เรน่าซูเปอร์เซฟพาหงส์คว้าเเชมป์เอฟเอ คัพ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤษภาคม 2549 23:54 น.

โฆเซ่ เรน่า โชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันจุดโทษให้ ´หงส์เเดง´ ลิเวอร์พูล ชนะจุดโทษ ขุนค้อน เวสต์เเฮม ยูไนเต็ด หลังเสมอกัน 3-3 (ชนะจุดโทษ 3-1)

ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ
ลิเวอร์พูล 3 - 3 เวสต์เเฮม ยูไนเต็ด (ชนะจุดโทษ 3-1)

การเเข่งขันฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 125 ณ สนามมิลเลนเนี่ยม สเตเดี้ยม เมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ โดยมี เจ้าฟ้าชายวิลเลี่ยมส์ พระโอรสองค์โตของเจ้าฟ้าชาย ชาร์ล ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี

ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล นำทัพลูกทีมพร้อมเพรียงเเละมีข่าวดีให้แฟนหงส์เเดงได้เฮ เมื่อ ซาบี้ อลอนโซ่ มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนที่ได้รับบาดเจ็บร่วมสัปดาห์ผ่านความฟิตลงเล่นเป็นตัวจริงได้สำเร็จ โดยขาดเพียงเเค่ 2 คนคือ หลุยส์ การ์เซียที่ติดโทษเเบนยาวจนจบฤดูกาล เเละ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ที่ติดคัพไทเคยเล่นมาเเล้วให้กับ เเมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนัดนี้ เบนิเตซ ปรับระบบการเล่นเป็น 4-5-1 โดยทิ้ง ปีเตอร์ เคร้าช์ ศูนย์หน้าตัวเป้าคนเดียว

ด้าน อลัน พาร์ดิว โค้ชของ ´ขุนค้อน´ เวสต์เเฮม ยูไนเต็ด จัดทีมชุดใหญ่เเละไม่มีปัญหาตัวผู้เล่นเช่นกัน นอกจาก เฮย์เดน มุลลินส์ กองกลางคนสำคัญที่ติดโทษเเบน ทำให้ คาร์ล เฟลชเชอร์ ได้ลงเล่นเเทนในตำเเหน่งมิดฟิดล์ตัวกลาง เวสต์แฮมใช้ระบบ 4-4-2 โดยมีศูนย์หน้ายืนคู่ เป็น ดีน แอสตันเเละมาร์ลอน แฮร์วูด รับหน้าที่สังหารประตู

เริ่มต้นเพียง 24 วินาที พอลเชสกี้เข้าไปทำฟาวล์ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกเเต่ยิงโด่งข้ามคานไปเเบบไม่มีลุ้น ผ่านไป 12 นาทีเเรกเกมยังคงสูสี โดยทั้งสองทีมยังคงไม่พลีผลาม ถัดมาหนึ่งนาที เฟลชเชอร์ ต้องเบรกเกมของเจอร์ราร์ด ทำให้หงส์เเดงได้ฟรีคิกอีกครั้ง เเต่รีเซ่ยิงไม่ผ่านกองหลังของเวสต์เเฮม เข้าสู่นาทีที่ 20 เวสต์เเฮมต่อบอลกันได้สวย เมื่อ สโคลารี่ หลุดเช้กล้ำหน้าเเละต่อบอลให้ ดีน เเอสตัน หลุดขึ้นมายิงทางกราบขวา เเต่ เจมี่ คาราเกอร์สกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง เวสต์เเฮม ขึ้นนำ 1-0

เวสต์เเฮมใช้โอกาสที่ได้เปรียบเข้าบุกใส่ตลอดเวลา เเละทำสำเร็จเมื่อ เอเธอร์ริงตัน ลากบอลขึ้นไปยิงเเละโยกหนีกองหลัง เเต่ทางด้าน เรน่า รับกระเฉาะ แอสตัน วิ่งเข้าหาบอลเเล้วซ้ำเข้าไปไม่เหลือ ขุนค้อนหนีเป็น 2-0

เกมเริ่มสนุกขึ้นเมื่อทั้งสองเริ่มเปิดฉากเเลกกัน ลิเวอร์พูลฉวยโอกาสเล่นเร็วจากลูกฟรีคิก ปีเตอร์ เคร้าช์ หลุดขึ้นไปยิงเข้าประตูเเต่เป็นล้ำหน้า ต่อมา นาทีที่ 32 ลิเวอร์พูลทำสำเร็จ ซิสเซ่ วอลเลย์ตามน้ำจากการผ่านของเจอร์ราร์ด ไล่มาเป็น 2-1 ก่อนจะหมดครึ่งเเรก เวสต์แฮม นำ 2-1

