สองสมัยซ้อน! เรือใบดวลโทษเฉือนหงส์ 5-4 (1-1) คว้าคอมมูนิตี้ชิลด์

สองสมัยซ้อน! เรือใบดวลโทษเฉือนหงส์ 5-4 (1-1) คว้าคอมมูนิตี้ชิลด์


 

 

ฟุตบอล เอฟเอ คอมมูนิตี้ ชิลด์ 2019 คู่ระหว่าง ลิเวอร์พูล รองแชมป์ พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก 2018/2019 ณ เวมบลีย์ สเตเดียม

ฝั่ง หงส์แดง ฐานะรองแชมป์ เกมนี้ เยอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 เช่นกันนำมาโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , โรแบร์โต ฟีร์มิโน และ ดิว็อค โอริกี เป็นสามประสานในแนวรุก

เรือใบสีฟ้า คว้าเทรเบิ้ลแชมป์ฤดูกาล 2018/2019 เข้ามาในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีกและเอฟเอ คัพ เกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือวางหมากมาในระบบ 4-3-3 นำมาโดย โรดริโก , เควิน เดอ บรอยน์ , ดาบิด ซิลบา , แบร์นาร์โด ซิลวา และ ราฮีม สเตอร์ลิง

นาทีที่ 6 หงส์แดงได้ทักทายก่อน โรแบร์โต ฟีร์มิโน ได้โอกาสพลิกตัวยิงในเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ เคลาดิโอ บราโว

นาทีที่ 12 แชมป์พรีเมียร์ลีกได้เฮก่อน เมื่อ ดาบิด ซิลบา กระดกให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ตวัดจ่อๆ หน้าประตู อลิสซอน เอาไม่อยู่บอลลอดหว่างขาเข้าไป ซิตี้นำ 1-0

นาทีที่ 17 แมนฯ ซิตี้ได้ลุ้นประตูที่สอง จากจังหวะ เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษแต่โดนสกัด บอลไปเข้าทางปืน ราฮีม สเตอร์ลิง ได้ยิงยัดเสาแรก แต่ อลิสซอน เซฟไว้ได้

นาทีที่ 42 เป๊ป กวาร์ดิโอ ผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี้โดนใบเหลืองจากการเข้าไปต่อว่าผู้ตัดสินที่ 4 ทำให้กลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกในพรีเมียร์ลีกที่โดนใบเหลืองตามกฎใหม่ของฟีฟ่า

เกมครึ่งแรกเป็นทาง เดอะ ซิตี้เซน ที่ครองเกมได้เหนือกว่า แต่ยังได้แค่ประตูเดียว จบ 45 นาที แมนฯ ซิตี้ 1 ลิเวอร์พูล 0

เริ่มครึ่งหลังได้ 3 นาที เรือใบสีฟ้าเกือบได้ประตูเพิ่ม กาเบรียล เชซุส ตัวสำรองที่ลงมาใหม่ จ่ายบอลตามช่องให้ สเตอร์ลิง หลุดเดี่ยวไปยิงชนเสา

นาทีที่ 57 เรด แมชชีน พลาดประตูตีเสมออย่างน่าเสียดาย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดลูกเตะมุมเข้ามาถึง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้ตวัดด้วยซ้ายบอลชนคานล่างเด้งข้ามเส้น แต่เข้าไม่เต็มใบผู้ตัดสินไม่ให้ประตู

นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล ได้โอกาสทำประตูอีกครั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เก็บบอลในเขตโทษก่อนพลิกตัวยิงด้วยซ้ายบอลชนเสาแรก

นาทีที่ 77 แชมป์ยุโรปมาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 เมื่อ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ เก็บตกลูกฟรีคิกในเขตโทษก่อนแปยกเข้ามาหน้าประตูให้ โยเอล มาติป ตัวสำรองที่ลงมาแทน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ โขกเข้าไป

นาทีที่ 83 หงส์แดงได้ลุ้นประตูขึ้นนำ นาร์บี เกอิตา ตัวสำรองได้ตั้งป้อมแปด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ แต่ เคลาดิโอ บราโว กระโดดปัดออกมาได้

นาทีที่ 88 แมนฯ ซิตี้เกือบพลาดท่าเมื่อ โรดริโก จับบอลลั่น บอลมาถึง ซาลาห์ คนเดียวในเขตโทษแต่ยิงไม่ผ่านมือ บราโว ที่ออกมาบล็อคได้เร็ว

ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+3 ลิเวอร์พูลพลาดได้ประตูชัย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาบอลตะลุยมาในเขตโทษก่อนล็อคหนีตัวประกบและยิงด้วยซ้ายไปติดบล็อค จอห์น สโตน บอลกระดอนมาเข้าศีรษะโหม่งซ้ำ บอลกำลังย้อยเข้าประตูแต่ ไคล์ วอล์คเกอร์ ตามมาเตะสกัดไว้ได้อย่างเฉียดฉิว จากนั้นจบ 90 เสมอกัน 1-1 ต้องดวลจุดโทษตัดสิน

ช่วงดวลจุดโทษ

- ลิเวอร์พูล 1.เซอร์ดาน ชากิรี (เข้า) 2.จอร์จินโญ ไวนัลจ์ดุม (ไม่เข้า) 3. อดัม ลัลลานา (เข้า) 4.อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (เข้า) 5.โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (เข้า)

- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1.อิลคาย กุนโดกัน (เข้า) 2.แบร์นาร์โด ซิลวา (เข้า) 3. ฟิล โฟเดน (ข้า) 4. โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก (ข้า) 5.กาเบรียล เชซุส (เข้า)

จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะจุดโทษ ลิเวอร์พูล 5-4 (1-1) คว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ ฤดูกาล 2019/2020 ไปครอง


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี Goal.com


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 2 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 20:07 น. ]
ดูดวง เลขบัตรประชาชน คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์