มอโร่เบิ้ลสกอร์หงส์เปิดรังจิกโบโร่โดดขึ้นที่ 2

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 ธันวาคม 2548 21:46 น.

เอล มอโร่ เฟอร์นานโด มอริเอนเตส จังหวะสังหารยอดเยี่ยมเบิ้ลสกอร์ช่วยให้ หงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ไล่จิกเอาชนะ มิดเดิลสโบรช์ ที่เหลือผู้เล่น 10 คน ช่วงท้ายเกม 2-0 พร้อมกับกระโดดขึ้นไปนั่งแท่นรองจ่าฝูงศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ และก็ไม่เสียประตูเป็นนัดที่ 10 ติดต่อกันในการแข่งขันทุกถ้วย

ฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ คู่หัวค่ำ
ลิเวอร์พูล 2-0 มิดเดิลสโบรช์

ราฟาเอล เบนิเตซ กำลังพา หงส์แดง ลิเวอร์พูล ไปได้สวยทีเดียว ในลีกทะลุขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ส่วนแชมเปี้ยนส์ ลีก กรุยทางเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย มาในสุดสัปดาห์นี้กลับมาเล่นในลีกอีกครั้ง และก็มีปัญหาแค่จุดเดียวนั่นก็คือ ดีทมาร์ ฮามันน์ ที่ได้พักหลังจากถูกเสียบหนักในเกมยุโรป แต่ก็ได้ ชาบี้ อลอนโซ่ หายเจ็บกลับมาเช่นเดียวกับ โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ ที่พ้นโทษแบน ส่วนคู่หน้าเป็นหน้าที่ของ ปีเตอร์ เคร้าช์ และเฟอร์นานโด มอริเอนเตส

ด้าน มิดเดิลสโบรช์ กุนซือ สตีฟ แม็คคลาเรน ประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายคนโดยเฉพาะ กาอิซก้า เมนเดียต้า หัวใจในแดนกลาง แต่ก็ยังมี ฟาบิโอ โรเชมบัค คอยเดินเกม จอร์จ บัวเต็ง คอยตัดเกม แดนหลัง แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังทำหน้าที่คู่กับ คริส ริกก็อตต์ ในแดนหน้ามีการสลับให้ มาร์ค วิดูก้า ลงมาจับคู่ล่าตาข่ายกับ ยาคูบู อเย็กเบนี่

เปิดฉากการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ซึ่งฟอร์มกำลังสดชนะในลีกมา 6 นัดติดต่อกัน เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเร้าใส่ทีมเยือนทันที เจอร์ราร์ด ซึ่งรับหน้าที่ทำเกมทางกราบขวาได้จังหวะส่องไกลสองหนแต่ยังไม่เข้าเป้า ผ่าน 15 นาที มิดเดิลสโบรช์ พอจะตั้งเกมสู้ได้บ้าง โรเชมบัค ได้โอกาสสับไกยิงเช่นกันแต่บอลก็หลุดกรอบออกไป

อีก 7 นาทีถัดมาเจ้าถิ่นได้โอกาสลุ้นประตูมากที่สุดตั้งแต่เริ่มเกมเมื่อรีเซ่ สาดบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากลางเลยไปให้มอริเอนเตส โหม่งย้อยๆ แต่ชวาร์เซอร์ ดีดตัวปัดบอลพ้นคานไปได้ ผ่านครึ่งชั่วโมง เจ้าถิ่นกลับมาเป็นฝ่ายครองเกมบุกได้อีกครั้งแต่จังหวะเข้าทำไม่ชัดเจน เคร้าช์ ได้ฉวัดเฉวียนโหม่งหลายหนแต่ยังปรับจูนไม่เข้ากรอบ เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นอีกหนเมื่อเคร้าช์ ได้โขกชงกลับไปให้ซิสโซโก้ พุ่งเข้ามาโขกอีกทอดแต่บอลดันพุ่งไปตรงตัวนายทวารทีมเยือนเสียอีก ทำให้จบ 45 นาทีแรก ยังไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบกัน

