ในด้านของงานศิลปะ ประติมากรรม คือผลงานที่ผ่านการสร้างสรรค์จาก ประติมากร โดยประติมากรรมชิ้นงาม ย่อมเกิดจากประติมากรฝีมือดี ซึ่งก็ไม่ต่างจากวงการลูกหนัง ที่จะต้องมีกุนซือฝีมือเยี่ยมคอยขัดเกลา ดูแลนักเตะ ให้ระเบิดฟอร์มสุดยอดออกมา และ ราฟาเอล เบนิเตซ คือกุนซือที่ผมยกให้เป็น ประติมากรลูกหนัง
ถึงตรงนี้ ราฟา ใช้ฝีมือและมันสมองขัดเกลาจน ลิเวอร์พูล กลับมาติดลมบน โบยบินได้อย่างงามสง่าอีกครั้ง หลังจากพา หงส์แดง ก้าวไปคว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้ ซึ่งผมว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ สำหรับทีมที่กำลังอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่าง
เอลราฟา ประติมากรลูกหนังมือทอง
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับในความสำเร็จของ เบนิเตซ นั่นก็คือการปรับเปลี่ยนผู้เล่นภายในทีม ด้วยงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด
ทำให้ต้องผ่านการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก่อนจะตัดสินใจซื้อใครเข้ามาร่วมทีม รวมทั้งมันสมองอันเฉียบคมของ เอลราฟา ที่สามารถดึงประโยชน์จากนักเตะได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย
นักเตะอย่าง หลุยส์ การ์เซีย เดินหน้าสู่รั้ว แอนฟิลด์ หลังจากไม่มีแม้ตำแหน่งตัวสำรองในถิ่น คัมป์ นู ของ บาร์เซโลน่า การ์เซีย ไม่ค่อยได้รับโอกาสให้ลงสนามสมัยที่เล่นอยู่สเปน ทว่า เบนิเตซ ไม่ได้มองข้ามฝีเท้าและจินตนาการ ที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมของเขา ฤดูกาลแรกของ การ์เซีย ถือว่าสอบผ่าน เนื่องจากงบประมาณที่ลงทุนไปไม่มากนั่นเอง
เจมี่ คาร์ราเกอร์ กลายเป็นอดีตกองหลังจอมเฟอะฟะ หลังจากการเข้ามาของ เบนิเตซ ปราการดีกรีทีมชาติอังกฤษ โชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นตามลำดับ ความมุ่งมั่น ความทุ่มเท ที่มีอยู่ในตัวเขา ถูกกุนซือ กระทิงดุ กระตุ้นออกมาจนช่วยให้ คาร์ราเกอร์ พัฒนาตัวเอง ถึงวันนี้เขากลายเป็นหัวใจในแดนหลังของ หงส์แดง ไปแล้ว
ชาบี อลอนโซ่ รายนี้ หงส์แดง ต้องใช้งบสูงพอสมควร กว่าจะกระชากตัวมาได้ แต่เมื่อได้ยลฝีเท้า บอกได้คำเดียวว่าสุดคุ้ม เบนิเตซ อาศัยห้องเครื่องสเปน รายนี้ช่วยแบ่งเบาภาระในแดนกลางของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้อย่างไร้ที่ติ ด้วยการอ่านเกมที่เฉียบขาด และจังหวะวางบอลที่แม่นยำเหมือนจับวาง
ฌิมี่ ตราโอเร่ คือหนึ่งนักเตะที่ได้รับอานิสงส์จากฝีมือของ ราฟา แม้ว่ากองหลังผิวสีหน้าตาดีรายนี้ จะไม่สามารถเรียกฟอร์มออกมาได้สุดยอด แต่เขาก็ทำได้ดีในหลายๆ นัด ที่มี เบนิเตซ ยืนบัญชาเกมอยู่ข้างสนาม แต่ก็ต้องยอมรับว่า ถึงตรงนี้ ตราโอเร่ ไม่น่าจะได้รับโอกาสมากกว่านี้อีกแล้ว
เฟร์นานโด มอริเอนเตส ส่วนเกินของ รีล มาดริด เป็นอีกหนึ่งหน่อกระทิง ที่มุ่งหน้าสู่ ลิเวอร์พูล เอล มอโร่ มาพร้อมกับการจากไปของ ไมเคิ่ล โอเว่น ทำให้หลายคนตั้งความหวังไว้กับนักเตะรายนี้พอสมควร ผมว่ารวมทั้ง เบนิเตซ ด้วยนะ ที่หวังว่าเขาจะทำให้เกมรุกของทีมเฉียบขาดขึ้น
ช่วงแรก มอริเอนเตส ไม่ได้โชว์ฟอร์มเปรี้ยงปร้างเหมือนสมัยที่ถูก โมนาโก ยืมตัวไปเล่น จนปีนี้เขาต้องถูก ราฟา กระตุ้นด้วยการดึงตัว ปีเตอร์ เคร้าช์ หัวหอกเสาโทรเลขเข้ามาสู่ทีม ซึ่งก็เป็นหมากที่ได้ผลทีเดียว เมื่อ เอล มอโร่ เริ่มคลำเป้าเจอและยิงให้สาวก เร้ด แมชีน ได้เฮมากขึ้นเรื่อยๆ
แวะเวียนผ่านไปทักทาย ปีเตอร์ เคร้าช์ กันแล้ว ก็ไปที่ประเด็นร้อนเมื่อต้นฤดูกาลนี้กันดีกว่า หลังจาก ราฟาเอล เบนิเตซ จัดการเซ็นสัญญาคว้าตัวไอ้ก้านยาวมาร่วมทีม และส่งหอกเสาโทรเลขลงเล่นบ่อยครั้ง ทั้งๆ ที่หาเป้าไม่เจอเลย แม้ว่าจะมีโอกาสเป็นร้อยก็ตามที จนบางครั้งถูกสื่อ ผู้ดี แซวว่า เคร้าช์ คือลูกรัก