เริ่มครึ่งหลังได้ไม่ถึงนาที เรน่า โชว์ซุปเปอร์เซฟถึง 2 ครั้ง จากการซ้ำของ แฮร์วูดส์ เเละ เอเธอร์ริงตัน ถัดมา คีเวลล์ มีอาการบาดเจ็บ ต้องเปลี่ยนตัว ส่ง เฟอร์นันโด้ มอริเอนเตซ เคร้าช์ผ่านบอลให้เจอร์ราร์ด ซัดระยะไกลเเต่บอลชนคาน หลังจากนั้น คอหงส์ได้เฮกันถ้วนหน้า เมื่อ เคร้าช์ รับบอลจากอลอนโซ่เเละส่งต่อให้ สตีวี่จี ยิงเต็มข้อเสียบสามเหลี่ยมบนเข้าไปอย่างสวยงาม ตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ

หลังจากนั้น แอสตัน โดนใบเหลืองจากการวิ่งเข้าไปเสียบ คาราเกอร์ เเละนาทีที่ 64 คอนเชสกี้ วิ่งลากบอลมาทางกราบซ้ายเเละตั้งใจเปิดบอลให้เพื่อนเเต่กลับเข้าไปเสียบมุมบนอย่างไม่น่าเชื่อ ขุนค้อนหนีไปเป็น 3-2 ถัดมาสองนาที อลอนโซ่ ถูกเปลี่ยนตัวออก เเละ เเยน ครอมแคมป์ ลงมาเล่นเเทน ทางด้าน เวสต์แฮม ส่ง บ็อบบี้ ซาโมร่า ลงมาเล่น ดีน แอสตัน เกมผ่านไป 15 นาที เวสต์แฮมยังคงบุกได้อย่างต่อเนื่องเเละครองพื้นในเเดนกลางมากกว่า พาร์ดิว ต้องปรับเกมเพื่อเน้นเกมรับ โดยถอด คาร์ล เฟลชเชอร์ เเละส่ง คริสเตียน เดลี่ นาทีที่ 75 เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อ เจอร์ราร์ด กลายเป็นฮีโร่จากลูกยิงไกลระยะประมาณ 30 หลา ตีเสมอเป็น 3-3 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ อีก 30 นาที

เริ่มต้นในช่วงต่อเวลาพิเศษ 15 นาทีเเรก เป็นลิเวอร์พูลทที่มีโอกาสมากกว่า เเต่ยังทำอะไรไม่ได้ กลับมาเล่นต่อเเละเป็นผ่ายเวสต์เเฮมบุกหนักเเละได้ลูกเตะมุม เเต่เรน่ายังปัดออกไปได้ หลังจากนั้น แฮร์วูดส์ เจ็บต้องออกมาพักข้างสนามเเต่ไม่นานก็กลับเข้ามาเล่นได้ต่อ
นาทีที่ 114 เวสต์เเฮมได้ฟรีคิก เบเนยูนรับหน้าที่ยิงเเต่กำเเพงลิเวอร์พูลสกัดออกไปได้ เเละเป็นทางด้านหงส์เเดงสวนกลับเร็ว ก่อนหมดเวลา 1 นาที โคเกอร์ ยิงเเต่เรน่ากระโดดปัดเเต่ แฮร์วู้ดส์ ซ้ำพลาดไปอย่างน่าเสียดาย หมดเวลา 120 นาที เสมอ 3-3 ต้องตัดสินกันด้วยลูกจุดโทษ

เเละเป็น เรน่า ที่โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟป้องกันลูกยิงของ ซาโบร่าเเละแอสตัน เฟอร์ดินานด์ ทำให้ ลิเวอร์พูล ชนะไป 3-1 (เสมอ 3-3) คว้าเเชมป์เอฟ เอ คัพไปครองอย่างงดงาม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-5-1): โฆเซ่ เรน่า,สตีฟ ฟินเเนน, ซามี่ ฮูเปีย,เจมี่ คาราเกอร์ , ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่,สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ซาบี อลอนโซ่, โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้, แฮรี่ คีเวลล์, ฌิบริล ซิสเซ่, ปีเตอร์ เคร้าช์

เวสต์เเฮม ยูไนเต็ด (4-4-2): ชาก้า ฮิสล็อป, แอสตัน เฟอร์ดินานด์, เจมส์ คอลลินส์, เเดนนี่ เเก็บบิดอน, พอล คอนเชสกี้, ยอสซี่ เบเนยูน, ไนเจล ริโอ-โคเกอร์, คาร์ล เฟลชเชอร์, เเม็ชทิว เอเธอร์ริงตัน, ลีโอเนล สคาโลนี่, ดีน แอสตัน, มาร์ลอน แฮร์วูด