หงส์เสียสถิตตีเจ๊าโบลตัน 2-2,ทอฟฟี่คืนชีพ,สาลิกาเกือบพัง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 มกราคม 2549 00:08 น.

หงส์แดง ลิเวอร์พูล หยุดสถิติชนะรวดเอาไว้ที่ 10 นัดหลังบุกไปตีเจ๊า โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส 2-2 ส่วน ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ฟอร์มเริ่มแจ่มหัก ดาบอัศวิน ชาร์ลตัน แอธเลติก 3-1 ด้าน สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เกือบพังไล่ตีเสมอ สิงห์แดง มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-2 ในศึก พรีเมียร์ชิพ นัดแรกของปี 2006

ศึก พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ
โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส 2 - 2 ลิเวอร์พูล

ทร็อตเตอร์ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ทีมอันดับ 7 เปิดรัง รีบอค สเตเดี้ยม ต้อนรับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 3 ที่ฟอร์มร้อนแรงชนะมา 10 นัดติดต่อกัน เจ้าถิ่นได้ เอล ฮัดจิ-ดิยุฟ พ้นโทษแบนกลับมาเจอกับทีมเก่า ส่วนทีมเยือนเปลี่ยนหลายตำแหน่งพัก ซาบี้ อลอนโซ่, ยอห์น อาร์เน รีเซ่ และ ฌิบริล ซิสเซ่ ไว้ข้างสนาม

เปิดฉากมา โบลตัน ได้ลูกฟรีคิกริมเส้นฝั่งซ้ายเปิดไปเสาสอง โฮเซ่ เรน่า ขึ้นรับบอลเบียดรับ แกรี่ สปีด ไม่อยู่ก่อนตามไปตะครุบเข้ามือแล้วแต่ว่า ซามี่ ฮูเปีย เตะบอลออกจากมือไปเข้าทาง ราดี้ ไจดี้ ที่โหม่งจ่อๆ เข้าไป โบลตัน ขึ้นนำเร็ว 1-0 ในนาทีที่ 10

ลิเวอร์พูล เริ่มตั้งเกมได้นาทีที่ 24 แฮร์รี่ คีเวลล์ โหม่งย้อนหลังให้กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด วอลเลย์เต็มๆ แต่ว่าติดกองหลัง โบลตัน จากนั้น ดีทมาร์ ฮามันน์ ตัดสินใจยิงไกลบอลพุ่งเรียดจะเสียบโคนเสาแต่ว่า ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ไม่พลาดพุ่งปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด

ลิเวอร์พูล ยังหาโอกาสยิงประตูตีเสมอแบบจะๆ ไม่ได้ส่วน โบลตัน ก็คอยสวนเป็นระยะ มาถึงนาทีที่ 37 อับดูลาเย่ เฟรย์ มิดฟิลด์ตัวรับของ โบลตัน โดนใบเหลืองเมื่อไปเสียบตัดเกมของ ปีเตอร์ เคร้าช์ อย่างน่าเกลียด จากนั้น 3 นาที เคร้าช์ โดนเหลืองบ้างเมื่อเข้าเสียบช้าใส่ ไจดี้

ใบเหลืองมาแบบติดๆ เลยในนาทีที่ 42 เมื่อ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ไปเตะบอลที่ตายไปแล้วอัดใส่เพื่อนเก่า เอล ฮัดจิ-ดิยุฟ จนเกือบจะมีเรื่องกัน ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ ยิงไกลแต่ ยัสเคไลเน่น ปัดออกไปได้ ครบ 45 นาที โบลตัน นำ ลิเวอร์พูล 1-0

เกมของ ลิเวอร์พูล ยังไม่ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลัง จนมาถึงนาทีที่ 58 ซิสโซโก้ โดนใบเหลืองเมื่อไปจงใจเตะขาหลัง ดิยุฟ เพื่อตัดเกม หงส์แดง อดรนทนไม่ไหวต้องเปลี่ยนตัวส่ง หลุยส์ การ์เซีย ลงมาแทน ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์ ในนาทีที่ 62

อีกสองนาทีถัดมา ลิเวอร์พูล ก็ส่งกองกลางตัวหลัก ซาบี้ อลอนโซ่ ลงมาแทน ฮามันน์ มาถึงนาทีที่ 66 โจอี้ โอไบรอัน พลาดไปเสียบ เจอร์ราร์ด ล้มลงในเขตโทษกรรมการเป่าเป็นจุดโทษและ เจอร์ราร์ด ลุกขึ้นมาแปเองเสียบเสาซ้ายมือ ยัสเคไลเน่น เข้าไป ลิเวอร์พูล ตีเสมอเป็น 1-1

