บิ๊กแมตช์ สาลิกาเปิดรังฟัดหงส์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 มีนาคม 2549 23:21 น.

แม้สถานการณ์บ้านเมืองภายในประเทศไทยยังคงสับสนวุ่นวายจนคนในครอบครัวเดียวกันยังมองหน้ากันไม่ติด แต่วิถีแห่งฟุตบอลยังคงโคจรรอบตัวเองต่อไปไม่หยุดนิ่ง สำหรับคอลัมน์ บิ๊กแมตช์ ประจำสัปดาห์ยังเป็นการฟาดแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อยู่เช่นเดิม โดยเป็นการเจอกันของทีม สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 12 จะเป็นสนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ก ต้อนรับการมาเยือนของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับที่ 3 ในเวลา 20.30 น. ของวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2549

ในส่วนของฟอร์มการเล่นของทีมเจ้าถิ่น นิวคาสเซิล กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทำผลงานในลีก 5 นัดหลังสุดได้ดีขึ้น ด้วยการเก็บชัยชนะไป 3 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ไปเพียง 1 นัด ให้กับ ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา คว้ามาได้ 10 คะแนน จาก 15 คะแนนเต็ม

ด้านทีมเยือน ลิเวอร์พูล แม้จะพบฝันร้ายจากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แพ้ให้กับ เบนฟิก้า ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยังไม่วายโดนฝันสยองตามหลอกหลอนในเกมพ่าย ปืนใหญ่ อาร์เซนอล 1-2 เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามผลงานในลีกยังคงไม่ขี้เหร่ เมื่อ 5 นัดหลังสุดสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ 3 นัด เสมอ 1 นัด และ แพ้อีก 1 นัด เก็บได้ 10 คะแนน จาก 15 คะแนนเต็ม

ขณะที่สภาพความพร้อมของ สาลิกาดง ในเกมนี้ ดูเหมือน เกล็น โรเดอร์ กุนซือชั่วคราวจะมีปัญหาพอสมควร เมื่อดาวเตะหลายรายยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บกันต่อไป อาทิ ไมเคิล โอเว่น, สตีเฟ่น คาร์, สตีเฟ่น เทย์เลอร์, คีรอน ดายเออร์ รวมไปถึงปราการหลังจอมหวาดเสียว ติตัส บรัมเบิ้ล ด้วย

ส่วนทีมเยือน หงส์แดง เกมนี้ยังต้องขาดผู้เล่นอย่าง โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้, เบาเดอไวน์ เซนเด้น รวมไปถึง ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ แบ็กซ้ายตัวหลัก ที่ต่างยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บด้วยกันทั้งสิ้น

สำหรับผลงานการเจอกันของทั้งสองทีมที่สนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ปรากฎว่าเป็นทีม สาลิกาดง ที่ทำผลงานได้ดีกว่า เมื่อสามารถเปิดรังเชือด หงส์แดง ไป 1-0 จากการยิงไกลของ โลรอง โรแบร์ ในนาทีที่ 70 ปีกเลือดน้ำหอมที่ย้ายออกจากทีมไปแล้ว

อย่างไรก็ตามการเจอกันที่สนามแอนฟิลด์ ในฤดูกาลนี้ ซึ่งถือเป็นนัดล่าสุดที่ทั้งสองทีมเจอกัน กลายเป็นทีม ลิเวอร์พูล เจ้าถิ่นที่โชว์ฟอร์มได้แน่นอนกว่า เมื่อเอาชนะไปได้ 2-0 จากการยิงของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด นาทีที่ 14 และ การทำเข้าประตูตัวเองของ เชย์ กิฟเว่น นาทีที่ 43 ขณะที่นาทีที่ 66 ลี โบว์เยอร์ กองกลางจอมดีเดือดต้องรับใบแดงไปในเกมดังกล่าวด้วย

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมในทุกสนาม
ฟุตบอลลีก : นิวคาสเซิล ชนะ 39 ครั้ง, ลิเวอร์พูล ชนะ 65 ครั้ง และเสมอกัน 37 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ลีก : นิวคาสเซิล ชนะ 6 ครั้ง, ลิเวอร์พูล ชนะ 13 ครั้ง และเสมอกัน 6 ครั้ง

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมในสนามของนิวคาสเซิล
ฟุตบอลลีก : นิวคาสเซิล ชนะ 28 ครั้ง, ลิเวอร์พูล ชนะ 19 ครั้ง และเสมอกัน 23 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ลีก : นิวคาสเซิล ชนะ 5 ครั้ง, ลิเวอร์พูล ชนะ 3 ครั้ง และเสมอกัน 4 ครั้ง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีมที่คาดว่าจะลงสนาม
นิวคาสเซิล (4-4-2) : เชย์ กิฟเว่น, ปีเตอร์ ราเมจ, ฌอง-อแล็ง บูมซง, ร็อบบี้ เอลเลียตต์, เซเลสติน บาบายาโร่, โนลเบอร์โต้ โซลาโน่, สกอตต์ ปาร์คเกอร์, เอ็มเร่ เบโลโซกลู, ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย, โชล่า อเมวบี้ และ อลัน เชียเรอร์
ลิเวอร์พูล (4-4-2) : โฮเซ่ เรน่า, สตีฟ ฟินแน่น, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, สตีเฟ่น วอร์น็อค, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ดีทมาร์ ฮามันน์, ชาบี้ อลอนโซ่, แฮร์รี่ คีเวลล์, ปีเตอร์ เคร้าช์ และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์

แม้ว่า เกล็น โรเดอร์ จะเพิ่งพาลูกทีมสาลิกาบุกไปพ่ายให้กับ ปีศาจแดง 0-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด แต่คงไม่ใช่เรื่องง่าย หากหงส์แดงจะบุกเก็บ 3 คะแนนได้ง่ายๆ เนื่องจากการได้ลงเล่นในบ้านนั้น นิวคาสเซิล มักจะเล่นได้ดีเสมอ โดยฤดูกาลนี้เพิ่งเปิดเซนต์ เจมส์ ปาร์ก พบกับความพ่ายแพ้ไปเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น

แต่ปัญหาสำคัญของ เกล็น โรเดอร์ กุนซือทีมดังแห่งภาคอีสานคงไม่ใช่เรื่องความสามารถของนักเตะในทีม หากแต่น่าจะเป็นเรื่องการเรียกความมั่นใจในตัวเองกลับมา โดยเฉพาะแผงกองหลังที่มักเล่นกันผิดพลาดจนทำให้ทีมต้องพ่ายแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมล่าสุด ซึ่งหาก บิ๊กเกล็น สามารถปลุกใจลูกทีมให้กลับมาฮึดสู้ได้อีกครั้งเกมนี้คงสู้กับ ลิเวอร์พูล ทีมเยือนได้สูสี

ด้านทีมดังจากถิ่นแอนฟิลด์ดูเหมือนผู้เล่นในแผงกองหน้าจะเริ่มจับทางทำประตูกันได้บ้างแล้ว ในเกมที่ถล่ม ฟูแล่ม 5-1 ซึ่งหาก เอล ราฟา ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสเปน หวังจะก้าวขึ้นไปเบียดรั้งอันดับที่ 2 กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาล คงต้องเร่งให้เหล่าดาวยิงสนิมเกาะทั้งหลายเร่งเค้นฟอร์มเก่งกันหน่อย ไม่งั้นแม้แต่โควต้าแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าก็คงต้องลุ้นกันเหนื่อย...