเขาผิดพลาดตรงจุดไหน ไม่ใช่มานั่งชมว่า ลิเวอร์พูล เล่นดีเพียงแค่เพราะผมเป็นอดีตนักเตะของทีม
ในมุมมองของกูรูลูกหนัง วงการฟุตบอลอาชีพในเอเชียแตกต่างจากฟุตบอลในอังกฤษอย่างไรบ้าง?
แม็คมาน : ฟุตบอลลีกในเอเชียพัฒนาขึ้นมาเร็วมากในหลายปีหลัง และนับว่ามีองค์ประกอบหลายๆด้านที่เอื้อต่อการพัฒนารุดหน้าต่อไปในอนาคตไม่ว่าจะเป็นสนามฟุตบอล นักเตะดาวรุ่งหรือเงินทุนซึ่งมีมากเพียงพอ แต่จุดหนึ่งที่ผมอยากจะชี้ให้เห็นคือฟุตบอลเอเชียต้องนำวัฒนธรรมฟุตบอลแบบยุโรปเข้ามาทั้งในแง่ของวัฒนธรรมนักเตะหรือวัฒนธรรมการเชียร์ของแฟนบอล รวมถึงโค้ชเก่งๆที่สามารถนำความรู้ทางฟุตบอลยุโรปไม่ว่าจะมาจาก อิตาลี สเปน หรือ อังกฤษ สามารถนำมาปรับใช้กับฟุตบอลเอเชียได้ทั้งนั้น
อนาคต สตีฟ แม็คมาน จะทำอะไรต่อไป?
แม็คมาน : ผมพอใจกับชีวิตในวันนี้มากๆ ที่ยังได้คลุกคลีอยู่กับวงการฟุตบอลในฐานะผู้บรรยายหลังจากเคยเป็นผู้เล่นมาแล้ว ด้านธุรกิจผมก็หวังว่าจะมีส่วนช่วยให้ โพรฟิเอเบิล กรุ๊ป เติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่หากมีสโมสรต่างๆในอังกฤษยื่นข้อเสนอเข้ามาให้กลับเข้าไปคุมทีมก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของอนาคตที่คงไม่มีใครล่วงรู้ได้ แต่ถามว่าพร้อมไหม ผมคงต้องว่าพร้อมเพราะวันนี้ผมมีประสบการณ์และสอบใบอนุญาตโค้ช เอ ไลเซนส์ ของ ฟีฟา ผ่านแล้ว
หากมีข้อเสนอจาก ลิเวอร์พูล เข้ามาขอให้คุณไปช่วยงานโค้ชจะว่าอย่างไร?
แม็คมาน : การได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล นับเป็นความภูมิใจของผมและครอบครัวเสมอ พี่ชายของผม จอห์น แม็คมาน เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเข้าไปทำหน้าที่โค้ชทีมสำรองของ ลิเวอร์พูล แทนที่ แกรี แอบเล็ตต์ แต่สำหรับตัวผมเองคงต้องรอเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง
โดย MGR Online