แต่ว่าจังหวะบุกของ โบลตัน เพียงแค่ครั้งเดียวในนาทีที่ 71 ก็ส่งทีมขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 เมื่อ เควิน โนแลน จ่ายออกซ้ายให้กับ เควิน เดวี่ส์ หลุดไปก่อนจ่ายเข้ากลางให้กับ ดิยุฟ ปั๊มบอลกับ เรน่า ก่อนบอลปลิ้นเข้าประตูไป

นาทีที่ 82 อลอนโซ่ วางบอลยาวจากกลางสนามให้กับ หลุยส์ การ์เซีย พักอกหลบ ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ ในเขตโทษด้านขวาก่อนยิงด้วยซ้ายเสียบเสาแรกสุดสวย ลิเวอร์พูล ตีเสมอเป็น 2-2 จากนั้นมีการเปลี่ยนตัว โบลตัน ส่ง ทาล เบน ฮาอิม มาแทน ดิยุฟ ส่วน ลิเวอร์พูล ส่ง ฌิบริล ซิสเซ่ ลงมาแทน ซิสโซโก้

ลิเวอร์พูล บุกกดดันหนักโดยต้องการประตูชัยให้ได้และเกือบได้ในนาทีที่ 87 เมื่อ เจอร์ราร์ด เปิดจากกราบขวาให้กับ ซิสเซ่ ขวิดที่เสาแรกแต่บอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น หมดเวลาการแข่งขัน โบลตัน เสมอ ลิเวอร์พูล สุดมัน 2-2

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส - ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น, ราดี้ ไจดี้, บรูโน่ เอ็นก็อตติ, อับดูลาเย่ เฟรย์, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์, สติลิออส แยนนาโคปูลอส, เควิน โนแลน, โจอี้ โอไบรอัน, แกรี่ สปีด, เควิน เดวี่ส์, เอล ฮัดจิ-ดิยุฟ
ลิเวอร์พูล - โฮเซ่ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, สตีฟ ฟินแนน, ซามี่ ฮูเปีย, ฌิมี่ ตราโอเร่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ดีทมาร์ ฮามันน์, แฮร์รี่ คีเวลล์, โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้, ปีเตอร์ เคร้าช์, ฟลอร็องต์ ซินาม่า-ปงโกลล์

สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2549

เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ชนะ วีแกน แอธเลติก 2-0 (เจอร์เมน เพนแนนท์ 1-0 นาที 20), (มาริโอ เมลช็อต 2-0 นาที 33)
โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 (ราดี้ ไจดี้ 1-0 นาที 10), (สตีเว่น เจอร์ราร์ด 1-1 จุดโทษนาที 66), (เอล ฮัดจิ-ดิยุฟ 2-1 นาที 71), (หลุยส์ การ์เซีย 2-2 นาที 82)
เอฟเวอร์ตัน ชนะ ชาร์ลตัน แอธเลติก 3-1 (เจมส์ บีทตี้ 1-0 นาที 9), (แม็ตต์ ฮอลแลนด์ 1-1 นาที 18), (ทิม เคฮิลล์ 2-1 นาที 41), (ทิม เคฮิลล์ 3-1 นาที 59)
ฟูแล่ม ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-1 (เลียม ลอว์เรนซ์ 0-1 นาที 7), (คอลลินส์ จอห์น 1-1 นาที 43), (คอลลินส์ จอห์น 2-1 นาที 61)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เสมอ มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-2 (โนลเบอร์โต้ โซลาโน่ 1-0 นาที 27), (อเย็กบินี่ ยาคูบู 1-1 นาที 53), (จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ 1-2 นาที 87), (ลี คล้าก 2-2 นาที 90)
เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน แพ้ แอสตัน วิลล่า 1-2 (สตีเว่น เดวิส 0-1 นาที 47), (สตีฟ วัตสัน 1-1 นาที 76), (มิลาน บารอส 1-2 จุดโทษนาที 80)
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แพ้ เชลซี 1-3 (แฟร้งค์ แลมพาร์ด 0-1 นาที 25), (มาร์ลอน แฮร์วู้ด 1-1 นาที 46), (เฮอร์นัน เครสโป 1-2 นาที 62), (ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 1-3 นาที 80)