หงส์เกือกฝืดยิงสิงห์แดง 10 คนไม่เข้าเจ๊า 0-0

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 สิงหาคม 2548 01:20 น.

หงส์แดง ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่สามารถฉวยความได้เปรียบที่มีผู้เล่นมากกว่า มิดเดิ้ลสโบรช์ ร่วม 10 นาที จบเกมทำได้แค่เสมอ 0-0 ศึกพรีเมียร์ลีก ที่ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ (13 ส.ค.) ต้องจำใจแบ่งแต้มกันไป

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
มิดเดิ้ลสโบรช์ 0 ลิเวอร์พูล 0
เกมนัดเปิดสนามลูกหนังเมืองผู้ดี มิดเดิ้ลสโบรช์ เปิดรังริเซอร์ไซด์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล นัดนี้เจ้าถิ่นได้ กาอิซก้า เมนดิเอต้า และ ฮูโก้ อีไฮอ็อก หายเจ็บกลับมาลงสนามได้ทั้งหมด โดยมี อเย็กเบนี่ ยาคูบู ที่เพิ่งย้ายมาจากปอร์ทสมัธ ลงยืนเป็นหัวหอก ส่วนหงส์แดง ได้ เบาเดอไวน์ เซนเด้น อดีตเด็กเก่าของเจ้าถิ่นเรียกความฟิตทัน แต่ไม่มี ปีเตอร์ เคร้าช์ ที่ยังบาดเจ็บรวมทั้งติดโทษแบนด้วย ราฟาเอล เบนิเตซ จึงส่ง เฟร์นานโด มอริเอนเตส ยืนหอกเป้าตัวเดียว

ออกสตาร์ทเกมขึ้นมาทาง มิดเดิ้ลสโบรช์ อาศัยความเป็นเจ้าถิ่นเปิดเกมรุกเข้าใส่ ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ทันที ขณะเดียวกัน เบาเดอไวน์ เซนเด้น ที่มาเยือนถิ่นเก่าก็ได้รับการต้อนรับจากแฟนบอลสิงห์แดงด้วยเสียงโห่ทุกครั้งที่ได้บอล

เกมในช่วงต้นทีมสองทีมเล่นกันได้สูสีส่วนใหญ่เป็นการแย่งตัดบอลในแดนกลาง ผ่านไป 20 นาทีแทบจะไม่มีโอกาสสับไกลุ้นประตูกันเลย ต้องรอถึงนาทีที่ 22 จังหวะครั้งแรกเป็นของ ลิเวอร์พูล เมื่อ ชาบี้ อลอนโซ่ หยอดเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เฟร์นานโด มอริเอนเตส โหม่งชงให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด วิ่งสอดขึ้นมาซัดเต็มข้อ ทว่าดันเหินข้ามคานอย่างไม่น่าเชื่อ

รูปเกมยังคงออกมาเนือยๆยังไม่มีใครผลีผลามเร่งเกมรุกเข้าใส่คู่แข่ง จนถึงนาทีที่ 38 มิดเดิ้ลสโบรช์ มีโอกาสบ้าง หลัง โฮเซ่ เรน่า ออกมาตัดบอลพลาดลูกตกไปเข้าทาง ฮูโก้ อีไฮอ็อก ได้กลับตัววอลเล่ย์แต่แฉลบผู้เล่นลิเวอร์พูลลอยข้ามคานออกไป โดยในจังหวะเตะมุมต่อมา บัวเต็ง ก็โหม่งข้ามคานออกไปไกล จบ 45 นาทีเสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังทั้งสองฝ่ายยังไมใมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น และเพียงนาทีแรก หลุยส์ การ์เซีย ที่แทบไม่มีบทบาทในครึ่งแรกก็ได้ลองส่องไกลที่หน้ากรอบเขตโทษทันที ทว่าบอลก็ยังไม่ตรงกรอบ

หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล กลับมาเล่นได้ดุดันขึ้น พอถึงนาทีที่ 48 ก็มามีลุ้นอีกครั้งจากการยิงไกลของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ทว่า มาร์ค ชวาร์เซอร์ ยืนตำแหน่งดีคว้าเอาไว้ได้สบาย ตามด้วย เฟร์นานโด มอริเนเตส ที่กดในตำแหน่งเดียวกันแต่ก็ยังไม่ผ่านนายทวารทีมชาติออสเตรเลียเช่นเดิม