แต่ ป๋าราฟา ก็ยังไม่มีเจตนารมณ์ที่จะถอด เคร้าช์ ออกจาก 11 ตัวจริง จนในที่สุดอดีตหัวหอกเซาแธมป์ตัน ก็สนองพระเดชพระคุณให้ เบนิเตซ จนได้ เมื่อทะลวงตาข่ายคู่แข่งได้สำเร็จ และก็กลายมาเป็นส่วนสำคัญในแนวรุกของ หงส์แดง ในที่สุด
โฆเซ่ เรน่า นายทวารฝีมือดีเลือดกระทิง คือตัวเลือกที่ ราฟา นำมาเพื่อแก้ปัญหาหลังบ้าน หงส์แดง และก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง เมื่อ เปเป้ ทำสถิติไม่เสียประตูติดต่อกัน 10 นัดได้สำเร็จ ซึ่งเป็นสถิติเทียบเท่ากับ บรู๊ซ กร็อบเบลลาร์ อดีตนายทวารระดับตำนานของ ลิเวอร์พูล ที่เคยทำสถิติไม่เสียประตูทั้งในเกมลีก และเกมเอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 1987-1988 ติดต่อกัน 10 นัด
โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ กองกลางทีมชาติมาลี ราฟา หยิบชิ้นปลามันชิ้นนี้มาจาก บาเลนเซีย เพราะกองกลางทีมชาติมาลี รายนี้ ยากที่จะได้รับโอกาสให้ลงสนามให้ทีมดังแดนกระทิงดุ ผลงานของดาวเตะวัย 20 ปี เริ่มกระเตื้องขึ้นตามจำนวนเกมที่ได้ลงเล่น โมโม่ มีจังหวะปะทะที่ดุดัน ทำให้แดนกลางของ ลิเวอร์พูล แข็งแกร่งตามไปด้วย จนทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจาก ราฟา ให้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง
เบาเดอไวน์ เซนเด้น ย้ายมาจาก มิดเดิ้ลสโบรช์ แบบไม่มีค่าตัว เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ผลงานของ เซนเด้น ยังวัดผลงานอะไรมากไม่ได้ เพราะว่าเขาเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน ทำให้ต้องพักยาวแต่ว่าช่วงที่ได้ลงสนาม มิดฟิลด์ชาวดัตช์ รายนี้ก็ทำผลงานได้ดีพอสมควร
ขณะที่แข้งเก่าที่ดีอยู่แล้ว ราฟา ก็ยังคงเชื่อและศรัทธาในฝีเกือกของเขา ไม่ว่าจะเป็น สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ช่วงหลังมีอิสระในการเดินเกมมากขึ้น, ยอห์น อาร์เน รีเซ่ ที่กลับสู่ฟอร์มเก่งของตัวเอง, สตีฟ ฟินแนน ซึ่งรักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ, ซามี ฮูเปีย ที่เริ่มโรยราแต่ก็ยังยืนระยะช่วยทีมได้ตามสภาพ
ส่วนรายล่าสุดที่เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ก็เห็นจะเป็น แฮร์รี่ คีเวลล์ ปีกซ้ายทีมชาติออสเตรเลีย ที่เริ่มจะกลับมาสู่ฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง หลังเขาได้รับโอกาสจาก นายใหญ่ชาวสแปนิช อย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง จนมีแววจะกลับมาร่ายมนต์ได้อย่างโดดเด่น เหมือนสมัยสวมชุด ยูงทอง อีกครั้ง
ส่วนที่น่าผิดหวังอยู่บ้างเห็นจะเป็น โฆเซมี
เมื่อการทดลองของ ราฟา ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะไม่สามารถปรับตัวเขากับสไตล์บอลเมืองผู้ดี ได้ จนในที่สุดเขาก็กลายเป็นอดีตกับทีมไป แต่สิ่งหนึ่งที่ ราฟา แก้ไขในตัวของฟูลแบ็กสแปนิช รายนี้ได้สำเร็จก็คือสัญญาย้ายทีมที่มี แยน ครอมแค้มป์ เป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจจะเป็นกำไรชิ้นงามให้กับทีมก็เป็นได้ในอนาคต
โดยภาพรวมแล้วผมว่า ราฟาเอล เบนิเตซ เป็นกุนซือฝีมือดีคนหนึ่งเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องแท็กติกการเล่น การซื้อตัวผู้เล่น การใช้ประโยชน์จากนักเตะ แต่สิ่งหนึ่งที่ เบนิเตซ จะต้องรีบปรับปรุงโดยด่วน คงจะเป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญต่อไปในอนาคต และถ้าทำได้ก็น่าจะช่วยให้ ราฟา เป็น ประติมากรลูกหนังชั้นหนึ่ง เลยทีเดียว