"บิ๊กแมตช์" ไม่มีที่ว่างสำหรับผู้แพ้ "หงส์-ค้อน" ชิงเอฟเอคัพ
ฌิบริล ซิสเซ่ ดาวยิงหงส์แดงที่เริ่มเรียกฟอร์มเก่งกลับมาโดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 พฤษภาคม 2549 13:06 น.
คงคุ้นหูกันดีกับประโยคที่ว่า ไม่มีที่ว่างสำหรับผู้แพ้ คือวลีเด็ดของศึก เอฟเอ คัพ ที่เดินทางมาถึงนัดชิงชนะเลิศแล้ว ในวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคมนี้ เวลา 3 ทุ่มตรง ซึ่งก็จะได้รู้กันว่าระหว่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล และ ขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ใครจะซิวถ้วยใบเก่าแก่ที่สุดนี้ไปครอง ก่อนปิดฉากศึกฟุตบอลอังกฤษในฤดูกาลอย่างสมบูรณ์แบบ
ลิเวอร์พูล เคยผงาดคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองแล้ว 6 ครั้งจากการเข้าชิง 12 ครั้ง หนสุดท้ายที่คว้าแชมป์คือปี 2001 ที่พลิกเอาชนะ อาร์เซนอล 2-1 จากการเหมายิงของ ไมเคิล โอเว่น แต่ว่า เวสต์แฮม ก็ไม่น้อยหน้าพวกเขาเคยคว้าแชมป์มาแล้ว 3 ครั้งจาการเข้าชิง 4 ครั้ง หนสุดท้ายที่คว้าแชมป์คือปี 1980 ด้วยการเอาชนะ อาร์เซนอล 1-0
ในศึก พรีเมียร์ชิป ฤดูกาลนี้ทั้งคู่เคยเจอกันมาแล้ว 2 ครั้งเป็น ลิเวอร์พูล เอาชนะที่ แอนฟิลด์ ก่อน 2-0 รวมถึงบุกไปเอาชนะถึงรังอัพตันปาร์ค 2-1 ในแมตช์ชิมลางก่อนนัดชิงเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ว่าทั้ง หลุยส์ การ์เซีย และ เฮย์เด้น มัลลินส์ ดันไปมีเรื่องจนโดนใบแดงทั้งคู่ ทำให้หมดสิทธิ์ลงเล่นนัดชิงดำนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
ลิเวอร์พูล ยังต้องลุ้นอาการของ ชาบี้ อลอนโซ่ ห้องเครื่องที่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บเอ็นข้อเท้าขวาเคล็ดในเกม พรีเมียร์ชิป นัดสุดท้ายของฤดูกาลที่เอาชนะ ปอร์ทสมัธ 3-1 แน่นอนว่านักเตะทุกคนอยากลงเล่นในนัดสำคัญเช่นนี้ แต่กุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ จะกล้าเสี่ยงหรือไม่เนื่องจากมิดฟิลด์ชาติสเปน มีศึกฟุตบอลโลก 2006 รออยู่ในเดือนหน้า
หากไม่พร้อม ลิเวอร์พูล คงต้องใช้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยืนคู่กับ โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ ในตำแหน่งมิดฟิลด์คู่กลาง โดยปล่อยให้ตัวเดิมเกมริมเส้นด้านขวาเป็นหน้าที่ของ ฌิบริล ซิสเซ่ ที่ฟอร์มเริ่มฮอตเหมา 2 ประตูในเกมชนะ เวสต์แฮม และอีกหนึ่งลูกกับ ปอร์ทสมัธ ส่วนภาระทางกราบซ้ายจะตกเป็นของ แฮร์รี่ คีเวลล์
ส่วนคู่หัวหอก ปีเตอร์ เคร้าช์ คือดาวซัลโวประจำรายการนี้โดยส่องไปได้ 3 ประตู น่าจะได้จับคู่กับทาง เฟร์นานโด มอริเอนเตส เนื่องจาก ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ หัวหอกสเกาเซอร์นั้นติดคัพไทเพราะลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้วตั้งแต่ช่วงครึ่งฤดูกาลแรก