"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล แม้จะมีแต้มตามหลัง "จ่าฝูง"แมนฯ ยู โขอยู่ แต่ไม่ใช่ว่าหมดโอกาสเสียทีเดียวนัก สำคัญเล่นที่แอนฟิลด์ ในนัดนี้รับการมาเยือนของทีม "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ไม่ชนะไม่ได้แล้ว
ตามลุ้น
อังคารที่ 3 มี.ค.
พรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูล-ซันเดอร์แลนด์ - เกมนี้ว่าไปแล้วก็จะเป็นการวัดว่า "หงส์แดง" ดีเพียงพอที่จะลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้ได้หรือไม่ก็ไม่ผิด เล่นในแอนฟิลด์ของตัวเอง ศักยภาพทีมก็เหนือกว่าไม่ชนะไม่ได้แล้ว
ด่านสุดท้ายของ "หงส์แดง" มี "โฮเซ่ เรน่า" ยืนเป็นด่านสุดท้ายเหนียวหนึบไว้ใจได้ ส่วนคู่ปราการหลัง "มาร์ติน สเคอร์เทล-เจมี่ คาร์ราเกอร์" แกร่ง ตัดเกมได้เด็ดขาด ส่วนฟูลแบ๊กทั้ง "อาร์เบลัว-ดอสเซน่า" นอกจากเกมรับดีแล้ว จังหวะเติมเกมรุกก็ทำได้ดีอีกต่างหาก แดนกลางต้องรอลุ้นว่า "สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด" จะฟิตลงเล่นได้หรือไม่ ส่วน "ฮาเบียร์ มาสเชราโน่" ผลงานดีต่อเนื่อง ช่วยตัดเกมได้เยอะ ทำให้ "ยอสซี่ เบนายูน-เดิร์ก เคาต์" น่าจะมีอิสระในการทำเกมบุกอย่างเต็มที่ และในแดนหน้าถ้า "เฟอร์นันโด ตอร์เรส" ฟิตลงได้เกมรุกคงจะเฉียบคม
ส่วน "แมวดำ" นับตั้งแต่ได้ริกกี้ สบราเกีย เข้ามาคุมทีมฟอร์มการเล่นแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง แนวรุกที่มี "เคลวิน โจนส์-คีแรน ริชาร์ดสัน" เป็นตัวป่วนทำได้ดีไม่เลว ยิ่งถ้า "ฌิบริล ซิสเซ่" ฟิตทันน่าจะป่วนแนวรับเจ้าถิ่นได้พอสมควร
"หงส์แดง" กุมความได้เปรียบไว้ทุกอย่าง กระดูกบอลเหนือกว่าอย่างเห็นๆ ดูแล้วถ้าไม่กดดันตัวเอง หรือเผลอเหม่อประมาท 3 แต้มไม่น่าจะหลุดมือ
ปอร์ตสมัธ-เชลซี - ป็นลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ที่เร้าใจพอตัว "ปอมปีย์" กำลังดิ้นรนหนีตกชั้นคงต้องเน้นเกมแลกหมัดเข้าใส่ ได้ "นิโก้ ครานจ์ชาร์" กลับมาคนเกมรุกดูมีสีสันขึ้นเยอะ ส่วน "เดวิด นูเจนต์-ปีเตอร์ เคราช์" พักบอลดี เอาตัวรอดเก่ง แต่ "สิงโตสีน้ำเงิน" ในยุคของกุส ฮิดดิงก์ ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา "ดิดิเยร์ ดร็อกบา" กลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง ส่วน "แฟรงก์ แลมพาร์ด" เริ่มคลำเป้าเจอแล้ว แลกหมัดกันจริงโอกาสน่าจะเป็นเชลซีที่เข้าป้ายมากกว่า
เวสต์ บรอมวิชฯ-อาร์เซนอล - ฟอร์มการเล่นของ "ปืนโต" สาละวันเตี้ยลง ยิงใครไม่ได้มานานแล้ว นัดนี้ออกไปเยือนก็จริงแต่ชั้นบอลเหนือกว่าเจ้าบ้านเยอะเหลือเกิน "เดอะ แบ๊กกีส์" ดิ้นรนหนีการตกชั้น คงเน้นเกมสาดยาวเข้าหา ในขณะที่ "ปืนโต" สภาพทีมไม่สมบูรณ์นัก แต่แนวรับได้ "โคโล่ ตูเร่-วิลเลี่ยม กัลลาส" มายืนคู่กันอีกครั้งไม่มีอะไรต้องห่วง ปัญหาก็คือการจับคู่ระหว่าง "นิคลาส เบนต์เนอร์-โรบิน ฟาน เปอร์ซี" ไม่ลงตัวนัก แต่ด้วยความหลากหลายในเกมรุกที่เหนือกว่า อาร์เซนอลน่าบุกมาเก็บ 3 แต้มได้ในที่สุด