ราฟาเอล เบนิเตซยิ้มแก้มปริเมื่อเหล่าแข้งสำรองต่างงัดฟอร์มเก่งพาลิเวอร์พูลบุกมาไล่อัดพีเอสวี ไอด์โฮเฟ่นจากประตูของไรอัน บาเบิ้ล,อัลเบิร์ต ริเอร่าและดาวิด เอ็นก็อกแซงแอต.มาดริดที่ทำได้แค่เสมอเป็นแชมป์กลุ่มสุดยิ่งใหญ่
พีเอสวี 1-3 ลิเวอร์พูล
สนาม : ฟิลิปป์ สเตเดียม
ประตู : 1-0 อัมราบัต น.35,1-1 บาเบิ้ล น.45+1,1-2 ริเอร่า น.67,1-3 เอ็นก็อก น.77
หงส์แดงลิเวอร์พูลมาแรงคว้าแชมป์กลุ่มหลังตามหลังตกเป็นฝ่ายตามหลังพีเอสวีแต่ยิงแซงสามเม็ดรวดชนะ 3-1 ปล่อยให้แอต.มาดริดที่ทำได้แค่เสมอหน้าจ๋อยตามมาเป็นที่สองอย่างเศร้าๆ
ราฟาเอล เบนิเตซจัดทัพสำรองตามที่ลั่นวาจาเอาไว้โดยส่งลูคัส ไลว่า,ดาวิด เอ็นก็อกและร็อบบี้ คีนลงเล่นอย่างครบครันส่วนสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดกับชาบี้ อลอนโซ่มีชื่อนั่งสำรองที่ข้างวสนาม
ทีมเยือนแม้จะจัดตัวสำรองลงเยอะแต่เกมก็ไม่ได้เป็นรองเลยเนื่องจากยังต่อบอลทำเกมได้อยู่และแค่นาทีเดียวลูคัสเปิดฟรีคิก 25 หลามาเข้ากบาลริเอร่าที่ดูเหมือนเป็นพวกปีกสแปนิชเต็มตัวที่เล่นลูกหัวไม่ดีเพราะบอลแป๊กข้ามคานออกไป
นาที 20 กองหลังหงส์แดงปล่อยให้อามราบัตกระชากจี้เข้าหน้าเขตโทษก่อนยิงไกลยังดีบอลไม่แรงทำให้คาวาเลียรี่ล้มตัวรับสบาย
ลิเวอร์พูลเวลาขึ้นเกมจะค่อยๆต่อกันขึ้นมาแต่มักมาเสียกันตรงแดนหน้าทำให้ตอนนี้พีเอสวีเริ่มขึงเกมได้มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
การประสานงานของทั้งสองทีมยังไม่ต่อเนื่องและเสียบอลกันเองบ่อยครั้งจนผ่านมาแล้วครึ่งชั่วโมงยังไม่มีจังหวะเสียวอะไรเลย
เกมที่ไม่มีอะไรเลยกลายเป็นพีเอสวีที่ขึ้นนำก่อนในนาที 35 จากจังหวะลูกเตะมุมมาเสาแรกเป็นมาสเคราโน่ที่พลาดพยายามโขกทิ้งแต่บอลไปแฉลบอัมราบัตบอลหล่นไปตกใส่เท้าของคาวาเลียรี่ที่นั่งยองๆบอลเข้าประตู พีเอสวีนพ 1-0 แล้ว
โดนเข้าไปเม็ดนี้หงส์แดงตาสว่างพยาายมจะทวงคืนทันทีที่เขี่ยบอลแต่ตอนนี้นักเตะเจ้าถิ่นวิ่งกันลืมตายเพราะต้องการชัยชนะเพื่อลุ้นไปเล่นยูฟ่า คัพกับมาร์กเซย์
ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียวดอสเซนน่าเปิดบอลจากซ้ายมาเข้าหัวเอ็นก็อกแต่หอกดาวรุ่งทำได้แค่เช็ดตรงตัวอีซัคส์สันเท่านั้นเอง ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นโอกาสแรกของทีมเยือน!!
