ราฟา : หงส์แดง ชุดนี้ดีที่สุด เท่าที่ผมเคยมีมา
นี่อาจจะเป็นบทสัมภาษณ์ที่น่าเบื่อสำหรับแฟนบอล หงส์แดง ลิเวอร์พูล อดีตสุดยอดทีมอันเกรียงไกรแห่งเกาะอังกฤษ ที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเป็นว่าเล่นระหว่างปี 1970-1990 แต่ในวันนี้ เรากลับมาสัมภาษณ์ ราฟาเอล เบนิเตซ หนุ่มใหญ่ชาวสเปน ผู้ซึ่งกุมความหวังทั้งมวลของสาวก เดอะ ค็อป กันอีกครั้ง ว่า ปีนี้ถึงคิวของ ลิเวอร์พูล หรือยัง ที่จะได้เถลิงแชมป์ที่สโมสรห่างหายไปนานถึง 19 ปีเต็ม
เบนิเตซ ยิ้มอย่างเป็นกันเอง ขณะเริ่มต้นให้สัมภาษณ์คำถามคุ้นหู ที่ต้องตอบทุกครั้งก่อนเริ่มฤดูกาล
นี่เป็นปีสุดท้ายของแฟนๆใช่ไหม หลังจากต้องรอคอยมาอย่างยาวนาน? มันเป็นปีที่สำคัญสำหรับผม..ไม่สิ เป็นอีกหนึ่งปีที่สำคัญมากกว่า
กุนซือมาดเข้มจากแดนกระทิงตอบคำถามอย่างสบายๆ มากกว่าเมื่อตอนเริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว นั่นเป็นเพราะว่า หลังจากผ่านมา 4 ฤดูกาล เขาเชื่อว่า ทีมชุดนี้แหละ ที่พร้อมแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเต็มตัวแล้ว จากการให้สัมภาษณ์ตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมา เขารู้ดีว่าขุมกำลังของเขาเอง ยังไม่ดีพอสำหรับการลุ้นแชมป์กับทีมแกร่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชลซี และอาร์เซน่อล แต่ในวันนี้ เขารู้สึกว่า เขาพร้อมแล้ว
ผมมั่นใจในทีมชุดนี้ และผมก็มีความสุขมาก ทีมชุดนี้ดีที่สุดตั้งแต่ผมเข้ามารับงานในแอนฟิลด์ แต่สิ่งที่สำคัญไม่ใช่การที่จะพูดว่า พวกเราจะได้แชมป์ลีก เพราะว่าพรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้ และเป็นลีกที่ยากที่สุดในยุโรป แต่มาตรฐานของเราดีขึ้นมากเลยทีเดียว ตั้งแต่ผมเข้ามาที่นี่
ก่อนหน้านี้ มีนักเตะที่ดีอยู่พอสมควรในลีกอังกฤษ แต่ทีมใน สเปน อิตาลี หรือแม้แต่เยอรมัน เซ็นสัญญากับนักเตะที่ดีที่สุดในโลกไปร่วมทีมทั้งนั้น แต่ในตอนนี้ ทุกๆคนต้องการลงเล่นที่นี่ และนั่นทำให้คุณภาพของลีกน่ามหัศจรรย์เลยทีเดียว ลองมองไปยังรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกดูสิ 3 จาก 4 ทีมสุดท้ายเป็นทีมจากอังกฤษ และอาร์เซน่อลก็ทำผลงานได้ดีด้วยเช่นกัน ดังนั้น คุณจะมองข้ามไปไม่ได้เลยว่า 3 ทีมที่ดีที่สุดในยุโรป กำลังคั่วแชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่
เห็นแล้วว่ามันไม่ใช่งานที่ง่ายดายเลย แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้ลีกนี้มีคุณภาพอย่างไม่น่าเชื่อ ตั้งแต่ผมเข้ามา พวกเราพัฒนาและเดินหน้าตลอดทุกปี แต่ลองดูตารางคะแนนย้อนหลังดูสิ พวกเราได้ 82 คะแนน ซึ่งเป็นสถิติของลิเวอร์พูล และนั่นทำให้พวกเราจบด้วยอันดับ 3 แต่มาตรฐานของแชมป์สูงขึ้นทุกปี และเราจำเป็นต้องตามให้ทัน
เบนิเตซ เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์คล้ายๆกันนี้มาแล้วที่ บาเลนเซีย ซึ่งเขาเป็นรอง เรอัล มาดริด และ บาเซโลน่า อย่างมากมายทางด้านการเงิน แต่เขาก็เอาชนะมันมาได้ แม้ว่าไม่อาจสู้ในตลาดซื้อขายนักเตะได้ก็ตาม แต่เขาบอกว่า สถานการณ์มันค่อนข้างต่างกัน เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด เชลซี และอาร์เซน่อล เป็นทีมที่ดีกว่าสองยักษ์ใหญ่แห่งเมืองกระทิงเป็นไหนๆ
พวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดในยุโรป ที่สามารถจ่ายเงิน 20 ล้านปอนด์เพื่อซื้อนักเตะมานั่งข้างสนามได้ แต่ผมไม่เชื่อว่า พวกเราไม่สามารถแข่งกับทีมเหล่านั้นได้ พวกเราไม่ใช่สโมสรเงินถุงเงินถัง และพวกเราก็มีงานมากมายหลายอย่างต้องทำ แต่ผมตั้งใจอย่างแน่วแน่ และเชื่อมั่นว่า มันเป็นไปได้ที่จะคว้าแชมป์มาครอง
แม้ว่าความสำเร็จบนเวทียุโรป ทำให้ความมีการคาดหวังต่อตัวของเขาสูงขึ้นตามลำดับ แต่ทุกๆฤดูกาลที่ผ่านมา เขาค่อยๆ สร้างทีมที่เขาต้องการเพื่อคว้าแชมป์ลีกขึ้นมา ซึ่งกินเวลามากว่า 5 ปีแล้ว และแม้ว่าเก้าอี้ของเขาเริ่มร้อนขึ้นทุกที แต่ราฟาก็ยังคงมีความสุข และเชื่อมั่นว่าจะทำงานชิ้นใหญ่ให้สำเร็จลุล่วงได้
เมื่อผมมาถึงที่นี่ บางทีผมไม่ได้คิดมาก่อนว่ามีงานหนักหนาแค่ไหนรออยู่ ผมค่อยๆเรียนรู้จากสิ่งเล็กๆน้อยๆภายในสโมสร ที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน มันค่อนข้างช้ากว่าที่ควรจะเป็น เพราะว่าทีมอื่นๆแข็งแกร่งกว่าเรา แต่เมื่อฤดูกาลที่แล้วเรามีขุมกำลังที่ดีที่สุด และปีนี้น่าจะดีขึ้นกว่าเก่าอีก มันไม่ใช่ทีมในอุดมคติ เพราะว่าพวกเรานำนักเตะเข้ามาใหม่ 7-8 คนในฤดูกาลที่แล้ว แต่มันก็ไม่สามารถช่วยให้คุณคว้าแชมป์อะไรได้เลย เราเริ่มต้นฤดูกาลด้วยนักเตะที่ไม่ได้มีมูลค่าสูงมากมายอะไร แต่ทีมชุดปัจจุบัน มีมูลค่าเทียบเท่ากับทีมอื่นๆแล้ว พวกเราเพิ่งจ่ายเงินก้อนโตไป แต่ก็ขายนักเตะออกไปมากเช่นกัน แต่โดยรวมแล้ว มันก็ยังน้อยกว่าทีมอื่นๆอยู่