ผ่านไป 58 นาที ราฟาเอล เบนิเตซ เห็นว่าเกมรุกไม่ค่อยกดดันแผงหลังเจ้าถิ่นเท่าไหร่ จึงถอด หลุยส์ การ์เซีย กับ เฟร์นานโด มอริเอนเตส ออกแล้วส่ง ฌิบริล ซิสเซ่ และ มิลาน บารอส ลงมาแทน ขณะที่ มิดเดิ้ลสโบรช์ ส่ง ซีลาร์ด เนเม็ธ ลงมาแทน กาอิซก้า เมนดิเอต้า ตามด้วย มาร์ค วิดูก้า ลงมาแทน จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบ้งค์

เกมช่วง 20 นาทีสุดท้ายตื่นเต้นขึ้นเมื่อทั้งสองทีมไม่ต้องการผลเสมอจึงเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก พอถึงนาทีที่ 74 มิลาน บารอส จ่ายทะลุช่องให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กำลังจะหลุดเดี่ยว ทว่าถูก ฮูโก้ อีไฮอ็อก สกัดล้มลง ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์พร้อมชักใบแดงไล่ออกจากสนาม มิดเดิ้ลสโบรช์ เหลือผู้เล่น 10 คน ต้องส่ง แม็ตธิว เบตส์ ลงมาแทน ยาคูบู

จากลูกฟรีคิกในจังหวะต่อมา ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูออกนำอย่างที่สุด หลัง ซิสเซ่ ยิงจังหวะแรกไปติดกำแพง แต่ ชาบี้ อลอนโซ่ ตักโด่งเข้าไปในกรอบเขตโทษ ให้ เจอร์ราร์ด โดดโหม่งถึงบอลก่อน ชวาร์เซอร์ ที่ออกมาไม่ถึงทว่าลูกลอยข้ามคานออกไปนิดเดียว ถัดมาในนาทีที่ 79 เซนเด้น เปิดให้ เจอร์ราร์ด ได้โขกอีกครั้ง แต่คราวนี้ ชวาร์เซอร์ เซฟเอาไว้ได้หวุดหวิด

ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล ดาหน้าบุกแหลก และเกือบจะมาได้ประตูชัยในนาทีสุดท้าย เมื่อ ซิสเซ่ กระชากไปจนสุดเส้นหลัง ก่อนจะตบไปที่เสาสองมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด สอดขึ้นมาโขกเล่นทางทว่าโชคร้ายลูกเด้งถากเสาออกอย่างน่าเสียดาย ครบ 90 นาทีเสมอ 0-0


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
มิดเดิ้ลสโบรช์ - มาร์ค ชวาร์เซอร์, อูโก้ อีไฮอ็อก, ฟร็องก์ เกอดรู, มิเชล ไรซีเกอร์, แกเร็ธ เซาต์เก็ธ, จอร์จ บัวเต็ง. สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, กาอิซก้า เมนดิเอต้า, เรย์ พาร์เลอร์, จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบ้งค์, อเย็กเบยี่ ยาคูบู
ลิเวอร์พูล - โฮเซ่ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, สตีฟ ฟินแนน, ซามี่ ฮูเปีย, สตีเฟ่น วาร์น็อค, ชาบี้ อลอนโซ่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, หลุยส์ การ์เซีย, โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้, เบาเดอไวน์ เซนเด้น, เฟร์นานโด มอริเอนเตส

สรุปผลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-2
แอสตัน วิลล่า เสมอ โบลตัน 2-2
ฟูแล่ม เสมอ เบอร์มิงแฮม 0-0
แมนฯ ซิตี้ เสมอ เวสต์บรอมวิช 0-0
ปอร์ทสมัธ แพ้ สเปอร์ส 0-2
ซันเดอร์แลนด์ แพ้ ชาร์ลตัน 1-3
เวสต์แฮม ชนะ แบล็คเบิร์น 3-1
มิดเดิ้ลสโบรช์ เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0