อย่างไรก็ตามในช่วงทดเจ็บลิเวอร์พูลมาตีเสมอหน้าตาเฉยเมื่อไรอัน บาเบิ้ลที่วันนี้หงอยๆตลอดทั้งเกมโหม่งลูกเปิดฟรีคิกของลูคัสที่ข้ามหัวอีซัคส์สันซึ่งย้อนกลับมาปัดแต่ก็ปัดบอลเข้าประตูไปเอง หมดครึ่งแรกเกมจบลงด้วยสกอร์ 1-1
ครึ่งหลังเริ่มหงส์แดงดูดีขึ้นมาเยอะโดยเฉพาะคีโน่กับบาเบิ้ลประสานงานกันได้ดีในนาที 53 แต่อดีตแข้งไอแอ็กซ์ไม่ยอมส่งเลือกยิงเองบอลเลยโด่งข้ามคานออกไป จังหวะนี้น่าจะส่งให้คีนมากกว่า
อีก 5 นาทีต่อมาบาเบิ้ลวันนี้ห้าวจัดยิงไกลอีกแต่บอลหลุดเสาออกไปและเป็นอีกครั้งที่ร็อบบี้ คีนหัวเสียที่เพื่อนตั้งหน้าตั้งตายิงอย่างเดียว
นาที 63 อาร์เบลัวเกือบทำเข้าประตูตัวเองเมื่อโขกเคลียร์บอลก่อนถึงหัวลาโซวิชนิดเดียวโดยตอนนี้ทีมเยือนเกมดูดีขึ้นกว่าในครึ่งแรกเยอะเลยทีเดียว
แต่แล้วอีก 4 นาทีต่อมาหงส์แดงมาทำประตูแซงขึ้นนำจากประตูสุดสวยของอัลเบิร์ต ริเอร่าที่ตะบันเต็มตีนแม่ยาย 20 หลาบอลพุ่งปลิ้นติดไซด์พุ่งเข้าสามเหลี่ยมราวกับมีแม่เหล็ก หมดสิทธิ์ที่อีซัคส์สันจะพุ่งเซฟถึง ทีมเยือนนำ 2-1 แล้ว
พีเอสวีพยายามทวงประตูคีนแต่แนวรับทีมเยือนที่ยังชุดใหญ่รับมือเอาไว้ได้ตลอดรอดฝั่งและนาที 77 เกมนี้จบลงเมื่อหงส์แดงมายิงเม็ดสามเมื่อร็อบบี้ คีนแทงบอลทะลุให้เอ็นก็อกวิ่งควบก่อนซัดด้วยอีซ้ายบอลทะลุตัวอีซัตส์สันเข้าไปอย่างสวยงาม สกอร์ 3-1 ชนะเห็นๆ!!
ช่วงเวลาที่เหลือพีเอสวีถอดใจเล่นแบบสามสลึงและสู้ลิเวอร์พูลในครึ่งหลังไม่ได้เลยในขณะที่ร็อบบี้ คีนมีลุ้นกลับมาเป็นตัวจริงในเกมพบฮัลล์ ซิตี้เพราะฟอร์ม 45 นาทีหลังโดดเด่นเพียงแต่ควานหาประตูไม่ได้เท่านั้นเอง จบเกมลิเวอร์พูลชนะ 3-1 คว้าแชมป์กลุ่มดีไปครองอย่างสมศักดิ์ศรีและจะทำให้รอบน็อกเอาท์ได้เล่นในบ้านตัวเองเลกสองอีกด้วย
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
พีเอสวี : อันเดรียส อีซัคส์สัน,เจสัน คูลิน่า,เดิร์ก มาร์เซลลิส,เจเรมี่ เบรเชต์,คาร์ลอส ซัลซิโด้,เอดิสัน เมสเดซ(มันโก้ น.79),ทิมมี่ ซิมอนส์,บาลาซ์ ดีซัดซัค,ออตมัน บัคคัล(ไนจ์แลนด์ น.82),ดันโก้ ลาโซวิช,นอร์ดิน อัมราบัต(แดนนี่ โคเอเวอร์มันส์ น.71)
ลิเวอร์พูล : ดิเอโก้ คาวาเลียรี่,อัลบาโร่ อาร์เบลัว(ดาร์บี้ น.67),เจมี่ คาร์ราเกอร์(เคลลี่ น.80),ดาเนี่ยล แอกเกอร์,อันเดรีย ดอสเซนน่า,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,ลูคัส ไลว่า,ไรอัน บาเบิ้ล,ดาวิด เอ็นก็อก,อัลเบิร์ต ริเอร่า(สเปียริ่ง น.74),ร็อบบี้ คีน
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee