ลิเวอร์พูล-----นิวคาสเซิล นายกทีมอภิสัส







ลิเวอร์พูล - นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ที่ 3 พ.ค.เวลา 19.30 น.






สัปดาห์นี้คงเป็นสัปดาห์ที่น่าติดตามอีกครั้งหากมีผลแข่งที่แตกต่างกันออกไป หากแมนฯยูฯ บุกไปชนะ โบโร แล้ว หงส์แดง ไม่ชนะนิวคาสเซิล เพราะนั่นหมายความว่าแต้มที่ห่าง 6 จะมีความห่างระยะ 5-8 แต้ม



 แมนฯยูฯ เยือน เดอะ โบโร ก่อนช่วงค่ำวันเสาร์ ขณะที่ ลิเวอร์พูลรับมือนิวคาสเซิล คืนวันอาทิตย์ ถ้าแมนฯยูฯ ไม่ชนะ แต้มพวกเขาจะลดลง กรณีที่ลิเวอร์พูลชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด


 นี่คือสถานะการณ์อันน่าติดตามเมื่อสองทีมนำลุ้นแชมป์ เจอสองทีมกลุ่มลุ้นว่ารอดไม่รอดในพรีเมียร์ลีก ต่างฝ่ายต่างต้องการแต้มเพื่อเป้าหมายของตัวเอง คงเป็นเกมที่สนุกและตื่นเต้นตลอดทุกนาทีอย่างไม่ต้องสงสัย


สถิติ ลิเวอร์พูล - นิวคาสเซิล






























ลิเวอร์พูล ชนะ


เสมอ


นิวคาสเซิล ชนะ


ลีกสูงสุด


70


37


40


เอฟเอ คัพ


4


1


4


ลีก คัพ


1


0


1


รวม


75


38


45


หงส์แดงได้ เจอร์ราร์ด กลับมา
 สภาพทีมลิเวอร์พูลไม่มีปัญหาอะไรแล้วเมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด กลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง นั่นจึงทำให้ ราฟา เบนิเตซ จัดทีมได้อย่างสบายใจไม่ยากลำบากอะไร แนวรับคงใช้ สเคอร์เทิล กับ คาร์ราเกอร์ ตามเดิม แบกสองข้าง อาร์เบลัว น่าจะเป็น ออเรลิโอ ส่วนแดนกลางอาจใช้ เจอร์ราร์ด, อลอนโซ, โดยมาสเชราโน สำรอง เพราะต้องการปีก เดิร์ค เคาต์ กับ เบนายูน ลงเล่น เพื่อเดินเกมรุกริมเส้น


 เป้าหมายคือเดินเกมเต็มที เพื่อให้ เจอร์ราร์ด ได้เล่นกับ ตอร์เรส ข้างหน้า เน้นทำประตูชนะ....ยิ่งแมนฯยูฯ ชนะก่อนยิ่งต้องเน้นมากๆ ลิเวอร์พูลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเล่นให้ชนะสถานเดียว


สาลิกาเริ่มถอดใจ
 อลัน เชียเรอร์ ผจก. ชั่วคราวของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ออกมายอมรับแล้วว่านักเตะชุดนี้ อยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยมั่นใจตัวเองสักเท่าไหร่ และเล่นไปด้วยความรู้สึกกลัว ไม่ว่าจัดชุดไหนก็ตาม


 เกมล่าสุดนัดนี้ทีมค่อนข้างพร้อมสำหรับ สาลิกาดง แต่สภาพจิตใจไม่พร้อมเท่าไหร่ เนื่องจากว่ากลัวตกชั้น และพลาด เล่นเสีย และจะเล่นให้ชนะยังไงยังไม่รู้ ขนาดหลุดเดี่ยวยังทำไม่ได้เลย ดูแล้วเกมนี้ เชียเรอร์ ไม่น่าเลือกกองหน้า 3 คนเหมือนเกมเสมอ พอร์ตสมัธ 0-0


  แนวรับ สตีเฟน เทย์เลอร์ น่าได้กลับมาเล่นคู่กับ โคลอชชินี ส่วนแบกเป็น ฮาบิบ เบย์ กับ เดเมียน ดัฟฟ์ หาก เอนริเก้ไม่หายเจ็บ แดนกลาง อลัน สมิธ กับ นิคกี้ บัตต์ คงช่วยกันตัดเกม โดยริมเส้น เดเมียน ดัฟฟ์ ส่วนข้างหน้า โอเว่น กับ มาร์ติน ยืนคู่กัน


เกมสุดคลาสสิค....
 คู่นี้มักมีสกอร์ไหล ยิงถล่มทลายโดยเฉพาะเล่นที่ แอนฟิลด์ ส่วนใหญ่ หงส์แดง ยิงกระจาย ขนาดเมื่อต้นฤดูกาล สาลิกาโดนไป 5-1 สถิติเก่าๆยืนยันได้ดี ยิ่งปีนี้ หงส์ มีเกมรุกที่ไหลลื่น คงได้ประตูเป็นกอบเป็นกำ กระนั้นหากแนวรับหงส์ประมาท และเลินเล่อ ซึ่งแสดงให้เห็นในหลายเกมที่ผ่านๆ มามีโอกาสโดนเหมือนกัน


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์