พวกเขาจ่ายเงินเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีมเรียบร้อยแล้ว ขณะที่พวกเรากำลังสร้างทีมชุดใหม่ขึ้นมาให้พร้อมสมบูรณ์ มีนักเตะแค่ 3-4 คนที่เหลืออยู่ตั้งแต่ผมเข้ามา แต่พวกเขาเป็นผู้เล่นที่ดีมากๆ และทำให้เรามีขุมกำลังที่ดีพร้อมแล้ว บางที การคว้าแชมป์ยุโรปไม่ได้ช่วยอะไรเราได้เลย เพราะว่า มันทำให้ผู้คนเชื่อว่าเราพร้อมสำหรับแข่งลุ้นแชมป์ลีกแล้ว ซึ่งเราไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย แต่ในเวลานี้ พวกเราอยู่ในตำแหน่งที่พวกเราต้องการแล้ว คุณอาจเรียกมันว่าเป็นจุดเริ่มต้นก็ได้ แต่พวกเราก็ได้ประโยชน์หลายอย่าง จากการเรียนรู้ข้อผิดพลาดต่างๆที่เกิดขึ้นหลายปีหลังมานี้ และพวกเราก้าวขึ้นมาอยู่อีกระดับนึงแล้ว
เบนิเตซ ยังต้องการตอบแทนแฟนบอลที่หนุนหลังเขาตลอดเวลา ระหว่างช่วงที่ยากลำบากในซีซั่นก่อน ที่ดูเหมือนว่าเขาน่าจะกระเด็นออกไปจากถิ่นแอนฟิลด์
ผมมั่นใจมาตลอด ว่าผมน่าจะได้อยู่ที่นี่ต่อไป เพราะว่าผมเคยผ่านสถานการณ์แบบนี้มาก่อนในสเปน สิ่งเดียวที่คุณทำได้คือ ทำงานให้หนักขึ้น และเชื่อมั่นในตัวของคุณเองเข้าไว้ ผมได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากสตาฟฟ์ และผมคิดว่าพวกเราเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากเหตุการณ์นี้ แฟนบอลก็วิเศษมากๆเช่นเดียวกัน และผมรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อพวกเขา เพราะว่าพวกเขาให้ผมมากเหลือเกิน มันน่าจะเป็นเรื่องดีที่จะตอบแทนแฟนๆกลับคืนไปบ้าง
ปีแรก : เด็กใหม่
เบนิเตซหัวเราะร่ากับขุมกำลังของเขาที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกมาได้ ในฤดูกาลนี้ : บิสคาน, นูเนซ, โฆเซมี, สมิเซอร์, ฮามันน์ และมอริเอนเตซ เป็นนักเตะที่ลงสนามประจำสม่ำเสมอ แต่ ชาบี อลองโซ่ เดินเข้ามาพร้อมความหวัง
ปีที่ 2 : ลดช่องว่าง
เรน่า เป็นกุญแจสำคัญ เคียงข้างกับ เคร้าช์ และมีนักเตะหลายรายที่เดินเข้ามาในแอนฟิลด์ และออกไปอย่างรวดเร็ว ครอมแคมป์, กอนซาเลซ, ปาเล็ตต้า และเซนเด้น
ปีที่ 3 : เดินเครื่อง
ขุมกำลังใหม่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ มาสเคราโน่ เป็นการซื้อตัวที่สำคัญ เช่นเดียวกับการมาของแอ็กเกอร์ ทำให้ทีมมีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิม และสามารถฝ่าด่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกได้
ปีที่ 4 : พลังแห่งตอร์เรส
การเซ็นสัญญาที่แพงที่สุดของสโมสร และทำให้พวกเขาดูมีอนาคตที่สดใสรออยู่ แต่การคว้าตัว บาเบล,ลูคัส และ สเคอร์เทล ก็สำคัญไม่แพ้กัน
ปีที่ 5 : การผสานงานที่ขาดหาย
ได้ตัว ร็อบบี้ คีน มาเรียบร้อย และถ้า แบร์รี่ ย้ายมาอีกคน ลิเวอร์พูลจะกลายเป็นทีมใหม่อีกครั้ง การมี บาเบล, อลองโซ่, เค้าท์ และเดเก้น อยู่บนม้านั่งสำรอง นี่อาจเป็นนักเตะชุดที่ดีที่สุดของ ราฟา ในเวลานี้
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว