หงส์แดง ทำได้แค่เจ๊า พลาดโอกาสขึ้นจ่าฝูง

ลิเวอร์พูล 1-1 เอฟเวอร์ตัน

ประตู : 1-0 เจอร์ราร์ด น.68,1-1 เคฮิลล์ น.87


ราฟาเอล เบนิเตซจัดทัพแบบเบสิกตามคำเรียงร้อง 4-4-2 โดยใช้ร็อบบี้ คีนยืนหน้าคู่กับเฟร์นานโด ตอร์เรสโดยเดิร์ก เคาท์บุตรบุญธรรมยืนปีกขวาโดยมีสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดและชาบี้ อลอนโซ่ยืนเป็นมิดฟิลด์

ด้านเอฟเวอร์ตันมาในสภาพกองหน้าพิการเลยต้องใช้อานิเชเบ้ยืนค้ำมีซิโก้ฝรั่งทิม เคฮิลล์เป็นหน้าต่ำส่วนจอมทัพเป็นมิเกล อาร์เตต้า

เริ่มมาแค่ 34 วินาทีเอฟเวอร์ตันทักทายก่อนเลยเมื่อ ได้หมุนตัวยิงตรงระยะ 20 หลาบอลพุ่งเลียดเข้ามุมร้อนถึงเรน่าต้องล้มตัวปัดก่อนตามมาตระครุบอีกจังหวะ

จากนั้นนาทีที่ 2 หงส์แดงป่วนหนักต้องเสียเตะมุมง่ายๆก่อนเรน่ามาถูกทำฟาว์ลในจังหวะสาดโด่ง ได้หายใจหายคอซักที

เสียงเชียร์ของแฟนบอลร้องแซ่ซ้องทุกจังหวะสร้างความเร้าใจให้เกมดาร์บี้แมทช์ได้ระทึกสุดๆและแฟนบอลอย่าคาดหวังจะเห็นการเล่นพลิ้วๆสวยๆ เอาแค่รอดตัวไม่เสียบอลง่ายๆและไม่เจ็บตัวก็ถือว่าบุญหัวแล้ว

เกมระหว่างนาทีที่ 5-10 เจ้าถิ่นกลับมาเป็นฝ่ายได้ครองเกมหาช่องเจาะเข้าทำได้มากขึ้นเรื่อยๆแต่ยังไม่มีโอกาสยิงเลยแม้แต่ครั้งเดียวไม่ว่าจะไกลหรือใกล้

นาทีที่ 12 หงส์แดงได้ฟรีคิกตรงมุมกรอบโทษฝั่งซ้ายเป็นเจอร์ราร์ดปั่นเข้ากลางประตูบอลตถมาถึงเคาท์ตรงเส้น 6 หลาแต่จังหวะยิงเต็มๆบอลไปติดบล็อกเบนส์อย่างน่าเสียดาย

บอลมาสูสีวิ่งไล่กันหน้าตั้งสร้างความอึดอัดให้แฟนบอลสุดๆแต่นอกจากจังหวะเซฟของเรน่าตั้งแต่ต้นเกมตอนนี้บอลไปไม่ถึงเขตโทษของทั้งสองฝ่ายเลย

เจ้าถิ่นเล่นหน้าคู่ก็จริงแต่บอลไปไม่ถึงตอร์เรสกับคีนเลยเพราะต้องหันหลังเล่นบอลซึ่งถูกเซนเตอร์ประกบเป็นเงาส่วนริมเส้นไม่ต้องพูดถึงเพราะตรงปีกขวาทางเคาท์ไม่ได้ขึ้นเลย

และนาที 26 เอฟเวอร์ตันได้โอกาสสวยๆเป็นครั้งที่สองในเกมนี้จากการเปิดบอลตรงเส้นหลังของอานิเชเบ้เป็นเคฮิลล์ซึ่งตัวเล็กแต่เทคตัวสูงเหนือสองตัวประกบลิเวอร์พูลตรงระยะ 8 หลาและร้อนถึงเรน่าต้องพุ่งปัดสุดปลายมือบอลค่อยๆออกหลังไปแบบสุดหวาดเสียว

จากนั้นจังหวะสวนกลับนาทีเดียวต่อมาพีนาร์รับใบเหลืองคนแรกของเกมหลังไปตัดฟาว์ลใส่ตอร์เรสจนแฟนบอลร้องชอบใจ

จังหวะสุดช็อกไม่น่าเชื่อว่าลิเวอร์พูลจะไม่ได้ประตูขึ้นนำจากลูกที่ฮูเปียวางยาวแบบพุ่งๆไม่โด่งในแดนตัวเองบอลทะลุสุดสวยเป็นตอร์เรสวิ่งเข้าหาบอลแหวกคู่เซนเตอร์เข้าไปล่อเป้าฮาเวิร์ดแถมใจเย็นโคตรๆรอจังหวะให้อดีตจอมหนึบทิ้งตัวและแปยิงบอลชนเสาออกหลังไปซะงั้น ไม่น่าเชื่อ!!

เอฟเวอร์ตันแม้กองหน้าจะเจ็บหายไปหมดแต่ก็สู้สุดใจโดยเฉพาะอานิเชเบ้กับเคฮิลล์และใช้ทีเด็ดคือการเปิดบอลจากริมเส้นโจมตีจนเรน่าเหวอไป 2-3 ครั้งแล้ว

ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาทีอลอนโซ่เจอรุมกินโต๊ะในแดนตัวเองเลยถูกออสันฉกแล้วลากมายิงไกล 25 หลาบอลพุ่งเลียดแต่เรน่ารับเข้าซองสบาย

อีก 2 นาทีถัดมาฮิบเบิร์ตจ่ายบอลหน้าเขตโทษตัวเองไปติดริเอร่าที่ดักทางสุดเหนือก่อนสับไกยิงด้วยอีซ้ายบอลแหวกทะลุฝูงแข้งทีมเยือนหลุดเสาออกไปชนิดที่ผู้บรรยายอังกฤษร้องเสียงดังริเอร้าาาาาาาแต่ไม่เข้า.. หมดครึ่งแรกสกอร์ยัง 0-0

ครึ่งหลังเปิดฉากมาทั้งคู่เปิดเกมแรกกันไฟแลบและเสียงเชียร์ดังสนั่นทุกๆจังหวะเหมือนเดิมแต่เจ้าถิ่นเหมือนเจอปัญหาเดิมๆคือเข้าเจะทีมที่ตั้งรับลึกๆไม่ถนัดแถมวันนี้ไม่เหมือนวันอื่นๆเพราะมีลูกหนักเยอะเหลือเกิน

นาที 56 หงส์แดงน่าจะขึ้นนำหลังจังหวะขลุกขลิกในกรอบโทษเอฟเวอร์ตันเป็นเจอร์ราร์ดได้วางเท้ายิงด้วยอีซ้ายแต่ติดเซฟทีโฮก่อนที่ฮูเปียวิ่งมาตามซ้ำแต่เจอตัวประกบสไลด์แย่งเลยยิงออกข้างหน้าต่างไปเอง

บอลคู่นี้ไม่ต้องหายใจกันพอดีเพราะบอลเร็วมากและเข้าถึงตัวกันตลอดเรียกว่าไม่เห็นการทำชิ่งสวยๆหรือลากพลิ้วๆมากนัก ต้องคูโบต้าอย่างเดียวแล้ววันนี้

นาที 62 เคาท์มุทะลุลากมาเองแถมจ่ายแบบส่งเดชจวนตัวจนติดผู้เล่นทีมเยือนแต่กลายเป็นดีเมื่อไปเข้าทางตอร์เรสที่วิ่งมายิงตามน้ำตรงระยะ 20 หลาบอลข้ามคานออกไปแบบได้เสียว

อีก 4 นาทีต่อมาราฟาเปลี่ยนเอาเบนายูนลงมาแทนคีโน่ที่ระแวงตั้งแต่แรกแล้วว่าข้างสนามมีการเคลื่อนไหวพอเห็นหมายเลข 7 ถึงกับด่าฟักออฟแล้ววิ่งออกมาทันที