เริ่มครึ่งหลัง มิดเดิลสโบรช์ เกือบได้ประตูตั้งแต่หัววันเมื่อแผงหลังเจ้าบ้านเสียสมาธิปล่อยให้ลูกชิ่งของโรเชมบัค หลุดไปถึงวิดูก้า ได้ซัดเหน่งๆ ในเขตโทษแต่ยังเป็น เรน่า ซึ่งไม่เสียประตูมาติดต่อกัน 9 นัดในทุกถ้วย ใช้ขาเซฟชีวิตหงส์แดงเอาไว้ได้ เจ้าถิ่นตอบโต้กลับไปเหมือนกัน มอริเอนเตส ได้โอกาสสองหนติดทั้งยิงทั้งโหม่งแต่ยังไม่ผ่านเซฟของชวาร์เซอร์

ขุนพลลิเวอร์พูลเริ่มดันขึ้นไปขึงเกมบุกใส่ ทำให้ผู้เล่นมิดเดิลสโบรช์ต้องลงไปช่วยในเกมรับเสียเป็นส่วนใหญ่แต่ก็เกือบจะเสียประตูเมื่อคีเวลล์ ยิงบอลงัดๆ พุ่งไปสวยทีเดียวแต่ไม่มีน้ำหนักมากนักทำให้ชวาร์เซอร์ นายทวารเพื่อนร่วมทีมชาติออสเตรเลีย ปัดพ้นอันตรายไปได้อีก

เกมเดินทางมาถึงนาทีที่ 65 เบนิเตซ ต้องขยับเปลี่ยนตัวคนแรกเมื่อส่ง หลุยส์ การ์เซีย มาช่วยสร้างสรรค์เกมรุกให้เพื่อนและก็ถอด เคร้าช์ เกมต้องหยุดชะงักไปเนื่องจาก ฮูเปีย หัวไปโขกกับบัวเต็ง ถึงกับแตกต้องออกไปเย็บแผลข้างสนาม อย่างไรก็ตาม แม้จะมีผู้เล่นแค่ 10 คนชั่วคราวแต่ ลิเวอร์พูล ก็มาบินนำจนได้ 1-0 เมื่อการ์เซีย เปิดบอลจากขวา เจอร์ราร์ด ก้มหลบบอลไปถึงมอริเอนเตส จับบอลก่อนกระทุ้งเสียบตาข่ายในนาทีที่ 72

พอเสียประตูมิดเดิลสโบรช์ เปิดฉากบุกใส่ทันที วิดูก้า ทิ่มทะลุให้มอร์ริสัน หลุดเข้าไปยิงบอลแฉลบแขนเรน่า แต่ยังดีที่ไม่ตรงกรอบ เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แม็คคลาเรน เปลี่ยนแท็คติกส่ง จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ ลงมาแทนมอร์ริสัน แต่อีกสองนาทีถัดมากลายเป็นแฟนๆ หงส์แดงได้เฮอีกคำรบเมื่อเกอดรู โหม่งบอลพลาดทำให้ มอริเอนเตส หลุดไปกระดกข้ามตัวชวาร์เซอร์ เข้าไปตุงตาข่ายสกอร์ไหลเป็น 2-0

เข้าสู่ห้านาทีสุดท้ายสถานการณ์ของทีมเยือนแย่หนักเข้าไปใหญ่เมื่อ ริกก็อตต์ มาโดนใบเหลือง-แดงไล่ออกจากสนามไปทำให้ มิดเดิลสโบรช์ เหลือผู้เล่นในสนามแค่ 10 คน ครบ 90 นาที จึงไม่มีปัญหาสำหรับการเปิดบ้านเก็บสามแต้มเข้ากระเป๋าของลิเวอร์พูล นอกจากนี้ยังทำสถิติไม่เสียประตูในทุกถ้วย 10 นัด

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ่ เรน่า , สตีฟ ฟินแนน , เจมี่ คาร์ราเกอร์ , ซามี่ ฮูเปีย , ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ , สตีเว่น เจอร์ราร์ด , ชาบี้ อลอนโซ่ , โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ , แฮร์รี่ คีเวลล์ , เฟอร์นานโด มอริเอนเตส , ปีเตอร์ เคร้าช์

มิดเดิลสโบรช์ : มาร์ค ชวาร์เซอร์ , แม็ทธิว เบตส์ , แกเร็ธ เซาธ์เกต , คริส ริกก็อตต์ , ฟร้องค์ เกอดรู , เจมส์ มอร์ริสัน , ฟาบิโอ โรเชมบัค , จอร์จ บัวเต็ง , โดริวา , มาร์ค วิดูก้า , ยาคูบู อเย็กเบนี่