ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสแปนิชของ ลิเวอร์พูล มั่นใจ แมนฯยู จ่าฝูง ยังคงมีความกดดันในการป้องกันแชมป์ศึกพรีเมียร์ชิพอยู่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (26 เม.ย.) ว่า ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสแปนิชของ ลิเวอร์พูล ยังมั่นใจว่า แมนฯยู จ่าฝูง ยังคงมีความกดดันในการป้องกันแชมป์ศึกพรีเมียร์ชิพอยู่ แม้ว่าสถานการณ์ล่าสุด ขุนพล "เรดเดวิลส์" จะมีแต้มห่างพวกเขา 3 คะแนน และยังแข่งน้อยกว่า 1 นัดก็ตาม
ลิเวอร์พูล ได้โอกาสขึ้นไปสูดอากาศบริสุทธิ์บนหัวตารางได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากบุกอัด "เสือน้อย" ฮัลล์
ทีมหนีตาย ที่เหลือ 10 คน 3-1 ถึงถิ่นเคซี สเตเดียม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะโดน ลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โชว์ผลงานสุดปาฏิหาริย์ พลิกสถานการณ์จากการตามหลังอยู่ถึง 0-2 ในครึ่งแรก กลับมาแซงเอาชนะ สเปอร์ส 5-2 ในท้ายที่สุด พร้อมกับถีบพวกเขาหล่นมาเป็นพระรองอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม "เอล ราฟา" ยังเชื่อว่า เกมการลุ้นแชมป์ยังคงได้ลุ้นขับเคี่ยวกันต่อไป และ แมนฯยู ก็ยังไม่ผ่อนคลายกับสถานการณ์ที่มีแต้มห่างพวกเขา 3 คะแนน แม้จะได้เปรียบที่แข่งน้อยกว่า 1 นัด ก็ตาม เพราะมั่นใจว่า หากทีมเก็บชัยได้เรื่อยๆ แชมป์เก่าก็อาจตกอยู่ในความกดดันได้เหมือนกัน
เบนิเตซ ระบุว่า
"เราจะต้องเก็บชัยชนะต่อไป เกมฟุตบอลมักจะยากเสมอ และยูไนเต็ดคือยอดทีม แต่ถ้าเราคว้าชัยได้ ผมคิดว่า บางทีพวกเขาอาจจะรู้สึกกดดันกันไปเอง คุณไม่อาจคาดเดาอะไรได้อยู่แล้วในเกมลูกหนัง"
พร้อมกันนี้ อดีตกุนซือ "ไอ้ค้างคาว" บาเลนเซีย ยังได้ชื่นชมลูกทีม "เดอะค็อบส์" ที่บุกอัด ฮัลล์ ท่ามกลางสภาพสนามที่ย่ำแย่ด้วยว่า "มันเป็นเกมที่ยาก สนามก็แย่ มันลำบากที่จะเล่น ลูกบอลไวอย่างกับกระต่าย ที่ยากจะไล่จับ สนามมันทั้งแห้งและยาว มันยากจริงๆ"
"ถ้าคุณแพ้ คุณอาจบอกได้ว่านั่นเป็นข้อแก้ตัว แต่ส.จ.เสียใจ เรากลับเป็นฝ่ายชนะ เปเป้ เรนา ตกอยู่ในความกดดันตลอดเวลา เขาต้องเจอปัญหาในการเล่นกับบอล เราจำเป็นต้องอดทน และพยายามผ่านบอลกันไปมา เรารู้สึกกดดันเล็กน้อย ดังนั้น เครดิตทั้งหมดคงต้องยกให้พวกเขา" นายใหญ่เลือดกระทิงกล่าว
สำหรับ แมนฯยู จ่าฝูง แข่งไป 33 นัด มี 77 คะแนน
ส่วน ลิเวอร์พูล อยู่อันดับ 2 แข่งไปแล้ว 34 นัด มี 74 คะแนน
ขณะที่ อันดับ 3 เป็น เชลซี แข่ง 34 มี 71 คะแนน
อันดับ 4 คือ อาร์เซนอล แข่ง 34 นัด มี 65 คะแนน