แต่แล้วนาที 68 เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่รอคอยหลังก่อนหน้านี้อานิเชเบ้ป่วนลิเวอร์พูลลากเข้าเขตโทษจนสเคอร์เทลเบียดล้มลงจนมีการร้องเอาจุดโทษและจังหวะขึ้นเกมมาเรื่อยๆเป็นเจอร์ราร์ดได้บอลจากริเอร่าแล้วแตะหนึ่งจังหวะก่อนยิงไกล 25 หลาทะลุตัวบล็อก 3 คนของเอฟเวอร์ตันพุ่งเสียบข้างเสาหมดสิทธิ์ที่ฮาวเวิร์ดจะทำอะไรได้ ลิเวอร์พูลนำแล้ว 1-0

พอได้ประตูคราวนี้ท๊อฟฟี่เปิดหน้าแลกแล้วแต่ก็ทำให้บรรดาเกมรุกสวนกลับของลิเวอร์พูลเริ่มทำงานเช่นกยัน

นาที 84 ลิเวอร์พูลเกือบเจอดีหลังออสมันลากจี้เข้าหาสเคอร์เทลตรงหน้ากรอบโทษก่อนตะบันยิงเต็มข้อแต่เรน่ายืนตำแหน่งดีรับเข้ามือหนึบแต่แฟนบอลหัวใจจะวาย

อีกนาทีถัดมา...มันมาแล้วลูคัส เลว่าลงมาแทนตอร์เรสและจังหวะแรกก็โหม่งทำฟาว์ลเสียฟรีคิกตรงครึ่งวงกลมทันที

แต่แล้วสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็มาจนได้เมื่อก่อนหมดเวลา 3 นาทีเบนายูนไปทำฟาว์ลตรงเส้นหลังปีกซ้ายเป็นอาร์เตต้าเปิดฟรีคิกยัดเลยเสาแรกมานิดนึงเป็นเคฮิลล์ย่อตัวโขกสะบัดเผาขนเข้าไปไม่มีเหลือ สกอร์เสมอกันแล้ว 1-1 จากภาพช้าฮูเปียประกบกับเลสค็อตต์แล้วชี้ให้เพื่อนตามเคฮิลล์แต่พอเห็นไม่มีใครตามเลยวิ่งมาจะประกบแต่เจอเลสค็อตต์สกรีนมิดด้าม เล่นฉลาดจริงๆ

ช่วงเวลาที่เหลือลิเวอร์พูลทำอะไรไม่ได้เพราะกองหน้าถูกเปลี่ยนไปก่อนหน้านี้แล้วมีเพียงตัววิ่งอย่างเคาท์และตัวรับอย่างลูคัสจนหมดเวลาเสมอกันไป 1-1 ทำให้แซงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่ได้มี 47 แต้มเท่ากันประตูได้เสียเป็นรองและเตะมากกว่าหนึ่งนัดด้วย

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล: โฆเซ่ เรน่า,เจมี่ คาร์ราเกอร์,ซามี่ ฮูเปีย,มาร์ติน สเคอร์เทล,ฟาบิโอ ออเรลิโอ,ชาบี้ อลอนโซ่,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,เดิร์ก เคาท์,อัลเบิร์ต ริเอร่า(บาเบิ้ล น.90),ร็อบบี้ คีน(เบนายูน น.66),เฟร์นานโด ตอร์เรส(ลูคัส น.85)

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : คาวาเลียรี่,ดอสเซน่า,อาร์เบลัว,บาเบิ้ล,มาสเคราโน่

เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาเวิร์ด,โทนี่ ฮับเบิร์ต,โจเลออน เลสค็อตต์,ฟิล จาเกียลก้า,เลจ์ตัน เบนส์,เลออน ออสมัน,มิเกล อาร์เตต้า ,ฟิล เนวิลล์,สตีเฟ่น พีนาร์ ,ทิม เคฮิลล์,วิคตอร์ อานิเชเบ้

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : แนช,ฟาน เดอร์ เมย์เด้,คาติญโญ่,รอดเวลล์,ยัทไควิซ,กอสลิ่ง,คิสซ็อค



































 
 ขอบคุณข้อมูลข่าว:lentee.com